1. ภาพรวมเศรษฐกิจเกษตรปี 2549
สศก.ได้ประมาณการอัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคเกษตรปี 2549 ขยายตัวอัตราร้อยละ 4.6 การผลิตภาคเกษตรโดยรวมเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากภูมิอากาศในช่วงครึ่งแรกของปีเอื้อต่อการเพาะปลูก และราคาสินค้าเกษตรโดยรวมในปี 2548 อยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรขยายการผลิตในเกือบทุกสินค้า แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยและอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นช้างสารก็ตาม
-ปัจจัยบวก
1) ราคาสินค้าเกษตรโดยรวมในปี 2549 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ใกล้เคียงกับปี 2548
2) มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ในปี 2549 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2548 ประมาณ ร้อยละ 14.3
-ปัจจัยลบ
1) ปัญหาเรื่องภัยธรรมชาติ จากปัญหาอุทกภัยในช่วงเดือน ส.ค. — พ.ย. ปี 2549 มีพื้นที่ประสบภัยประมาณ 7.7 ล้านไร่ พื้นที่ที่คาดว่าเสียหายสิ้นเชิงประมาณ 2.1 ล้านไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 7,000 ล้านบาท
2) ผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาปัจจัยการผลิตเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะการทำประมงทะเล
3) ปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดนก แม้ภาครัฐจะสามารถควบคุมการระบาดของโรคไข้หวัดนกได้ แต่ก็ไม่สามารถกำจัดให้หมดไปได้อย่างสิ้นเชิง ทำให้ไม่สามารถส่งออกไก่สดแช่เย็นและแช่แข็งได้ในช่วงที่ผ่านมา
1.1 สาขาพืช ในภาพรวมการผลิตดีขึ้น เนื่องจากภูมิอากาศในช่วงครึ่งแรกของปีเอื้อต่อการเพาะปลูก และราคาสินค้าเกษตรโดยรวมในปี 2548 อยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรขยายการผลิตในเกือบทุกสินค้า จากปัญหาอุทกภัยในช่วงเดือน ส.ค.-พ.ย. ส่งผลให้พื้นที่ราบลุ่มเจ้าพระยาได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก สินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ข้าวนาปี ส่วนพืชไร่และพืชผักได้รับผลกระทบไม่มากนัก ทำให้ในภาพรวมมูลค่าการผลิตในสาขาพืช ปี 2549 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1
-การผลิต
1) สินค้าที่มีผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และอ้อยโรงงาน
2) สินค้าที่มีผลผลิตลดลง ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และถั่วเหลือง
-ราคาที่เกษตรกรขายได้
1) สินค้าที่มีราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวนาปรัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา และอ้อย
2) สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และถั่ว
-การส่งออก
1) สินค้าที่มีส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และยางพารา
2) สินค้าที่มีส่งออกลดลง ได้แก่ น้ำมันปาล์ม และน้ำตาล
1.2 สาขาปศุสัตว์
-การผลิต ขยายตัวเพิ่มขึ้นอัตราร้อยละ 9.1 เนื่องจากปริมาณการผลิตปศุสัตว์โดยเฉพาะไก่เนื้อเพิ่มขึ้นมาก เป็นผลจากการฟื้นตัวหลังจากการระบาดของไข้หวัดนก ในขณะที่สุกรมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากปัญหาโรคทางระบบสืบพันธุ์และทางเดินหายใจ (PRRS) และโรคปากเปื่อยเท้าเปื่อย
-ราคาที่เกษตรกรขายได้ ทั้งไก่และสุกรลดลง
-การส่งออก เนื้อไก่ส่งออกได้เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของไข้หวัดนก เพราะการดำเนินการของภาครัฐและการปรับตัวของเกษตรกร โดยเฉพาะไก่แปรรูปที่ได้รับความเชื่อถือจากผู้บริโภคเนื่องจากการผลิตที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย ในขณะที่เนื้อสุกรแปรรูปมีแนวโน้มส่งออกเพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยในการบริโภคมากยิ่งขึ้น
1.3 สาขาประมง ประมงทะเลมีการผลิตเพิ่มขึ้นอัตราร้อยละ 4.2 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากผลผลิตกุ้งที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการเพิ่มการผลิตกุ้งขาวซึ่งให้ผลผลิตที่สูงกว่ากุ้งกุลาดำ ประกอบกับกุ้งขาวทนต่อโรคดีกว่าและระยะเวลาในการเพาะเลี้ยงสั้นกว่ากุ้งกุลาดำ แม้ว่าจะยังคงได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติและราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นก็ตาม
1.4 สาขาป่าไม้และบริการทางการเกษตร
-สาขาป่าไม้ มีมูลค่าการผลิตลดลงอัตราร้อยละ 5.8
-สาขาบริการทางการเกษตร มีมูลค่าการผลิตเพิ่มขึ้นอัตราร้อยละ 4.4
2. แนวโน้มภาพรวมการเกษตร ปี 2550
แนวโน้มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศภาคเกษตร ปี 2550 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4-5 เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรโดยรวมในปี 2549 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ถึงแม้บางสินค้าจะมีความผันผวนบ้าง แต่คาดว่าภาครัฐจะเข้ามาดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ประกอบกับการขับเคลื่อนของภาครัฐภายใต้แผนปฏิบัติการภาคเกษตร ในการเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพของภาคเกษตร ในขณะที่ปัจจัยเสี่ยงของภาคเกษตรยังคงเป็นปัญหาภัยธรรมชาติ โรคระบาด และราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยสาขาพืช ปศุสัตว์ ประมงและบริการทางการเกษตรขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4 - 5 , 9 - 10 , 2 - 3 และ 3 - 4 ตามลำดับ ส่วนสาขาป่าไม้คาดว่าจะขยายตัวลดลงร้อยละ 4 - 5
-ข้อสมมติฐาน
1) สภาพภูมิอากาศเป็นปกติ
2) การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
3) การดำเนินนโยบายของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
4) อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 35.5 - 36.5 บาท/เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-
สศก.ได้ประมาณการอัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคเกษตรปี 2549 ขยายตัวอัตราร้อยละ 4.6 การผลิตภาคเกษตรโดยรวมเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากภูมิอากาศในช่วงครึ่งแรกของปีเอื้อต่อการเพาะปลูก และราคาสินค้าเกษตรโดยรวมในปี 2548 อยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรขยายการผลิตในเกือบทุกสินค้า แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยและอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นช้างสารก็ตาม
-ปัจจัยบวก
1) ราคาสินค้าเกษตรโดยรวมในปี 2549 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ใกล้เคียงกับปี 2548
2) มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ในปี 2549 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2548 ประมาณ ร้อยละ 14.3
-ปัจจัยลบ
1) ปัญหาเรื่องภัยธรรมชาติ จากปัญหาอุทกภัยในช่วงเดือน ส.ค. — พ.ย. ปี 2549 มีพื้นที่ประสบภัยประมาณ 7.7 ล้านไร่ พื้นที่ที่คาดว่าเสียหายสิ้นเชิงประมาณ 2.1 ล้านไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 7,000 ล้านบาท
2) ผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาปัจจัยการผลิตเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะการทำประมงทะเล
3) ปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดนก แม้ภาครัฐจะสามารถควบคุมการระบาดของโรคไข้หวัดนกได้ แต่ก็ไม่สามารถกำจัดให้หมดไปได้อย่างสิ้นเชิง ทำให้ไม่สามารถส่งออกไก่สดแช่เย็นและแช่แข็งได้ในช่วงที่ผ่านมา
1.1 สาขาพืช ในภาพรวมการผลิตดีขึ้น เนื่องจากภูมิอากาศในช่วงครึ่งแรกของปีเอื้อต่อการเพาะปลูก และราคาสินค้าเกษตรโดยรวมในปี 2548 อยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรขยายการผลิตในเกือบทุกสินค้า จากปัญหาอุทกภัยในช่วงเดือน ส.ค.-พ.ย. ส่งผลให้พื้นที่ราบลุ่มเจ้าพระยาได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก สินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ข้าวนาปี ส่วนพืชไร่และพืชผักได้รับผลกระทบไม่มากนัก ทำให้ในภาพรวมมูลค่าการผลิตในสาขาพืช ปี 2549 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1
