‘อลงกรณ์’ หอบ หลักฐานพิสูจน์โกหก ‘ลัทธพล’ พร้อมแจกซีดี จริง-เท็จ ให้ปชช.ตัดสิน 100 ชุดแรก จากนั้นจะนำออกขายด้วยตัวเองในราคา 10 บาท
นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แถลงวันนี้(22 ก.ค.)ที่พรรคประชาธิปัตย์ว่า ซีดีบันทึกคำให้การของนายลัทธพล เกษโกทิน เจ้าของบริษัท ลัทธ์เฟอร์ไทยที่ส่งไปตามสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมาปฏิเสธว่าไม่มีเรื่องเรียกรับสินบน 300 ล้านโครงการคาร์ปาร์คของสนามบินสุวรรณภูมิและถูกชายฉกรรจ์บังคับให้อัดวีซีดี.นั้น ตนคาดหมายแล้วว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ตั้งแต่เริ่มสอบสวนกรณีนี้เพราะเป็นทางออก 1 ใน 2 ทางที่กลุ่มผู้กระทำผิดจะหาทางคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น คือ 1. ต้องให้นายลัทธพลสูญหายตายจากเหมือนกรณีชิปปิ้งหมู เพราะเป็นพยานปากสำคัญที่สุด หรือ 2. บีบบังคับให้นายลัทธพลกลับคำให้การ ซึ่งยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความเลวร้ายของกลุ่มคนเหล่านี้เพราะสามารถทำได้ทุกอย่าง แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้คือความจริง ซึ่งตนมีพยานและหลักฐานที่ตรวจสอบแล้วมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า เรื่องนี้มีมูล ขณะนี้สาธารณชนต้องการรู้ว่า ใครพูดเท็จใครพูดจริง และวีซีดีที่นายลัทธพลบันทึกไว้ครั้งแรกกับวีซีดีล่าสุดจะเชื่อคำให้การชุดไหน
“เรื่องนี้พิสูจน์ไม่ยากด้วยคำถามง่ายๆ 2 คำถามคือ เหตุการณ์เรียกรับสินบนที่ร้องเรียนว่านางเยาวเรศ ชินวัตรและพวกเกี่ยวข้องด้วยเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และนายลัทธพลถูกบังคับให้บันทึกคำให้การในวีซีดีจริงหรือไม่” นายอลงกรณ์กล่าว
นายอลงกรณ์กล่าวว่า ประเด็นแรก มีหลักฐานว่านายลัทธพลได้ไปร้องเรียนกับคอลัมนิสต์คนหนึ่งของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์เมื่อต้นเดือนมกราคมปีนี้ และคอลัมนิสต์ท่านนั้นได้เขียนบทความเรื่องนี้ถึง 3 ครั้ง ซึ่งตนได้สอบถามคอลัมนิสต์ท่านนั้นและได้รับการยืนยันว่า นายลัทธพลได้มาร้องเรียนกรณีนี้จริง ซึ่งเป็นการตอบคำถามข้อแรก และตอบคำถามข้อสองได้ด้วยเพราะ เรื่องราวที่ปรากฏในบทความของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์สอดคล้องกับคำให้การที่นายลัทธพลบันทึกไว้ในวีซีดีและขอให้ดูวีซีดีก็จะเห็นชัดว่า อากัปกริยาของนายลัทธพลไม่ได้มีทีท่าว่าถูกบังคับให้พูดและการพูดต่อเนื่องที่ยาวนานเกือบครึ่งชั่วโมงโดยมีเนื้อความซับซ้อนถึงเหตุการณ์ต่างๆมากมาย ตนเชื่อว่าคงไม่มีใครจำบทพูดหรือท่องบทได้ละเอียดละออหากว่ามีการบีบบังคับให้พูด
นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า เมื่อเหตุการณ์เรียกรับผลประโยชน์เกิดขึ้นจริงและการบันทึกคำให้การของนายลัทธพลในวีซีดีเป็นไปด้วยความสมัครใจของนายลัทธพล ดังนั้นประเด็นถัดมาคือ ทำไมนายลัทธพลถึงต้องบันทึกวีซีดีล่าสุดปฏิเสธความจริงทั้งหมดถ้าไม่ใช่เพราะถูกบังคับใช่หรือไม่ และยิ่งเป็นการยืนยันถึงความเลวร้ายของกลุ่มผู้กระทำผิดว่าน่ากลัวกว่าที่เราคาดคิดถึงกับบังคับให้มีการกลับคำให้การ
