อานิสงส์ FTA ชีสไทยโกอินเตอร์

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 5, 2006 15:49 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

          นางอัญชนา วิทยาธรรมธัช ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านมาตรการการค้า (นักวิชาการพาณิชย์ 9 ชช.) กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าขณะนี้การทำ FTA กับออสเตรเลียผ่านไปแล้ว 1 ปี กรมเจรจาฯ จึงได้ติดตามตรวจสอบผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ และเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2549 ที่ผ่านมา ได้นำคณะเจ้าหน้าที่กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมปศุสัตว์ และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรพร้อมสื่อมวลชน เข้าเยี่ยมชมกิจการของบริษัท ไมเนอร์ ชีส จำกัด อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่อยู่ในกลุ่มผู้ผลิตนมและผลิตภัณฑ์นม โดยผลิตชีสหรือเนยแข็งและไอศครีม ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการเปิดตลาดชีสภายใต้ FTA ไทย-ออสเตรเลีย โดยการค่อยๆ ทยอยลดภาษีลงจนเหลือ 0% ในระยะเวลา 15 ปี
นางถนอมศรี พฤฒิกุล รองประธานและผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไมเนอร์ชีส จำกัด ได้กล่าวขอบคุณกระทรวงพาณิชย์โดยเฉพาะกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่สามารถเจรจาให้ระยะเวลาการปรับตัวอย่างเพียงพอ คือ 15 ปี ก่อนที่ภาษีจะค่อยๆ ทยอยลดเหลือ 0% ยิ่งไปกว่านั้น ยังเจรจาให้ไทยสามารถใช้มาตรการปกป้องพิเศษ หรือที่เรียกว่า Special Safeguard (SSG) กับสินค้าเกษตรอ่อนไหวอีกหลายรายการรวมทั้งผลิตภัณฑ์ชีส อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทฯจะได้รับผลกระทบจากการเปิดตลาดชีส แต่ก็ได้มีการพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการปรับตัวเพื่อรองรับกับการเปิดเสรี โดยสามารถขยายธุรกิจจากการผลิตชีสเพื่อขายภายในประเทศเป็นการจำหน่ายไปต่างประเทศ และขยายธุรกิจด้านอาหารและบริการโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงาน เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า โดยปัจจุบันสามารถที่จะขยายบริษัทในเครือที่ใช้ชีสในการผลิตอาหาร เช่น เดอะพิซซ่าคอมปานี ซิสเล่อร์ สเวนเซ่น เบเกอร์คิง เป็นต้น และได้รับการตอบรับจากการขยายแฟรนไชส์ของแบรนด์เหล่านี้ในประเทศจีนเป็นอย่างดี
จีนเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ไทยก็ได้มีข้อตกลงการค้าเสรีภายใต้กรอบของอาเซียน-จีน ซึ่งบริษัท ไมเนอร์ ชีส จำกัด เห็นว่าการที่กรมเจรจาฯ สามารถเจรจาให้สินค้าชีสอยู่ในกลุ่มสินค้าบุกเบิกตลาดจีน (Early Harvest) โดยจีนยอมทยอยลดภาษีชีสลงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2547 จนเหลือ 0% ในวันที่ 1 มกราคม 2549 ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจจากการผลิตชีสเพื่อขายภายในประเทศเป็นการจำหน่ายไปต่างประเทศต่างๆ ในแถบเอเชียรวมทั้งจีนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยก่อนเปิดเสรี ไทยไม่มีการส่งออกชีสไปจีน แต่หลังเปิดเสรี ไทยสามารถส่งออกชีสไปยังจีนได้ โดยในปี 2548 การส่งออกชีสของไทยไปจีนมีมูลค่าถึง 43,000 เหรียญสหรัฐฯ และใน 7 เดือนแรกของปีนี้ไทยมีมูลค่าการส่งออกชีสไปจีนถึง 142,000 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัด
นางอัญชนาฯ กล่าวต่อว่าการเปิดเขตการค้าเสรีของไทย-ออสเตรเลียที่ผ่านมาทำให้การค้าระหว่างสองประเทศมีมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.49) การค้าของสองฝ่ายมีมูลค่าประมาณ 140,909 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11 โดยไทยส่งออกไปออสเตรเลียมูลค่า 74,406 ล้านบาท (+32%) และนำเข้าจากออสเตรเลีย 66,503 ล้านบาท (-5.85%) โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า ประมาณ 7,902 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัท ไมเนอร์ชีส จำกัด เป็นบริษัทในเครือของบริษัท ไมเนอร์ฟู๊ดกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีบริษัทในเครือหลายบริษัท ประกอบด้วย บริษัท เดอะพิซซ่าคอมปานี บริษัทสเวนเซ่น (ไทย) จำกัด บริษัทเบเกอร์คิง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทไมเนอร์แดรี่ จำกัด บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล แฟรนไชส์ โฮลดิ้ง เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