-การผลิต
1) สินค้าที่มีผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และอ้อยโรงงาน
2) สินค้าที่มีผลผลิตลดลง ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และถั่วเหลือง
-ราคาที่เกษตรกรขายได้
1) สินค้าที่มีราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวนาปรัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา และอ้อย
2) สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และถั่ว
-การส่งออก
1) สินค้าที่มีส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และยางพารา
2) สินค้าที่มีส่งออกลดลง ได้แก่ น้ำมันปาล์ม และน้ำตาล
1.2 สาขาปศุสัตว์
-การผลิต ขยายตัวเพิ่มขึ้นอัตราร้อยละ 9.1 เนื่องจากปริมาณการผลิตปศุสัตว์โดยเฉพาะไก่เนื้อเพิ่มขึ้นมาก เป็นผลจากการฟื้นตัวหลังจากการระบาดของไข้หวัดนก ในขณะที่สุกรมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากปัญหาโรคทางระบบสืบพันธุ์และทางเดินหายใจ (PRRS) และโรคปากเปื่อยเท้าเปื่อย
-ราคาที่เกษตรกรขายได้ ทั้งไก่และสุกรลดลง
-การส่งออก เนื้อไก่ส่งออกได้เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของไข้หวัดนก เพราะการดำเนินการของภาครัฐและการปรับตัวของเกษตรกร โดยเฉพาะไก่แปรรูปที่ได้รับความเชื่อถือจากผู้บริโภคเนื่องจากการผลิตที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย ในขณะที่เนื้อสุกรแปรรูปมีแนวโน้มส่งออกเพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยในการบริโภคมากยิ่งขึ้น
1.3 สาขาประมง ประมงทะเลมีการผลิตเพิ่มขึ้นอัตราร้อยละ 4.2 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากผลผลิตกุ้งที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการเพิ่มการผลิตกุ้งขาวซึ่งให้ผลผลิตที่สูงกว่ากุ้งกุลาดำ ประกอบกับกุ้งขาวทนต่อโรคดีกว่าและระยะเวลาในการเพาะเลี้ยงสั้นกว่ากุ้งกุลาดำ แม้ว่าจะยังคงได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติและราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นก็ตาม
1.4 สาขาป่าไม้และบริการทางการเกษตร
-สาขาป่าไม้ มีมูลค่าการผลิตลดลงอัตราร้อยละ 5.8
-สาขาบริการทางการเกษตร มีมูลค่าการผลิตเพิ่มขึ้นอัตราร้อยละ 4.4
2. แนวโน้มภาพรวมการเกษตร ปี 2550
แนวโน้มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศภาคเกษตร ปี 2550 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4-5 เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรโดยรวมในปี 2549 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ถึงแม้บางสินค้าจะมีความผันผวนบ้าง แต่คาดว่าภาครัฐจะเข้ามาดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ประกอบกับการขับเคลื่อนของภาครัฐภายใต้แผนปฏิบัติการภาคเกษตร ในการเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพของภาคเกษตร ในขณะที่ปัจจัยเสี่ยงของภาคเกษตรยังคงเป็นปัญหาภัยธรรมชาติ โรคระบาด และราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยสาขาพืช ปศุสัตว์ ประมงและบริการทางการเกษตรขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4 - 5 , 9 - 10 , 2 - 3 และ 3 - 4 ตามลำดับ ส่วนสาขาป่าไม้คาดว่าจะขยายตัวลดลงร้อยละ 4 - 5
-ข้อสมมติฐาน
1) สภาพภูมิอากาศเป็นปกติ
2) การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
3) การดำเนินนโยบายของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
4) อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 35.5 - 36.5 บาท/เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-