ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. คลังและ ธปท.ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้มาตรการป้องกันค่าเงินบาท รายงานข่าวจาก ก.คลัง เปิดเผยว่า
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รอง นรม.และ รมว.คลัง และนาง ธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. ได้เชิญสื่อทั้งจากในและต่างประเทศ มาให้
สัมภาษณ์โดยตรงที่ ก.คลังและที่ ธปท. เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้มาตรการป้องกันค่าเงินบาทของ ธปท. โดยเฉพาะมาตรการ
กันสำรอง 30% ซึ่งทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นจนตลาดหุ้นไทยตกต่ำสุดในประวัติศาสตร์ถึง 108 จุด และทำให้มูลค่าตลาดหรือมาร์เก็ตแคปหายไปกว่า
8.2 แสน ล.บาทเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังเป็นการเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ (เดลินิวส์)
2. ธปท.กำหนดให้สถาบันการเงินเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตาม IAS39 นายเกริก วณิกกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกประกาศถึงบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ บริษัทเงินทุน และธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง
เรื่องสินทรัพย์ที่ไม่มีราคาหรือเรียกคืนไม่ได้และสินทรัพย์ที่สงสัยว่าจะไม่มีราคาหรือเรียกคืนไมได้ ตามมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ (IAS)
ฉบับที่ 39 ซึ่งจะนำมาใช้ในช่วงปี 51 เพื่อให้สถาบันการเงินมีการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตาม และเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อฐานะการ
เงินของสถาบันการเงินมากนัก ดังนั้น ธปท.ได้กำหนดให้สถาบันการเงินทยอยกันเงินสำรองตาม IAS39 หลังจากงวดบัญชีของปี 49 เป็นต้นไป
(ผู้จัดการรายวัน, กรุงเทพธุรกิจ )
3. หอการค้าต่างประเทศหวั่นการแก้ไขกฎหมายประกอบธุรกิจคนต่างด้าวจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของคนต่างด้าว
นายปีเตอร์ จอห์น แวน ฮาเรน ประธานหอการค้าต่างประเทศในไทย เปิดเผยว่า หอการค้าต่างประเทศ 28 แห่ง และสถานเอกอัครราชทูต
ของต่างชาติในไทยได้หารือร่วมกัน เกี่ยวกับกรณีที่ไทยจะปรับปรุงแก้ไขกฎหมายประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ซึ่งมีความเห็นร่วมกันว่า หากมีการ
กำหนดคำนิยามธุรกิจของคนต่างด้าวจากสัดส่วนการถือหุ้นและสิทธิในการออกเสียง จากเดิมที่กำหนดให้พิจารณาเฉพาะสัดส่วนการถือหุ้น จะส่ง
ผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของคนต่างด้าว ในส่วนของแหล่งข่าวจากคณะกรรมการศึกษาพิจารณายกร่างแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจ
ของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 กล่าวว่า นิยามธุรกิจของคนต่างด้าว จะมีการเพิ่มเติมจากกฎหมายฉบับเดิมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความ
ชัดเจนขึ้น และไม่ขัดต่อข้อตกลงกับองค์การการค้าโลก (กรุงเทพธุรกิจ)
4. ยอดจำหน่ายทองคำในปี 49 ลดลง 30% จากปีก่อน นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายทองคำในปี 49 ลดลง
ประมาณ 30% เทียบกับปี 48 เนื่องจากเป็นปีที่มีความผันผวนของราคาทอง ตามภาวะน้ำมันแพง การเก็งกำไรค่าเงินบาท และความไม่มั่นใจ
ต่อการบริโภคของประชาชน นอกจากนี้ เชื่อว่าความผันผวนของราคาทองยังคงต่อเนื่องไปถึงปี 50 โดยคาดการณ์ว่าราคาทองคำตลาดลอนดอน
จะขยับเป็น 700 ดอลลาร์ สรอ./ออนซ์ จากปัจจุบันราคาอยู่ที่ 623.4 ดอลลาร์ สรอ./ออนซ์ สำหรับราคาซื้อขายทองสูงสุดในปี 49 อยู่ที่
719 ดอลลาร์ สรอ./ออนซ์ หรือคิดเป็นราคาจำหน่ายในประเทศบาทละ 12,900 บาท ในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา (มติชน)
5. ข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลียส่งผลให้ไทยส่งออกสินค้าเซรามิคไปยังตลาดออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 20.2% อธิบดีกรม
เจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.48 เป็นต้นมา ส่งผลให้
สินค้าเซรามิคของไทยส่งออกไปยังตลาดออสเตรเลียเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 20.2% และมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 6 และทำให้
ไทยเกินดุลการค้าเซรามิคกับออสเตรเลียประมาณ 17.5 ล.ดอลลาร์ สรอ. โดยไทยมีการนำเข้าเซรามิคจากออสเตรเลีย 0.3 ล.ดอลลาร์
สรอ.เท่านั้น (มติชน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสรอ. ในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.49 ก.พาณิชย์ สรอ.