“ผมสงสารนายลัทธพลและเห็นใจที่เขาไม่มีทางเลือก ถ้าไม่ยอมกลับคำให้การก็คงจะมีชะตากรรมเหมือนชิบปิ้งหมูพยานปากเอกในคดีการเลี่ยงภาษีของบริษัทครอบครัวท่านนายกฯ ถ้าชิปปิ้งหมูยอมกลับคำให้การเขาก็คงไม่ตายใช่หรือไม่ นายลัทธพลเลือกที่จะพูดเท็จเพื่อความอยู่รอดซึ่งเขาควรถูกตำหนิแต่คนที่ควรถูกตำหนิมากกว่าคือคนที่ไปบังคับขู่เข็ญเขามากกว่า และผมข้องใจว่าทำไมถึงไม่มีหน่วยงานของรัฐบาลแม้แต่หน่วยเดียวดูแลปกป้องนายลัทธพลเพื่อนำตัวมาสอบปากคำและกันไว้เป็นพยาน ปล่อยให้นายลัทธพลต้องตกอยู่ในลูกแกะในวงล้อมของฝูงหมาป่าเสมือนบ้านนี้เมืองนี้ไม่มีขื่อมีแป” นายอลงกรณ์
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า การสอบสวนกรณีเรียกรับสินบนคาร์ปาร์คจึงเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะมีการออกมาตอบโต้ดิสเครดิตจาก ส.ส.รัฐบาลทุกวัน แต่ตนไม่เคยท้อถอยระลึกเสมอว่า เราเป็นผู้แทนราษฎรมีหน้าที่และความรับผิดชอบอยู่บนสองบ่าและต้องเป็นที่พึ่งพาของประชาชนได้แม้จะต้องเสี่ยงอันตรายเพราะต้องสู้กับกลุ่มที่มีอิทธิพลและอำนาจมากที่สุดในประเทศไทยซึ่งเขาพร้อมจะทำอะไรก็ได้แม้แต่การบิดเบือนข้อเท็จจริงด้วยวิธีการที่ผิดกฏหมายและทำนองครองธรรมก็ตาม ตนได้รับเอกสารหลักฐานในเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงใกล้เคียงกับการเกิดคดีสินบนข้ามชาติซีทีเอ็กซ์ 9000 จึงมีภาระในการตรวจสอบคดีซีทีเอ็กซ์และต้องเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจจนเสร็จภาระกิจ จึงเริ่มสืบสวนสอบสวนคดีสินบนคาร์ปาร์คและเมื่อตรวจสอบพยานบุคคลและหลักฐานแล้วมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีมูลจึงแถลงข่าวเปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมาซึ่งคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตและฝ่ายกฏหมายของพรรคฯได้ข้อสรุปว่ามีการกระทำผิดกฎหมายอาญาจึงดำเนินการยกร่างคำแจ้งความเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกลุ่มผู้กระทำผิดต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งตนจะต้องให้ปากคำพร้อมระบุพยานบุคคลและหลักฐานประกอบการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ถ้าไม่เป็นความจริงก็ถือเป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานมีโทษถึงจำคุก ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ดังนั้นในวันจันทร์ที่ 25 ก.ค. 48 เวลา 08.30 น. ตนจะเดินทางไปยังกองปราบปรามเพื่อแจ้งความดังกล่าว
ทั้งนี้นายอลงกรณ์เตรียมแจกซีดี 100 ชุดแรกแก่ผู้ที่สนใจ จากนั้นจะนำออกจำหน่ายด้วยตนเอง ณ สวนจตุจักร หรือ บริเวณเซ็นเตอร์พอยส์ เป็นต้น โดยจำหน่ายในราคา 10 บาท
