เปิดยุทธศาสตร์ มาเลย์-สิงคโปร์

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 4, 2006 17:14 —กรมส่งเสริมการส่งออก

          มาเลเซียเป็นตัวอย่างของประเทศมุสลิมที่ประสบความสำเร็จในการผันตัวเองจากประเทศยากจนไปสู่ประเทศกำลังพัฒนาที่สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ แม้จะมีประชากรเพียง 26.5 ล้านคน รวมทั้งมิได้มีตลาดในประเทศและขนาดของภาคการผลิตที่ใหญ่เหมือนจีนและอินเดีย ทั้งนี้อุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ของมาเลเซีย คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตามในแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับใหม่ที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2549-2553 มาเลเซียต้องการที่จะกระตุ้นภาคเกษตรกรรม เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้มาเลเซียยังต้องการประกาศมาตรการกระตุ้นภาคธนาคาร และการท่องเที่ยว พร้อมกับผลักดันให้พื้นที่ทางใต้ เช่น รัฐยะโฮร์กลายเป็นศูนย์กลางลอจิสติกและการผลิตของภูมิภาคด้วย
สิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆ ที่ร่ำรวยที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และร่ำรวยเป็นอันดับ 3 ของเอเซีย รองจากญี่ปุ่นและฮ่องกง ซึ่งสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับพื้นฐานเศรษฐกิจมหภาค การส่งออกสินค้าไฮเทคและบริการ และนโยบายที่เน้นความสำเร็จทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยสิงคโปร์หันมาให้ ความสำคัญในเรื่องภาคบริการมากกว่าการขับเคลื่อนด้านภาคการผลิตที่สิงคโปร์ไม่สามารถแข่งขันกับ ยักษ์ใหญ่ของเอเซียได้โดยเฉพาะจีนและอินเดีย จึงเปลี่ยนมาใช้ใช้ยุทธศาสตร์ความร่วมมือกับทั้งสองประเทศข้างต้นแทน นอกจากนี้สิงคโปร์ยังต้องการมุ่งสู่สังคมแห่งความสร้างสรรค์ แทนที่จะเน้นเทคโนโลยีและความรู้เหมือนประเทศอื่นๆ
ประเด็นวิเคราะห์
นโยบายที่ทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์นำมาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศนั้น นับเป็นนโยบายที่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง และสามารถเติมเต็มในส่วนที่ขาดได้ และหากทั้งสองประเทศนี้สามารถผลักดันเศรษฐกิจของตนไปสู่จุดมุ่งหมายได้ ก็จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยและอาเซียนอย่างแน่นอน
ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