เปิดเผยว่า ในเดือน พ.ย. ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อเครื่องบินเพิ่มขึ้น แต่เมื่อ
ไม่นับรวมยอดคำสั่งซื้ออุปกรณ์การขนส่งรวมถึงเครื่องบิน ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลงอย่างผิดคาดร้อยละ 1.1 ลดลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่
2 ทั้งนี้นักวิเคราะห์จากผลการสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนโดยรวมจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เมื่อ
ไม่นับรวมยอดคำสั่งซื้อสินค้าเกี่ยวกับการขนส่ง โดยยอดคำสั่งซื้อสินค้าและอุปกรณ์การขนส่งในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 เนื่องจากยอด
คำสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารเพิ่มขึ้นร้อยละถึง 7.2 ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อเครื่องบินรบและชิ้นส่วนอุปกรณ์เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อที่ไม่นับ
รวมเครื่องบินรบเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.6 น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 ทั้งนี้ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่นับรวม
อาวุธและเครื่องบินซึ่งเป็นเครื่องวัดการใช้จ่ายของภาคธุรกิจลดลงอย่างผิดคาดร้อยละ 1.4 ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 (รอยเตอร์)
2. คำสั่งซื้อใหม่สินค้าอุตสาหกรรมใน Euro zone ลดลงร้อยละ 0.6 ในเดือน ต.ค.49 เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.49 แต่
เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 เมื่อเทียบต่อปีรายงานจากบรัสเซลส์ เมื่อ 22 ธ.ค.49 Eurostat ซึ่งเป็น สนง.สถิติกลางของยุโรปรายงานคำสั่งซื้อใหม่
สินค้าอุตสาหกรรมใน Euro zone ลดลงร้อยละ 0.6 ในเดือน ต.ค.49 เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.49 จากที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ
0.2 ต่อเดือน แต่อย่างไรก็ดี หากเทียบต่อปีแล้ว คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 ต่อปี สูงกว่าที่รอยเตอร์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0 ต่อปี
สินค้าที่มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นสูงสุดคือโลหะ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ต่อปี ในขณะที่คำสั่งซื้อในภาคการขนส่งเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำสุดเพียงร้อยละ 3.7 ต่อปี
โดยหากไม่รวมคำสั่งซื้อเรือ รถไฟและเครื่องบินแล้ว คำสั่งซื้อในเดือน ต.ค.49 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 ต่อเดือนและร้อยละ 12.6 เมื่อเทียบต่อปี
แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่าคำสั่งซื้อซึ่งเป็นตัวชี้แนวโน้มผลผลิตอุตสาหกรรมในอีก 2-3 เดือนจะชะลอตัวลง แต่ภาพรวมเศรษฐกิจใน Euro zone ยังอยู่ใน
เกณฑ์ดี นักเศรษฐศาสตร์จึงคาดว่า ธ.กลางยุโรปหรือ ECB จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 3.75 ต่อปีในไตรมาสแรกปี 50
เพื่อชะลอภาวะเงินเฟ้อจากการขยายตัวของเศรษฐกิจและปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ (รอยเตอร์)
3. อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือน ธ.ค.49 อยู่ที่ร้อยละ 1.4 ต่อปีต่ำกว่าที่คาดไว้ รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อ 22 ธ.ค.49
สนง.สถิติกลางของเยอรมนีรายงานตัวเลขเบื้องต้นดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีในเดือน ธ.ค.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 ต่อปี ชะลอตัวลงจาก
ร้อยละ 1.5 ต่อปีในเดือน พ.ย.49 โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.49 และหากคำนวณตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปหรือที่
เรียกว่า HICP จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ต่อปี และเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.49 ในขณะที่ผลสำรวจรอยเตอร์คาดว่าดัชนีราคา
