หนังสือพิมพ์ เวอร์ชาร์ฟ แบล็ต ของประเทศออสเตรีย พาดหัวข่าวเรื่องไม่ถูกกฎหมายของบริษัทสไตเออร์ (ที่ขายรถถัง) ว่ามีความพยายามที่จะหาทางกู้ซากการขายรถดับเพลิงให้กับประเทศไทย โดยได้ตีพิมพ์ว่า
นายคริสเตียน ฟลุค ประธานบริษัทสไตเออร์ ได้รับมอบหมายงานการขายรถดับเพลิงต่อ ยอมรับว่าเป็นงานที่มีความหนักใจอย่างยิ่ง นายฟลุคพยายามอย่างหนักที่จะแก้ปัญหาที่มีผลคุกคามต่อความอยู่รอดของบริษัทสไตเออร์ ด้วยการพยายามกู้ซากการขายรถดับเพลิงซึ่งมีการเซ็นสัญญาไว้เมื่อ 2 ปีก่อน โดยนายมาริโอ มีน่าร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่คนเดิม
บริษัทสไตเออร์ ได้ขายรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงมูลค่าประมาณ 6,700 ล้านบาท (134 ล้านยูโร) ให้กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) แต่ขณะนี้ กทม. ได้ปฏิเสธที่จะรับรถดับเพลิงงวดที่ 2 และต้องการยกเลิกสัญญาการซื้อขาย ด้วยเหตุผลที่ทาง กทม. ต้องการยกเลิกสัญญาเนื่องจากพบว่ารถดับเพลิงมีราคาแพงเกินจริง และมีขั้นตอนในการดำเนินการที่ไม่โปร่งใส
นายฟลุค และนายโทมัส จอร์แดน ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของบริษัท สไตเออร์ ได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อพบกับ ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบสัญญาการจัดซื้อรถดับเพลิงของกทม. โดยมีผลสรุปโดย ดร.วัลลภ ว่า กทม.และบริษัทสไตเออร์ จะตั้งคณะกรรมการร่วมกันในการสอบสวนเรื่องนี้ และหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน แต่ทางบริษัทสไตเออร์ ไม่ยอมให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่จะเกิดขึ้น และจะรับข้อเสนอของทาง กทม. หรือไม่
จนถึงขณะนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ประเทศไทย พบความผิดปกติหลายอย่างของกระบวนการจัดซื้อ ซึ่งมีนักการเมือง จำนวน 7 คน ประกอบด้วย อดีต รมต. กระทรวงมหาดไทย, อดีต รมช. กระทรวงมหาดไทย ตลอดจนผู้บริหารระดับสูงของ กทม. ตกเป็นผู้ต้องหาในการทำผิดกฎหมาย นอกจากนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังดำเนินการตรวจสอบบัญชีเงินฝากของบุคคลดังกล่าว พร้อมทั้งสรุปเรื่องส่งไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ดำเนินการต่อไป
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เล่าว่า หนังสือพิมพ์เวอร์ชาร์ฟ แบล็ต เป็นหนังสือพิมพ์ธุรกิจฉบับเดียวในประเทศออสเตรีย ที่ติดตามการตรวจสอบเรื่องการขายรถดับเพลิงของบริษัทสไตเออร์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวได้ทำการติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์ตนเพื่อไปทำสกู๊ฟอีกด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 ก.ค. 2549--จบ--
นายคริสเตียน ฟลุค ประธานบริษัทสไตเออร์ ได้รับมอบหมายงานการขายรถดับเพลิงต่อ ยอมรับว่าเป็นงานที่มีความหนักใจอย่างยิ่ง นายฟลุคพยายามอย่างหนักที่จะแก้ปัญหาที่มีผลคุกคามต่อความอยู่รอดของบริษัทสไตเออร์ ด้วยการพยายามกู้ซากการขายรถดับเพลิงซึ่งมีการเซ็นสัญญาไว้เมื่อ 2 ปีก่อน โดยนายมาริโอ มีน่าร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่คนเดิม
บริษัทสไตเออร์ ได้ขายรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงมูลค่าประมาณ 6,700 ล้านบาท (134 ล้านยูโร) ให้กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) แต่ขณะนี้ กทม. ได้ปฏิเสธที่จะรับรถดับเพลิงงวดที่ 2 และต้องการยกเลิกสัญญาการซื้อขาย ด้วยเหตุผลที่ทาง กทม. ต้องการยกเลิกสัญญาเนื่องจากพบว่ารถดับเพลิงมีราคาแพงเกินจริง และมีขั้นตอนในการดำเนินการที่ไม่โปร่งใส
นายฟลุค และนายโทมัส จอร์แดน ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของบริษัท สไตเออร์ ได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อพบกับ ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบสัญญาการจัดซื้อรถดับเพลิงของกทม. โดยมีผลสรุปโดย ดร.วัลลภ ว่า กทม.และบริษัทสไตเออร์ จะตั้งคณะกรรมการร่วมกันในการสอบสวนเรื่องนี้ และหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน แต่ทางบริษัทสไตเออร์ ไม่ยอมให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่จะเกิดขึ้น และจะรับข้อเสนอของทาง กทม. หรือไม่
จนถึงขณะนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ประเทศไทย พบความผิดปกติหลายอย่างของกระบวนการจัดซื้อ ซึ่งมีนักการเมือง จำนวน 7 คน ประกอบด้วย อดีต รมต. กระทรวงมหาดไทย, อดีต รมช. กระทรวงมหาดไทย ตลอดจนผู้บริหารระดับสูงของ กทม. ตกเป็นผู้ต้องหาในการทำผิดกฎหมาย นอกจากนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังดำเนินการตรวจสอบบัญชีเงินฝากของบุคคลดังกล่าว พร้อมทั้งสรุปเรื่องส่งไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ดำเนินการต่อไป
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เล่าว่า หนังสือพิมพ์เวอร์ชาร์ฟ แบล็ต เป็นหนังสือพิมพ์ธุรกิจฉบับเดียวในประเทศออสเตรีย ที่ติดตามการตรวจสอบเรื่องการขายรถดับเพลิงของบริษัทสไตเออร์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวได้ทำการติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์ตนเพื่อไปทำสกู๊ฟอีกด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 ก.ค. 2549--จบ--