ไทยและชิลีเตรียมศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำเขตการค้าเสรีร่วมกัน เพื่อขยายการค้าและการลงทุน และเป็นข้อมูลประกอบการเยือนชิลีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในเดือนตุลาคมศกนี้
นางศรีวิชชา รักจำรูญ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้เปิดเผยว่า ไทยได้เป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าระหว่างไทยกับชิลี ครั้งที่ 3 ในวันที่ 24 มิถุนายน 2548 หลังจากที่คณะกรรมการดังกล่าวได้ว่างเว้นการประชุมร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2531 โดยผลการประชุมที่สำคัญมี ดังนี้
ได้มีการเตรียมการที่จะศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำเขตการค้าเสรีระหว่างกัน เพื่อให้ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในระหว่างการเยือนชิลีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเดือนตุลาคม2548
นางศรีวิชชา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมทางการค้า เพื่อหาทางขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น ปัจจุบันการค้าระหว่างไทยกับชิลี ยังมีมูลค่าไม่มากนัก โดยในปี 2547 มีมูลค่า 276.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.1 ของมูลค่าการค้ารวมของไทย โดยไทยส่งออกไป ชิลีมีมูลค่า 104.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และนำเข้าจากชิลีเป็นมูลค่า 172.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปชิลี ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ปูนซิเมนต์ เครื่องซักผ้า เครื่องซักแห้ง และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป สำหรับสินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากชิลี ได้แก่ สินแร่โลหะ เช่น ทองแดง เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ ผัก ผลไม้ หนังดิบและหนังฟอก และเคมีภัณฑ์
ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าไทยและชิลียังมีลู่ทางขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยควรสนับสนุนให้ภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายมีกิจกรรมร่วมกันเพิ่มขึ้น เช่น การแลกเปลี่ยนการเยือนของคณะผู้แทนทางการค้าและการลงทุน การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า รวมทั้งจัดทำโครงการแลกเปลี่ยนนักธุรกิจระหว่างไทย-ชิลี สนับสนุนให้ทำการค้าโดยใช้ e-commerce และแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าและการลงทุนผ่านทาง internet ตลอดจนจัดทำคู่มือเพื่อแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายทราบถึงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระหว่างกัน
ในเรื่องความร่วมมือด้านอื่นๆ ได้มีการหารือเพื่อให้มีการลงนามในความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช รวมทั้ง MOU ว่าด้วยการเกษตร และฝ่ายชิลีได้ให้ความสนใจที่จะเรียนรู้ประสบการณ์ของไทยในด้านการท่องเที่ยว โดยได้ขอให้มีการปฏิบัติตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือ ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งได้ลงนามไปเมื่อปี 2546
ชิลีนับเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจดี ประชากรมีกำลังซื้อสูง ซึ่งไทยสามารถที่จะใช้ชิลีเป็นประตูการค้าไปสู่ตลาดในอเมริกาใต้ และชิลีก็สนใจที่จะใช้ไทยเป็นประตูเข้าสู่ตลาดอาเซียน
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-