ผู้บริโภคในเดือน ธ.ค.49 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ต่อปี ทั้งนี้คาดว่าเป็นผลมาจากบริษัทห้างร้านไม่ต้องการขึ้นราคาสินค้าก่อนที่อัตราภาษีที่เรียก
เก็บจากผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 3.0 ในต้นปี 50 นักเศรษฐศาสตร์บางคนจึงคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของเขตเศรษฐกิจยุโรปหรือ
Euro zone จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ต่อปีในเดือน ธ.ค.49 ลดลงจากร้อยละ 1.9 ที่คาดไว้ แต่ก็มีนักเศรษฐศาสตร์ที่คงประมาณการไว้ที่ร้อยละ
1.9 ต่อปีและคาดว่าการขึ้นอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคจะทำให้อัตราเงินเฟ้อในเยอรมนีอยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 2.5 ต่อปีในไตรมาสแรก
ปี 50 ก่อนที่จะชะลอตัวลงหลังจากนั้นในปีเดียวกัน ทั้งนี้ตามข้อมูลข้างต้นอัตราเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยทั้งปี 49 ของเยอรมนีจะอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ต่อปี
เทียบกับร้อยละ 2.0 ต่อปีในปี 48 โดยเยอรมนีมีกำหนดจะรายงานตัวเลขสุดท้ายดัชนีราคาผู้บริโภคสำหรับเดือน ธ.ค.49 ในกลางเดือน
ม.ค.50 (รอยเตอร์)
4. ธ.กลางจีนคาดว่าเศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัวและมีภาวะเงินเฟ้อปานกลาง รายงานจากเชียงไฮ/ปักกิ่ง เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.49
สำนักวิจัยของธ.กลางจีนตีพิมพ์รายงานในวารสารตลาดหลักทรัพย์ของจีนว่า เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงในปีหน้าเนื่องจากการลงทุนและการส่งออก
อ่อนตัวลงขณะที่การบริโภคยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในปีหน้าจะชะลอตัวอยู่ที่ร้อยละ 9.8 จากที่
ขยายตัวร้อยละ 10.5 ในปีนี้ ส่วนภาวะเงินเฟ้อคาดว่าจะเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 2.0 ในปี 50 จากร้อยละ 1.4 ในปีนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันและ
สินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การลงทุนและการส่งออกชะลอตัว ทั้งนี้สำนักวิจัยคาดการณ์ดังกล่าวบนพื้นฐานเศรษฐกิจโลกขยายตัวร้อยละ 5.0 ในปีนี้
และร้อยละ 4.8 ในปีหน้า และอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามคาดว่าการส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกของปีหน้าจะยังคง
ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความต้องการสินค้าจากภายนอกประเทศยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่ในช่วงครึ่งปีหลังจะชะลอตัวลงส่วนหนึ่ง
เนื่องจากผลกระทบจากการปรับลดเงินช่วยเหลือภาษีเพื่อการส่งออก การปกป้องทางการค้า และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของ สรอ. ซึ่งล้วนส่ง
ผลกระทบต่อการส่งออกของจีน (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 25 ธ.ค. 49 22 ธ.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล่
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 36.453 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 36.2380/36.6349 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.1285 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 680.31/13.66 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,650/10,750 10,650/10,750 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 58.51 58.63 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเมื่อ 23 ธ.ค. 49 ** ปรับเมื่อ 16 ธ.ค. 49 26.49*/23.34** 26.09/23.34** 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. คลังและ ธปท.ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้มาตรการป้องกันค่าเงินบาท รายงานข่าวจาก ก.คลัง เปิดเผยว่า
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รอง นรม.และ รมว.คลัง และนาง ธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. ได้เชิญสื่อทั้งจากในและต่างประเทศ มาให้
สัมภาษณ์โดยตรงที่ ก.คลังและที่ ธปท. เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้มาตรการป้องกันค่าเงินบาทของ ธปท. โดยเฉพาะมาตรการ