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 22 ก.ค. 2548--จบ--
นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แถลงวันนี้(22 ก.ค.)ที่พรรคประชาธิปัตย์ว่า ซีดีบันทึกคำให้การของนายลัทธพล เกษโกทิน เจ้าของบริษัท ลัทธ์เฟอร์ไทยที่ส่งไปตามสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมาปฏิเสธว่าไม่มีเรื่องเรียกรับสินบน 300 ล้านโครงการคาร์ปาร์คของสนามบินสุวรรณภูมิและถูกชายฉกรรจ์บังคับให้อัดวีซีดี.นั้น ตนคาดหมายแล้วว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ตั้งแต่เริ่มสอบสวนกรณีนี้เพราะเป็นทางออก 1 ใน 2 ทางที่กลุ่มผู้กระทำผิดจะหาทางคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น คือ 1. ต้องให้นายลัทธพลสูญหายตายจากเหมือนกรณีชิปปิ้งหมู เพราะเป็นพยานปากสำคัญที่สุด หรือ 2. บีบบังคับให้นายลัทธพลกลับคำให้การ ซึ่งยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความเลวร้ายของกลุ่มคนเหล่านี้เพราะสามารถทำได้ทุกอย่าง แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้คือความจริง ซึ่งตนมีพยานและหลักฐานที่ตรวจสอบแล้วมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า เรื่องนี้มีมูล ขณะนี้สาธารณชนต้องการรู้ว่า ใครพูดเท็จใครพูดจริง และวีซีดีที่นายลัทธพลบันทึกไว้ครั้งแรกกับวีซีดีล่าสุดจะเชื่อคำให้การชุดไหน
“เรื่องนี้พิสูจน์ไม่ยากด้วยคำถามง่ายๆ 2 คำถามคือ เหตุการณ์เรียกรับสินบนที่ร้องเรียนว่านางเยาวเรศ ชินวัตรและพวกเกี่ยวข้องด้วยเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และนายลัทธพลถูกบังคับให้บันทึกคำให้การในวีซีดีจริงหรือไม่” นายอลงกรณ์กล่าว
นายอลงกรณ์กล่าวว่า ประเด็นแรก มีหลักฐานว่านายลัทธพลได้ไปร้องเรียนกับคอลัมนิสต์คนหนึ่งของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์เมื่อต้นเดือนมกราคมปีนี้ และคอลัมนิสต์ท่านนั้นได้เขียนบทความเรื่องนี้ถึง 3 ครั้ง ซึ่งตนได้สอบถามคอลัมนิสต์ท่านนั้นและได้รับการยืนยันว่า นายลัทธพลได้มาร้องเรียนกรณีนี้จริง ซึ่งเป็นการตอบคำถามข้อแรก และตอบคำถามข้อสองได้ด้วยเพราะ เรื่องราวที่ปรากฏในบทความของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์สอดคล้องกับคำให้การที่นายลัทธพลบันทึกไว้ในวีซีดีและขอให้ดูวีซีดีก็จะเห็นชัดว่า อากัปกริยาของนายลัทธพลไม่ได้มีทีท่าว่าถูกบังคับให้พูดและการพูดต่อเนื่องที่ยาวนานเกือบครึ่งชั่วโมงโดยมีเนื้อความซับซ้อนถึงเหตุการณ์ต่างๆมากมาย ตนเชื่อว่าคงไม่มีใครจำบทพูดหรือท่องบทได้ละเอียดละออหากว่ามีการบีบบังคับให้พูด
นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า เมื่อเหตุการณ์เรียกรับผลประโยชน์เกิดขึ้นจริงและการบันทึกคำให้การของนายลัทธพลในวีซีดีเป็นไปด้วยความสมัครใจของนายลัทธพล ดังนั้นประเด็นถัดมาคือ ทำไมนายลัทธพลถึงต้องบันทึกวีซีดีล่าสุดปฏิเสธความจริงทั้งหมดถ้าไม่ใช่เพราะถูกบังคับใช่หรือไม่ และยิ่งเป็นการยืนยันถึงความเลวร้ายของกลุ่มผู้กระทำผิดว่าน่ากลัวกว่าที่เราคาดคิดถึงกับบังคับให้มีการกลับคำให้การ
