ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวง การคลังเกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนนโยบายพัฒนาสังคม โดยมุ่งสนับสนุนด้านการประกันสุขภาพ ให้แก่ บิดามารดาและพนักงานลูกจ้าง ซึ่งกฎหมายจะมีผลใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมิน ที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายเป็นเบี้ยประกันภัย สำหรับกรมธรรม์ประกันสุขภาพให้แก่บริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทประกันวินาศภัยที่ประกอบกิจการในราชอาณาจักร เพื่อเอาประกันภัยสำหรับบิดามารดาของผู้มีเงินได้หรือบิดามารดาของคู่สมรสที่มีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นห้าพันบาท
2. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้เท่าที่นายจ้างได้จ่ายเป็นเบี้ยประกันภัย สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มเฉพาะในส่วนที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ให้แก่บริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทประกันวินาศภัยที่ประกอบกิจการในราชอาณาจักร เพื่อเอาประกันภัยสำหรับลูกจ้าง สามี ภริยา บุพการีหรือผู้สืบสันดาน ซึ่งอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของลูกจ้าง และลูกจ้างในกรณีที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลในต่างประเทศในขณะที่ปฏิบัติการตามหน้าที่ในต่างประเทศเป็นครั้งคราว ทั้งนี้กรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวมีกำหนดระยะเวลาไม่เกินหนึ่งปี
มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนนโยบายพัฒนาสังคมข้างต้น นอกจากจะช่วยสนับสนุนในการสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเข้มแข็ง สามารถดูแลสมาชิกได้อย่างมีคุณภาพ ยังเป็นการสร้างหลักประกันด้านสุขภาพแก่ผู้สูงอายุ และเป็นทางเลือกเพิ่มเติมของประชาชนในการรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพอีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนั้นมาตรการภาษีที่มุ่งเน้นการประกันสุขภาพแก่ลูกจ้างจะช่วยส่งเสริมให้มีการจัดสวัสดิการแก่ลูกจ้างและครอบครัวให้มีความมั่นคงและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกฎหมายปัจจุบันที่กำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้แก่ลูกจ้างที่ได้รับค่ารักษาพยาบาลด้วย
สำหรับผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐนั้น จะมีผลต่อการจัดเก็บภาษีไม่มากนัก อย่างไรก็ดีมาตรการนี้จะมีส่วนช่วยลดภาระการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลในด้านสุขภาพได้อีกทางหนึ่งด้วย
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 58/2549 20มิถุนายน 49--
1. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายเป็นเบี้ยประกันภัย สำหรับกรมธรรม์ประกันสุขภาพให้แก่บริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทประกันวินาศภัยที่ประกอบกิจการในราชอาณาจักร เพื่อเอาประกันภัยสำหรับบิดามารดาของผู้มีเงินได้หรือบิดามารดาของคู่สมรสที่มีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นห้าพันบาท
2. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้เท่าที่นายจ้างได้จ่ายเป็นเบี้ยประกันภัย สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มเฉพาะในส่วนที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ให้แก่บริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทประกันวินาศภัยที่ประกอบกิจการในราชอาณาจักร เพื่อเอาประกันภัยสำหรับลูกจ้าง สามี ภริยา บุพการีหรือผู้สืบสันดาน ซึ่งอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของลูกจ้าง และลูกจ้างในกรณีที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลในต่างประเทศในขณะที่ปฏิบัติการตามหน้าที่ในต่างประเทศเป็นครั้งคราว ทั้งนี้กรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวมีกำหนดระยะเวลาไม่เกินหนึ่งปี
มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนนโยบายพัฒนาสังคมข้างต้น นอกจากจะช่วยสนับสนุนในการสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเข้มแข็ง สามารถดูแลสมาชิกได้อย่างมีคุณภาพ ยังเป็นการสร้างหลักประกันด้านสุขภาพแก่ผู้สูงอายุ และเป็นทางเลือกเพิ่มเติมของประชาชนในการรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพอีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนั้นมาตรการภาษีที่มุ่งเน้นการประกันสุขภาพแก่ลูกจ้างจะช่วยส่งเสริมให้มีการจัดสวัสดิการแก่ลูกจ้างและครอบครัวให้มีความมั่นคงและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกฎหมายปัจจุบันที่กำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้แก่ลูกจ้างที่ได้รับค่ารักษาพยาบาลด้วย
สำหรับผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐนั้น จะมีผลต่อการจัดเก็บภาษีไม่มากนัก อย่างไรก็ดีมาตรการนี้จะมีส่วนช่วยลดภาระการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลในด้านสุขภาพได้อีกทางหนึ่งด้วย
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 58/2549 20มิถุนายน 49--