กันสำรอง 30% ซึ่งทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นจนตลาดหุ้นไทยตกต่ำสุดในประวัติศาสตร์ถึง 108 จุด และทำให้มูลค่าตลาดหรือมาร์เก็ตแคปหายไปกว่า
8.2 แสน ล.บาทเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังเป็นการเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ (เดลินิวส์)
2. ธปท.กำหนดให้สถาบันการเงินเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตาม IAS39 นายเกริก วณิกกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกประกาศถึงบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ บริษัทเงินทุน และธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง
เรื่องสินทรัพย์ที่ไม่มีราคาหรือเรียกคืนไม่ได้และสินทรัพย์ที่สงสัยว่าจะไม่มีราคาหรือเรียกคืนไมได้ ตามมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ (IAS)
ฉบับที่ 39 ซึ่งจะนำมาใช้ในช่วงปี 51 เพื่อให้สถาบันการเงินมีการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตาม และเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อฐานะการ
เงินของสถาบันการเงินมากนัก ดังนั้น ธปท.ได้กำหนดให้สถาบันการเงินทยอยกันเงินสำรองตาม IAS39 หลังจากงวดบัญชีของปี 49 เป็นต้นไป
(ผู้จัดการรายวัน, กรุงเทพธุรกิจ )
3. หอการค้าต่างประเทศหวั่นการแก้ไขกฎหมายประกอบธุรกิจคนต่างด้าวจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของคนต่างด้าว
นายปีเตอร์ จอห์น แวน ฮาเรน ประธานหอการค้าต่างประเทศในไทย เปิดเผยว่า หอการค้าต่างประเทศ 28 แห่ง และสถานเอกอัครราชทูต
ของต่างชาติในไทยได้หารือร่วมกัน เกี่ยวกับกรณีที่ไทยจะปรับปรุงแก้ไขกฎหมายประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ซึ่งมีความเห็นร่วมกันว่า หากมีการ
กำหนดคำนิยามธุรกิจของคนต่างด้าวจากสัดส่วนการถือหุ้นและสิทธิในการออกเสียง จากเดิมที่กำหนดให้พิจารณาเฉพาะสัดส่วนการถือหุ้น จะส่ง
ผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของคนต่างด้าว ในส่วนของแหล่งข่าวจากคณะกรรมการศึกษาพิจารณายกร่างแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจ
ของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 กล่าวว่า นิยามธุรกิจของคนต่างด้าว จะมีการเพิ่มเติมจากกฎหมายฉบับเดิมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความ
ชัดเจนขึ้น และไม่ขัดต่อข้อตกลงกับองค์การการค้าโลก (กรุงเทพธุรกิจ)
4. ยอดจำหน่ายทองคำในปี 49 ลดลง 30% จากปีก่อน นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายทองคำในปี 49 ลดลง
ประมาณ 30% เทียบกับปี 48 เนื่องจากเป็นปีที่มีความผันผวนของราคาทอง ตามภาวะน้ำมันแพง การเก็งกำไรค่าเงินบาท และความไม่มั่นใจ
ต่อการบริโภคของประชาชน นอกจากนี้ เชื่อว่าความผันผวนของราคาทองยังคงต่อเนื่องไปถึงปี 50 โดยคาดการณ์ว่าราคาทองคำตลาดลอนดอน
จะขยับเป็น 700 ดอลลาร์ สรอ./ออนซ์ จากปัจจุบันราคาอยู่ที่ 623.4 ดอลลาร์ สรอ./ออนซ์ สำหรับราคาซื้อขายทองสูงสุดในปี 49 อยู่ที่
719 ดอลลาร์ สรอ./ออนซ์ หรือคิดเป็นราคาจำหน่ายในประเทศบาทละ 12,900 บาท ในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา (มติชน)
5. ข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลียส่งผลให้ไทยส่งออกสินค้าเซรามิคไปยังตลาดออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 20.2% อธิบดีกรม
เจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.48 เป็นต้นมา ส่งผลให้
สินค้าเซรามิคของไทยส่งออกไปยังตลาดออสเตรเลียเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 20.2% และมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 6 และทำให้
ไทยเกินดุลการค้าเซรามิคกับออสเตรเลียประมาณ 17.5 ล.ดอลลาร์ สรอ. โดยไทยมีการนำเข้าเซรามิคจากออสเตรเลีย 0.3 ล.ดอลลาร์
สรอ.เท่านั้น (มติชน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสรอ. ในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.49 ก.พาณิชย์ สรอ.
