นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยเป็นผู้ส่งออกสับปะรดกระป๋องและน้ำสับปะรดเข้มข้นรายใหญ่ของโลก โดยส่งออกเฉลี่ยปีละ 560,000 ตัน เป็นสับปะรดกระป๋อง และน้ำสับปะรดเข้มข้น ร้อยละ 80 และ 20 ตามลำดับ ในปี 2547 ส่งออกรวมทั้งสิ้น 565,888 ตัน มูลค่า 15,749 ล้านบาท โดยลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 2.99 และ 2.81 ตามลำดับ ประเทศนำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ สหภาพยุโรป (ร้อยละ 42) สหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 24) ญี่ปุ่น (ร้อยละ 6) แคนาดา (ร้อยละ 4) รัสเซีย (ร้อยละ 3) ออสเตรเลีย (ร้อยละ 1) ไต้หวัน (ร้อยละ 1) และเม็กซิโก (ร้อยละ 0.3)
จากการจัดทำเขตการค้าเสรีหรือ FTA กับประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ มีการลดภาษีการนำเข้าสินค้านี้ จากร้อยละ 5-7 เป็นร้อยละ 0 สำหรับออสเตรเลียมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 และนิวซีแลนด์ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2548
เพื่อให้การส่งออกสับปะรดกระป๋องและน้ำสับปะรดเข้มข้นของไทยมีโอกาสขยายตัวมากขึ้น อีกทั้งเป็นการรักษาตลาดเดิมและเพิ่มตลาดใหม่ โดยจะต้องมีคุณภาพและได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของตลาด อีกทั้งเพื่อป้องกันปัญหาด้านสุขอนามัยและสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศผู้นำเข้าด้วย คาดว่าการส่งออกสินค้าดังกล่าว ยังมีลู่ทางขยายตัวดีในอนาคต และสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ คือ ฟิลิปปินส์ และอินโดยนีเซีย นายราเชนทร์ กล่าวในที่สุด
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
จากการจัดทำเขตการค้าเสรีหรือ FTA กับประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ มีการลดภาษีการนำเข้าสินค้านี้ จากร้อยละ 5-7 เป็นร้อยละ 0 สำหรับออสเตรเลียมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 และนิวซีแลนด์ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2548
เพื่อให้การส่งออกสับปะรดกระป๋องและน้ำสับปะรดเข้มข้นของไทยมีโอกาสขยายตัวมากขึ้น อีกทั้งเป็นการรักษาตลาดเดิมและเพิ่มตลาดใหม่ โดยจะต้องมีคุณภาพและได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของตลาด อีกทั้งเพื่อป้องกันปัญหาด้านสุขอนามัยและสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศผู้นำเข้าด้วย คาดว่าการส่งออกสินค้าดังกล่าว ยังมีลู่ทางขยายตัวดีในอนาคต และสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ คือ ฟิลิปปินส์ และอินโดยนีเซีย นายราเชนทร์ กล่าวในที่สุด
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-