นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ในอนาคตประเทศไทยจะต้องเผชิญกับการแข่งขันจากต่างประเทศที่สูงขึ้น จากการเปิดตลาดภาคบริการทางการเงินจากแรงกดดันของกระแสโลกาภิวัตน์ และเขตการค้าเสรีต่างๆ ขณะที่ระบบการเงินและสถาบันการเงินของไทย แม้จะมีความมั่นคงเข้มแข็งในระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังจำเป็นต้องได้รับการปฏิรูปเพื่อให้สามารถรองรับกระแสดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเตรียมการรองรับไปแล้วบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (Financial Sector Master Plan) แผนพัฒนาตลาดทุนไทย แผนพัฒนากฎหมายของกรมการประกันภัย พ.ศ. 2548 และแผนแม่บทการเงินฐานราก เป็นต้น ซึ่งครอบคลุมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจประกันภัย ดังนั้น สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจึงมีโครงการที่จะศึกษาวิจัยเกี่ยวกับแผนแม่บทภาคบริการทางการเงิน เพื่อเชื่อมโยงแผนพัฒนาที่มีอยู่ในปัจจุบันและเสนอมาตรการปฏิรูประบบการเงินเพิ่มเติมหากมีความเหมาะสม เพื่อให้ครอบคลุมภาคบริการทางการเงินทั้งระบบ
ทั้งนี้ โครงการศึกษาวิจัยดังกล่าวจะมีการศึกษาวิเคราะห์ระบบการเงินไทยทั้งในอดีต ปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต การศึกษาแผนพัฒนาภาคการเงินไทยในสาขาต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน การศึกษาประสบการณ์ของต่างประเทศ อาทิ การปฏิรูประบบการเงินของประเทศญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมนี และเกาหลีใต้ เช่น ในเรื่องขอบเขตการทำธุรกิจของสถาบันการเงินที่เปิดกว้างขึ้น เป็นต้น รวมทั้งการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาทั้งสิ้น 6 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงกันยายน 2549 การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ แผนแม่บทภาคบริการทางการเงินจะเป็นประโยชน์ในเชิงนโยบาย เนื่องจากมีการเสนอมาตรการเพิ่มเติมต่อยอดจากแผนพัฒนาภาคการเงินไทยในสาขาต่างๆ ที่มีอยู่ ในปัจจุบัน และเชื่อมโยงแผน ที่มีอยู่ดังกล่าวให้มีการดำเนินการสอดคล้องกันอย่างเป็นระบบ อันจะนำมาซึ่งเสถียรภาพและความแข็งแกร่งของระบบการเงินไทย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสถาบันการเงินของไทยเพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเปิดเสรีภาคบริการทางการเงินในอนาคต
ในส่วนของเนื้อหาของแผนแม่บทภาคบริการทางการเงิน จะประกอบด้วย มาตรการในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานภาคบริการทางการเงินของประเทศ การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและขยายขอบเขตธุรกิจบริการทางการเงิน การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถาบันการเงิน การเพิ่มการแข่งขันในตลาดการเงิน และมาตรการรองรับการเปิดเสรีภาคบริการทางการเงินในอนาคต รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแลบริการด้านการเงิน
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 33/2549 7 เมษายน 49--
ทั้งนี้ โครงการศึกษาวิจัยดังกล่าวจะมีการศึกษาวิเคราะห์ระบบการเงินไทยทั้งในอดีต ปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต การศึกษาแผนพัฒนาภาคการเงินไทยในสาขาต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน การศึกษาประสบการณ์ของต่างประเทศ อาทิ การปฏิรูประบบการเงินของประเทศญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมนี และเกาหลีใต้ เช่น ในเรื่องขอบเขตการทำธุรกิจของสถาบันการเงินที่เปิดกว้างขึ้น เป็นต้น รวมทั้งการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาทั้งสิ้น 6 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงกันยายน 2549 การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ แผนแม่บทภาคบริการทางการเงินจะเป็นประโยชน์ในเชิงนโยบาย เนื่องจากมีการเสนอมาตรการเพิ่มเติมต่อยอดจากแผนพัฒนาภาคการเงินไทยในสาขาต่างๆ ที่มีอยู่ ในปัจจุบัน และเชื่อมโยงแผน ที่มีอยู่ดังกล่าวให้มีการดำเนินการสอดคล้องกันอย่างเป็นระบบ อันจะนำมาซึ่งเสถียรภาพและความแข็งแกร่งของระบบการเงินไทย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสถาบันการเงินของไทยเพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเปิดเสรีภาคบริการทางการเงินในอนาคต
ในส่วนของเนื้อหาของแผนแม่บทภาคบริการทางการเงิน จะประกอบด้วย มาตรการในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานภาคบริการทางการเงินของประเทศ การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและขยายขอบเขตธุรกิจบริการทางการเงิน การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถาบันการเงิน การเพิ่มการแข่งขันในตลาดการเงิน และมาตรการรองรับการเปิดเสรีภาคบริการทางการเงินในอนาคต รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแลบริการด้านการเงิน
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 33/2549 7 เมษายน 49--