นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า ตามที่ได้ เกิดอุทกภัยครั้งร้ายแรงในเขตจังหวัดภาคเหนือ 5 จังหวัด คือ จังหวัดอุตรดิตถ์ แพร่ สุโขทัย ลำปาง และน่าน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2549 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหาย รวมทั้งทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากนั้น กรมการประกันภัยได้มอบหมายให้สำนักงานประกันภัยจังหวัดดังกล่าวข้างต้นประสานกับจังหวัด และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเร่งติดตามช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นพร้อมทั้งหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำประกันภัยของผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อเร่งให้บริษัทประกันภัยดำเนินการจ่ายค่าชดเชยหรือค่าสินไหมทดแทนให้แก่ ผู้เอาประกันภัยโดยเร็วเป็นกรณีพิเศษ
นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช กล่าวต่อไปว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นหากผู้ประสบภัยรายใดมีการทำประกันภัยไว้จะได้รับการชดใช้จากบริษัทประกันภัย ซึ่งขณะนี้พบว่าผู้ประสบภัยที่จะได้รับการชดใช้ มีดังนี้
1. ผู้ที่ทำการประกันชีวิต
2. ผู้ที่ทำประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทร ซึ่งจะได้รับการชดใช้ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพถาวร ในวงเงิน 300,000 บาท
3. ผู้ที่ทำการประกันอัคคีภัยสำหรับทรัพย์สิน ซึ่งได้ซื้อภัยเพิ่ม “น้ำท่วม” ไว้ โดย จ่ายเบี้ยประกันภัยเพิ่มเพียงในอัตรา 0.01% - 0.1% หรือความคุ้มครอง 100,000บาท จ่ายเบี้ยประกันภัยเพิ่มเพียง 10-100 บาท เท่านั้น
4. ผู้ที่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองเฉพาะผู้ซื้อความคุ้มครองประเภท 1 ไว้ โดยจะได้รับความคุ้มครองทั้งรถคันที่ได้รับความเสียหายหรือหากมีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากการใช้รถในระหว่างการเกิดอุทกภัยดังกล่าว
นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายและมี การทำประกันภัยไว้ได้ตรวจสอบความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย หากได้รับความคุ้มครอง โปรดจัดเตรียมเอกสารหลักฐานความเสียหายและแจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อขอรับค่าสินไหมทดแทนต่อไป ขณะนี้กรมการประกันภัย สมาคมประกันวินาศภัย สมาคมประกันชีวิตไทย และบริษัทประกันภัยต่าง ๆ ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง ในเบื้องต้นได้จัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆที่จำเป็นนำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยยังที่เกิดเหตุแล้ว โดยสมาคมประกันวินาศภัยได้เดินทางนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2549 และมีหลายบริษัทได้จัดรถยกไปช่วยยกรถที่ถูกน้ำท่วมไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย และบางบริษัทได้นำ เครื่องอุปโภคบริโภคไปช่วยโดยตรงแก่ผู้ประสบภัยแล้ว ทั้งนี้ กรมการประกันภัยพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เอาประกันภัยอย่างเต็มที่ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอความช่วยเหลือโปรดติดต่อที่สำนักงานประกันภัยจังหวัดทั้ง 5 จังหวัด หรือสายด่วนประกันภัย 1186
ที่มา: http://www.doi.go.th