เปิดเผยว่า ในเดือน พ.ย. ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อเครื่องบินเพิ่มขึ้น แต่เมื่อ
ไม่นับรวมยอดคำสั่งซื้ออุปกรณ์การขนส่งรวมถึงเครื่องบิน ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลงอย่างผิดคาดร้อยละ 1.1 ลดลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่
2 ทั้งนี้นักวิเคราะห์จากผลการสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนโดยรวมจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เมื่อ
ไม่นับรวมยอดคำสั่งซื้อสินค้าเกี่ยวกับการขนส่ง โดยยอดคำสั่งซื้อสินค้าและอุปกรณ์การขนส่งในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 เนื่องจากยอด
คำสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารเพิ่มขึ้นร้อยละถึง 7.2 ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อเครื่องบินรบและชิ้นส่วนอุปกรณ์เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อที่ไม่นับ
รวมเครื่องบินรบเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.6 น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 ทั้งนี้ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่นับรวม
อาวุธและเครื่องบินซึ่งเป็นเครื่องวัดการใช้จ่ายของภาคธุรกิจลดลงอย่างผิดคาดร้อยละ 1.4 ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 (รอยเตอร์)
2. คำสั่งซื้อใหม่สินค้าอุตสาหกรรมใน Euro zone ลดลงร้อยละ 0.6 ในเดือน ต.ค.49 เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.49 แต่
เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 เมื่อเทียบต่อปีรายงานจากบรัสเซลส์ เมื่อ 22 ธ.ค.49 Eurostat ซึ่งเป็น สนง.สถิติกลางของยุโรปรายงานคำสั่งซื้อใหม่
สินค้าอุตสาหกรรมใน Euro zone ลดลงร้อยละ 0.6 ในเดือน ต.ค.49 เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.49 จากที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ
0.2 ต่อเดือน แต่อย่างไรก็ดี หากเทียบต่อปีแล้ว คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 ต่อปี สูงกว่าที่รอยเตอร์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0 ต่อปี
สินค้าที่มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นสูงสุดคือโลหะ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ต่อปี ในขณะที่คำสั่งซื้อในภาคการขนส่งเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำสุดเพียงร้อยละ 3.7 ต่อปี
โดยหากไม่รวมคำสั่งซื้อเรือ รถไฟและเครื่องบินแล้ว คำสั่งซื้อในเดือน ต.ค.49 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 ต่อเดือนและร้อยละ 12.6 เมื่อเทียบต่อปี
แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่าคำสั่งซื้อซึ่งเป็นตัวชี้แนวโน้มผลผลิตอุตสาหกรรมในอีก 2-3 เดือนจะชะลอตัวลง แต่ภาพรวมเศรษฐกิจใน Euro zone ยังอยู่ใน
เกณฑ์ดี นักเศรษฐศาสตร์จึงคาดว่า ธ.กลางยุโรปหรือ ECB จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 3.75 ต่อปีในไตรมาสแรกปี 50
เพื่อชะลอภาวะเงินเฟ้อจากการขยายตัวของเศรษฐกิจและปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ (รอยเตอร์)
3. อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือน ธ.ค.49 อยู่ที่ร้อยละ 1.4 ต่อปีต่ำกว่าที่คาดไว้ รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อ 22 ธ.ค.49
สนง.สถิติกลางของเยอรมนีรายงานตัวเลขเบื้องต้นดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีในเดือน ธ.ค.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 ต่อปี ชะลอตัวลงจาก
ร้อยละ 1.5 ต่อปีในเดือน พ.ย.49 โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.49 และหากคำนวณตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปหรือที่
