คณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมเอเซีย-แปซิฟิก (เอสแคป) ได้เผยแพร่รายงานเรื่อง “ปัจจัยการพัฒนาและการคาดการณ์เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิก ปี 2549” โดยมีรายละเอียดถึงการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2550 ว่า ประเทศไทยจะจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยมีจีดีพีเฉลี่ย 4.7% โดยการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศจะอยู่บนฐานคิดของการลดค่าใช้จ่ายภาครัฐ โดยเฉพาะการใช้จ่ายโครงการลงทุนเพื่อสาธารณะต่างๆ ในขณะที่เศรษฐกิจมหภาคยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
อย่างไรก็ตามหากประเทศไทยมีสถานการณ์เลวร้าย (worst-case scenario) เกิดขึ้นในปี 2550 เอสแคป คาดการณ์ว่าการเจริญเติบโตทางเศราฐกิจของไทยจะตกไปอยู่ที่ระดับ 3.1% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นเกือบ 10% ส่วนการบริโภคและการลงทุนจะลดลง 0.2-0.3% ในการส่งออกภาคบริการ (โดยเฉพาะการท่องเที่ยว) จะลดลง 0.4% และค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงไปมากกว่า 20% ส่งผลให้ค่าเงินบาทมีค่า 46 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐได้ ทั้งนี้แม้แม้รายได้สุทธิของการส่งออกจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลของอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลง แต่การลดลงของการบริโภค การลงทุน และการท่องเที่ยว จะมีผลลดทอน รายได้ของประเทศและเหนี่ยวรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป
ประเด็นวิเคราะห์
หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจสังคม แผนกการพัฒนาและความยากจน เอสแคป ดร.สามิกา สิริมานี ให้ความเห็นว่ารัฐบาลชั่วคราวในขณะนี้ได้ดำเนินนโยบายในระยะสั้นถูกทางแล้ว แต่ประเทศไทยยังคงต้องระวังการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงเวลานี้ อาจส่งผงให้ไทยเสียเปรียบเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนามที่เข้าเป็นสมาชิก WTO และมีสถานะเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการค้าปกติเป็นการถาวร (PNTR) กับสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในอดีตไทยเคยได้เปรียบมาก่อน ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ของประเทศไทยโดยการนำของรัฐบาลชั่วคราวอาจทำให้ไทยเสียโอกาสในด้านการแข่งขันได้เช่นกัน
ที่มา: http://www.depthai.go.th