วันนี้ (3 กย. 2549) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงงานตรวจสอบโครงการก่อสร้างน้ำประปาที่ จ.นครราชสีมา ว่าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ทางวิศวกรรมศาสตร์ และทางพรรคประชาธิปัตย์ มีเจตนาที่ชัดเจนว่าต้องการให้ชาวโคราช มีน้ำประปาใช้โดยด่วนที่สุด แต่พรรคฯ ไม่ต้องการให้มีนักการเมืองมาหากินกับโครงการน้ำประปาของชาวโคราช เพราะจะทำให้ต้นทุนค่าน้ำสูงขึ้นและชาวโคราชต้องเสียเงินค่าน้ำประปาแพงตลอดไป
ทั้งนี้รองโฆษกฯ พรรคประชาธิปัตย์ได้อธิบายต่อสื่อมวลชนโดยใช้ตารางทางวิศวกรรมศาสตร์ว่า โครงการน้ำประปาโคราช 3,700 ล้านบาทนั้น เป็นโครงการน้ำประปาเอื้ออาทรผู้รับเหมาอย่างแท้จริง เพราะเมื่อผู้รับเหมาโครงการนี้ประมูลงานได้แล้ว เทศบาลนครโคราชจะจ่ายเงินล่วงหน้าให้ 10% ทันที ซึ่งเป็นจำนวนเงินถึง 368 ล้านบาท โดยยังไม่ต้องทำงานใด ๆ เลย นายยุทธพงศ์ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดมีบริษัทซื้อแบบเพียง 4 รายเท่านั้น ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ศรีกลกิจ จำกัด บริษัท ช การช่าง จำกัด กิจการร่วมค้า 34 คอนสตรัคชั่น (บ.สี่แสงการโยธา จก. กับ หจก.สามประสิทธิ์) และกิจการร่วมค้า เอส เอ (บ.ชิโน — ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จก. กับ บ.อควาไทย จก.) และบริษัทที่ประมูลงานได้จะได้เงินอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีการลงมือวางท่อ เพียงสั่งซื้อท่อมา ตามงวดที่ 7 เพียง 90 วัน ก็สามารถเบิกเงินได้แล้วถึง 662 ล้านบาท
นายยุทธพงศ์กล่าวว่า เมื่อตนได้ทำการตรวจสอบต่อไป พบกว่าบริษัทศรีกลกิจ จำกัด และ หจก. สามประสิทธิ์ เป็นบริษัทที่มีผู้ถือหุ้นคนเดียวกัน คือตระกูล เพ็ชรตระกูล นอกจากนี้ยังพบว่า บริษัท อควาไทย จำกัด ก็เป็นบริษัทลูกของ บริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด เพราะมีคนในตระกูล กรรณสูต ถือหุ้นเช่นกัน ด้วยเหตุนี้นายยุทธพงศ์จึงได้ตั้งข้อสงสัยต่อบริษัทยักษ์ใหญ่จากกรุงเทพฯ ดังที่เคยแถลงข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้
“ผมขอเรียกร้องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ให้เชิญบริษัท สี่แสงการโยธา จำกัด และบริษัท ชิโน — ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เข้าชี้แจงว่าเหตุใดจึงไม่ซื้อแบบก่อสร้างประปาที่โคราชได้เอง ทั้ง ๆ ที่ทั้ง 2 บริษัทก็เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ รับเหมาโครงการ Airport Link แต่สำหรับโครงการน้ำประปาโคราชกลับต้องไปทำร่วมกับ หจก. สามประสิทธิ์ และ บ.อิตาเลียนไทย จำกัด ทั้ง ๆ ที่งานก่อสร้างระบบประปาในทางวิศวกรรมศาสตร์ถือว่าเป็นงานที่ง่ายที่สุด” นายยุทธพงศ์กล่าว
นอกจากนี้ นายยุทธพงศ์ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการก่อสร้างระบบประปาที่โคราชไว้ 6 ข้อ
1.เป็นคำถามถึงรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ตามที่ท่านชี้แจงว่าโครงการก่อสร้างน้ำประปาที่โคราชโปร่งใส ไม่มีการล็อคสเปคนั้น ทำไมมีบริษัท ซื้อแบบได้เพียง 4 รายเท่านั้น เพราะท่านสุวัจน์ และครอบครัวของท่านก็มีบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ ท่านย่อมต้องเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี
2. ทำไมเทศบาลโคราชต้องจ้างให้บริษัท Thai DCI จำกัดเป็นที่ปรึกษาโครงการ เป็นเงินถึง 93 ล้านบาท แต่งานออกแบบขนาดนี้ตนเป็นวิศวกร บอกได้เลยแค่ 50 ล้านก็กำไรเยอะแล้ว
3. ทำไมบริษัท Thai DCI จำกัด จึงได้ออกแบบโครงการน้ำประปาโคราชมูลค่า 3,700 ล้านบาท เอื้ออาทรผู้รับเหมาเหลือเกิน ให้เบิกเงินช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ทางการเงินให้แบบสุด ๆ อย่างนี้ทำไมไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับเหมารายอื่นที่มีผลงานก่อสร้างระบบประปาไม่ถึง 500 ล้านเข้าประมูลได้บ้าง ทั้ง ๆ ที่เงื่อนไขการจ่ายเงินแบบนี้บริษัทรับเหมาไหนก็ทำงานได้
4. ที่ให้บริษัทรับเหมาที่ประมูลงานได้เบิกเงินล่วงหน้าได้ทันที 370 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มทำงานเลย เพื่อเอาเงินส่วนนี้ไปให้นักการเมืองใหญ่ท่านหนึ่งเตรียมเอาไว้ใช้เลือกตั้ง ส.ส. ที่โคราช ใช่หรือไม่?
5. ขอเรียกร้องให้รองนายกฯ สุวัจน์ และนายกเทศมนตรีนครราชสีมา สั่งให้มีการยกเลิกการประมูลในทันที แล้วรีบดำเนินการสอบสวนให้เกิดความโปร่งใสเสียก่อน แต่ถ้าพวกท่านยังจะเดินหน้าโครงการต่อ ตนจำเป็นต้องเอาข้อมูลออกมาแฉอีก
6. ขอเตือนบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างทั้งหลายว่า ขณะนี้พวกท่านยังไม่มีความผิด เพราะยังไม่ได้มีการประมูลงาน แต่ถ้าเมื่อใดบริษัทของท่านเข้าร่วมประมูลงานแล้ว และหากกรมสอบสวนคดีพิเศษพบว่าเป็นการล็อคสเปคและมีการฮั้วประมูลงาน บริษัทของท่านจะมีความผิดด้วย เหมือนกรณีการประมูล 16 โครงการ 21,000 ล้านบาทของกรุงเทพมหานคร นายยุทธพงศ์กล่าวในที่สุด
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 ก.ย. 2549--จบ--
ทั้งนี้รองโฆษกฯ พรรคประชาธิปัตย์ได้อธิบายต่อสื่อมวลชนโดยใช้ตารางทางวิศวกรรมศาสตร์ว่า โครงการน้ำประปาโคราช 3,700 ล้านบาทนั้น เป็นโครงการน้ำประปาเอื้ออาทรผู้รับเหมาอย่างแท้จริง เพราะเมื่อผู้รับเหมาโครงการนี้ประมูลงานได้แล้ว เทศบาลนครโคราชจะจ่ายเงินล่วงหน้าให้ 10% ทันที ซึ่งเป็นจำนวนเงินถึง 368 ล้านบาท โดยยังไม่ต้องทำงานใด ๆ เลย นายยุทธพงศ์ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดมีบริษัทซื้อแบบเพียง 4 รายเท่านั้น ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ศรีกลกิจ จำกัด บริษัท ช การช่าง จำกัด กิจการร่วมค้า 34 คอนสตรัคชั่น (บ.สี่แสงการโยธา จก. กับ หจก.สามประสิทธิ์) และกิจการร่วมค้า เอส เอ (บ.ชิโน — ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จก. กับ บ.อควาไทย จก.) และบริษัทที่ประมูลงานได้จะได้เงินอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีการลงมือวางท่อ เพียงสั่งซื้อท่อมา ตามงวดที่ 7 เพียง 90 วัน ก็สามารถเบิกเงินได้แล้วถึง 662 ล้านบาท