เรียกว่า HICP จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ต่อปี และเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.49 ในขณะที่ผลสำรวจรอยเตอร์คาดว่าดัชนีราคา
ผู้บริโภคในเดือน ธ.ค.49 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ต่อปี ทั้งนี้คาดว่าเป็นผลมาจากบริษัทห้างร้านไม่ต้องการขึ้นราคาสินค้าก่อนที่อัตราภาษีที่เรียก
เก็บจากผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 3.0 ในต้นปี 50 นักเศรษฐศาสตร์บางคนจึงคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของเขตเศรษฐกิจยุโรปหรือ
Euro zone จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ต่อปีในเดือน ธ.ค.49 ลดลงจากร้อยละ 1.9 ที่คาดไว้ แต่ก็มีนักเศรษฐศาสตร์ที่คงประมาณการไว้ที่ร้อยละ
1.9 ต่อปีและคาดว่าการขึ้นอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคจะทำให้อัตราเงินเฟ้อในเยอรมนีอยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 2.5 ต่อปีในไตรมาสแรก
ปี 50 ก่อนที่จะชะลอตัวลงหลังจากนั้นในปีเดียวกัน ทั้งนี้ตามข้อมูลข้างต้นอัตราเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยทั้งปี 49 ของเยอรมนีจะอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ต่อปี
เทียบกับร้อยละ 2.0 ต่อปีในปี 48 โดยเยอรมนีมีกำหนดจะรายงานตัวเลขสุดท้ายดัชนีราคาผู้บริโภคสำหรับเดือน ธ.ค.49 ในกลางเดือน
ม.ค.50 (รอยเตอร์)
4. ธ.กลางจีนคาดว่าเศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัวและมีภาวะเงินเฟ้อปานกลาง รายงานจากเชียงไฮ/ปักกิ่ง เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.49
สำนักวิจัยของธ.กลางจีนตีพิมพ์รายงานในวารสารตลาดหลักทรัพย์ของจีนว่า เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงในปีหน้าเนื่องจากการลงทุนและการส่งออก
อ่อนตัวลงขณะที่การบริโภคยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในปีหน้าจะชะลอตัวอยู่ที่ร้อยละ 9.8 จากที่
ขยายตัวร้อยละ 10.5 ในปีนี้ ส่วนภาวะเงินเฟ้อคาดว่าจะเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 2.0 ในปี 50 จากร้อยละ 1.4 ในปีนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันและ
สินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การลงทุนและการส่งออกชะลอตัว ทั้งนี้สำนักวิจัยคาดการณ์ดังกล่าวบนพื้นฐานเศรษฐกิจโลกขยายตัวร้อยละ 5.0 ในปีนี้
และร้อยละ 4.8 ในปีหน้า และอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามคาดว่าการส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกของปีหน้าจะยังคง
ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความต้องการสินค้าจากภายนอกประเทศยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่ในช่วงครึ่งปีหลังจะชะลอตัวลงส่วนหนึ่ง
เนื่องจากผลกระทบจากการปรับลดเงินช่วยเหลือภาษีเพื่อการส่งออก การปกป้องทางการค้า และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของ สรอ. ซึ่งล้วนส่ง
ผลกระทบต่อการส่งออกของจีน (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 25 ธ.ค. 49 22 ธ.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล่
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 36.453 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 36.2380/36.6349 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.1285 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 680.31/13.66 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,650/10,750 10,650/10,750 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 58.51 58.63 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเมื่อ 23 ธ.ค. 49 ** ปรับเมื่อ 16 ธ.ค. 49 26.49*/23.34** 26.09/23.34** 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--