“ผมสงสารนายลัทธพลและเห็นใจที่เขาไม่มีทางเลือก ถ้าไม่ยอมกลับคำให้การก็คงจะมีชะตากรรมเหมือนชิบปิ้งหมูพยานปากเอกในคดีการเลี่ยงภาษีของบริษัทครอบครัวท่านนายกฯ ถ้าชิปปิ้งหมูยอมกลับคำให้การเขาก็คงไม่ตายใช่หรือไม่ นายลัทธพลเลือกที่จะพูดเท็จเพื่อความอยู่รอดซึ่งเขาควรถูกตำหนิแต่คนที่ควรถูกตำหนิมากกว่าคือคนที่ไปบังคับขู่เข็ญเขามากกว่า และผมข้องใจว่าทำไมถึงไม่มีหน่วยงานของรัฐบาลแม้แต่หน่วยเดียวดูแลปกป้องนายลัทธพลเพื่อนำตัวมาสอบปากคำและกันไว้เป็นพยาน ปล่อยให้นายลัทธพลต้องตกอยู่ในลูกแกะในวงล้อมของฝูงหมาป่าเสมือนบ้านนี้เมืองนี้ไม่มีขื่อมีแป” นายอลงกรณ์
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า การสอบสวนกรณีเรียกรับสินบนคาร์ปาร์คจึงเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะมีการออกมาตอบโต้ดิสเครดิตจาก ส.ส.รัฐบาลทุกวัน แต่ตนไม่เคยท้อถอยระลึกเสมอว่า เราเป็นผู้แทนราษฎรมีหน้าที่และความรับผิดชอบอยู่บนสองบ่าและต้องเป็นที่พึ่งพาของประชาชนได้แม้จะต้องเสี่ยงอันตรายเพราะต้องสู้กับกลุ่มที่มีอิทธิพลและอำนาจมากที่สุดในประเทศไทยซึ่งเขาพร้อมจะทำอะไรก็ได้แม้แต่การบิดเบือนข้อเท็จจริงด้วยวิธีการที่ผิดกฏหมายและทำนองครองธรรมก็ตาม ตนได้รับเอกสารหลักฐานในเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงใกล้เคียงกับการเกิดคดีสินบนข้ามชาติซีทีเอ็กซ์ 9000 จึงมีภาระในการตรวจสอบคดีซีทีเอ็กซ์และต้องเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจจนเสร็จภาระกิจ จึงเริ่มสืบสวนสอบสวนคดีสินบนคาร์ปาร์คและเมื่อตรวจสอบพยานบุคคลและหลักฐานแล้วมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีมูลจึงแถลงข่าวเปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมาซึ่งคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตและฝ่ายกฏหมายของพรรคฯได้ข้อสรุปว่ามีการกระทำผิดกฎหมายอาญาจึงดำเนินการยกร่างคำแจ้งความเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกลุ่มผู้กระทำผิดต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งตนจะต้องให้ปากคำพร้อมระบุพยานบุคคลและหลักฐานประกอบการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ถ้าไม่เป็นความจริงก็ถือเป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานมีโทษถึงจำคุก ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ดังนั้นในวันจันทร์ที่ 25 ก.ค. 48 เวลา 08.30 น. ตนจะเดินทางไปยังกองปราบปรามเพื่อแจ้งความดังกล่าว
ทั้งนี้นายอลงกรณ์เตรียมแจกซีดี 100 ชุดแรกแก่ผู้ที่สนใจ จากนั้นจะนำออกจำหน่ายด้วยตนเอง ณ สวนจตุจักร หรือ บริเวณเซ็นเตอร์พอยส์ เป็นต้น โดยจำหน่ายในราคา 10 บาท
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 22 ก.ค. 2548--จบ--