นายยุทธพงศ์กล่าวว่า เมื่อตนได้ทำการตรวจสอบต่อไป พบกว่าบริษัทศรีกลกิจ จำกัด และ หจก. สามประสิทธิ์ เป็นบริษัทที่มีผู้ถือหุ้นคนเดียวกัน คือตระกูล เพ็ชรตระกูล นอกจากนี้ยังพบว่า บริษัท อควาไทย จำกัด ก็เป็นบริษัทลูกของ บริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด เพราะมีคนในตระกูล กรรณสูต ถือหุ้นเช่นกัน ด้วยเหตุนี้นายยุทธพงศ์จึงได้ตั้งข้อสงสัยต่อบริษัทยักษ์ใหญ่จากกรุงเทพฯ ดังที่เคยแถลงข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้
“ผมขอเรียกร้องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ให้เชิญบริษัท สี่แสงการโยธา จำกัด และบริษัท ชิโน — ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เข้าชี้แจงว่าเหตุใดจึงไม่ซื้อแบบก่อสร้างประปาที่โคราชได้เอง ทั้ง ๆ ที่ทั้ง 2 บริษัทก็เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ รับเหมาโครงการ Airport Link แต่สำหรับโครงการน้ำประปาโคราชกลับต้องไปทำร่วมกับ หจก. สามประสิทธิ์ และ บ.อิตาเลียนไทย จำกัด ทั้ง ๆ ที่งานก่อสร้างระบบประปาในทางวิศวกรรมศาสตร์ถือว่าเป็นงานที่ง่ายที่สุด” นายยุทธพงศ์กล่าว
นอกจากนี้ นายยุทธพงศ์ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการก่อสร้างระบบประปาที่โคราชไว้ 6 ข้อ
1.เป็นคำถามถึงรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ตามที่ท่านชี้แจงว่าโครงการก่อสร้างน้ำประปาที่โคราชโปร่งใส ไม่มีการล็อคสเปคนั้น ทำไมมีบริษัท ซื้อแบบได้เพียง 4 รายเท่านั้น เพราะท่านสุวัจน์ และครอบครัวของท่านก็มีบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ ท่านย่อมต้องเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี
2. ทำไมเทศบาลโคราชต้องจ้างให้บริษัท Thai DCI จำกัดเป็นที่ปรึกษาโครงการ เป็นเงินถึง 93 ล้านบาท แต่งานออกแบบขนาดนี้ตนเป็นวิศวกร บอกได้เลยแค่ 50 ล้านก็กำไรเยอะแล้ว
3. ทำไมบริษัท Thai DCI จำกัด จึงได้ออกแบบโครงการน้ำประปาโคราชมูลค่า 3,700 ล้านบาท เอื้ออาทรผู้รับเหมาเหลือเกิน ให้เบิกเงินช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ทางการเงินให้แบบสุด ๆ อย่างนี้ทำไมไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับเหมารายอื่นที่มีผลงานก่อสร้างระบบประปาไม่ถึง 500 ล้านเข้าประมูลได้บ้าง ทั้ง ๆ ที่เงื่อนไขการจ่ายเงินแบบนี้บริษัทรับเหมาไหนก็ทำงานได้
4. ที่ให้บริษัทรับเหมาที่ประมูลงานได้เบิกเงินล่วงหน้าได้ทันที 370 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มทำงานเลย เพื่อเอาเงินส่วนนี้ไปให้นักการเมืองใหญ่ท่านหนึ่งเตรียมเอาไว้ใช้เลือกตั้ง ส.ส. ที่โคราช ใช่หรือไม่?
5. ขอเรียกร้องให้รองนายกฯ สุวัจน์ และนายกเทศมนตรีนครราชสีมา สั่งให้มีการยกเลิกการประมูลในทันที แล้วรีบดำเนินการสอบสวนให้เกิดความโปร่งใสเสียก่อน แต่ถ้าพวกท่านยังจะเดินหน้าโครงการต่อ ตนจำเป็นต้องเอาข้อมูลออกมาแฉอีก
6. ขอเตือนบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างทั้งหลายว่า ขณะนี้พวกท่านยังไม่มีความผิด เพราะยังไม่ได้มีการประมูลงาน แต่ถ้าเมื่อใดบริษัทของท่านเข้าร่วมประมูลงานแล้ว และหากกรมสอบสวนคดีพิเศษพบว่าเป็นการล็อคสเปคและมีการฮั้วประมูลงาน บริษัทของท่านจะมีความผิดด้วย เหมือนกรณีการประมูล 16 โครงการ 21,000 ล้านบาทของกรุงเทพมหานคร นายยุทธพงศ์กล่าวในที่สุด
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 ก.ย. 2549--จบ--