เกาะเคชม์ (Qeshm Island) เป็นเมืองในจังหวัด Hormuzgan ของอิหร่าน ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบHormuz ซึ่งอยู่ปากอ่าวเปอร์เซีย (Persian Gulf) ทางตอนใต้ของอิหร่าน เกาะเคชม์เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอ่าวเปอร์เซีย มีพื้นที่ประมาณ 1,500 ตารางกิโลเมตร อิหร่านได้จัดตั้งให้เกาะเคชม์เป็นเขตการค้าเสรี(Qeshm Free Area : QFA) มาตั้งแต่ปี 2533 ซึ่งนับเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในอ่าวเปอร์เซีย นอกจากนี้รัฐบาลอิหร่านยังมีแผนจะผลักดันให้เกาะเคชม์เป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าของประเทศในตลาดเอเชียกลางและตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเกาะเคชม์ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ประกอบกับความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกไม่ดีนัก ทำให้มีการลงทุนจากต่างประเทศในเกาะเคชม์ค่อนข้างน้อย โดยตั้งแต่ปี
2543 - ปัจจุบันมีมูลค่าการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศในเกาะเคชม์เพียง 73,400 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น โดยส่วนใหญ่ลงทุนในภาคอุตสาหกรรมและเหมืองแร่ รองลงมา ได้แก่ ภาคการค้า
ศักยภาพของเกาะเคชม์ในการเป็นแหล่งการค้าและการลงทุนที่น่าสนใจ ได้แก่
1. ทำเลที่ตั้งเหมาะสม การที่อิหร่านมีอาณาเขตติดกับประเทศในเอเชียกลาง ได้แก่ อัฟกานิสถาน และเติร์กเมนิสถาน รวมทั้งเกาะเคชม์ยังมีอาณาเขตทางทะเลติดกับหลายประเทศในตะวันออกกลาง ได้แก่ อิรัก คูเวต ซาอุดีอาระเบีย บาห์เรน กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโอมาน ทำให้การเดินทางและการขนส่งสินค้าจากประเทศในเอเชียกลางและตะวันออกกลางผ่านเกาะเคชม์ไปยังมหาสมุทรอินเดียและเข้าสู่ประเทศในเอเชียทำได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ เกาะเคชม์ยังตั้งอยู่ห่างจากเมือง Bandar Abbas (ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิหร่าน)ซึ่งเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่านเพียง 22 กิโลเมตร ทำให้เกาะเคชม์เป็นประตูสำคัญในการขนส่งและกระจายสินค้าต่อไปยังประเทศอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง
2. แหล่งทรัพยากรธรรมชาติ เกาะเคชม์อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติด้านพลังงานมหาศาลโดยมีแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันสำรองขนาดใหญ่ 2 แหล่ง ได้แก่ แหล่ง Gurzin และแหล่ง Salakh นอกจากนี้ยังมีภูเขาหินปูนจำนวนมาก และมีพื้นที่ป่าชายเลนขนาดใหญ่ซึ่งเป็นแหล่งชุมนุมของสัตว์น้ำนานาชนิด ทำให้เกาะเคชม์เหมาะที่จะทำธุรกิจกลั่นน้ำมัน ธุรกิจที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ ปูนซิเมนต์ และประมงอย่างยิ่ง
3. สิทธิพิเศษทางภาษีและอื่น ๆ นักลงทุนต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในเกาะเคชม์จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 15 ปี (ปกติเรียกเก็บในอัตรา 12%-54%) และยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าทุกชนิดอีกด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของกิจการได้ทั้ง 100% และสามารถส่งผลกำไรและเงินทุนกลับประเทศได้อย่างเสรี รวมทั้งมีการผ่อนผันกฎระเบียบด้านการเดินทางเข้า-ออกประเทศ และการพำนักอาศัยของนักลงทุนต่างชาติในเกาะเคชม์ด้วย
4. ระบบโครงสร้างพื้นฐานครบครัน รัฐบาลอิหร่านได้เตรียมความพร้อมด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ อาทิ ถนน ระบบ ประปา ไฟฟ้า ท่าเรือ ท่าอากาศยานนานาชาติ ศูนย์การค้า และที่อยู่อาศัย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่จะก่อสร้างสะพาน และทางรถไฟเพื่อเชื่อมต่อเกาะเคชม์กับเมือง Bandar Abbas ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างเตรียมการเปิดประมูลก่อสร้าง
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กรกฎาคม 2548--
-พห-
2543 - ปัจจุบันมีมูลค่าการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศในเกาะเคชม์เพียง 73,400 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น โดยส่วนใหญ่ลงทุนในภาคอุตสาหกรรมและเหมืองแร่ รองลงมา ได้แก่ ภาคการค้า
ศักยภาพของเกาะเคชม์ในการเป็นแหล่งการค้าและการลงทุนที่น่าสนใจ ได้แก่
1. ทำเลที่ตั้งเหมาะสม การที่อิหร่านมีอาณาเขตติดกับประเทศในเอเชียกลาง ได้แก่ อัฟกานิสถาน และเติร์กเมนิสถาน รวมทั้งเกาะเคชม์ยังมีอาณาเขตทางทะเลติดกับหลายประเทศในตะวันออกกลาง ได้แก่ อิรัก คูเวต ซาอุดีอาระเบีย บาห์เรน กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโอมาน ทำให้การเดินทางและการขนส่งสินค้าจากประเทศในเอเชียกลางและตะวันออกกลางผ่านเกาะเคชม์ไปยังมหาสมุทรอินเดียและเข้าสู่ประเทศในเอเชียทำได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ เกาะเคชม์ยังตั้งอยู่ห่างจากเมือง Bandar Abbas (ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิหร่าน)ซึ่งเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่านเพียง 22 กิโลเมตร ทำให้เกาะเคชม์เป็นประตูสำคัญในการขนส่งและกระจายสินค้าต่อไปยังประเทศอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง
2. แหล่งทรัพยากรธรรมชาติ เกาะเคชม์อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติด้านพลังงานมหาศาลโดยมีแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันสำรองขนาดใหญ่ 2 แหล่ง ได้แก่ แหล่ง Gurzin และแหล่ง Salakh นอกจากนี้ยังมีภูเขาหินปูนจำนวนมาก และมีพื้นที่ป่าชายเลนขนาดใหญ่ซึ่งเป็นแหล่งชุมนุมของสัตว์น้ำนานาชนิด ทำให้เกาะเคชม์เหมาะที่จะทำธุรกิจกลั่นน้ำมัน ธุรกิจที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ ปูนซิเมนต์ และประมงอย่างยิ่ง
3. สิทธิพิเศษทางภาษีและอื่น ๆ นักลงทุนต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในเกาะเคชม์จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 15 ปี (ปกติเรียกเก็บในอัตรา 12%-54%) และยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าทุกชนิดอีกด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของกิจการได้ทั้ง 100% และสามารถส่งผลกำไรและเงินทุนกลับประเทศได้อย่างเสรี รวมทั้งมีการผ่อนผันกฎระเบียบด้านการเดินทางเข้า-ออกประเทศ และการพำนักอาศัยของนักลงทุนต่างชาติในเกาะเคชม์ด้วย
4. ระบบโครงสร้างพื้นฐานครบครัน รัฐบาลอิหร่านได้เตรียมความพร้อมด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ อาทิ ถนน ระบบ ประปา ไฟฟ้า ท่าเรือ ท่าอากาศยานนานาชาติ ศูนย์การค้า และที่อยู่อาศัย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่จะก่อสร้างสะพาน และทางรถไฟเพื่อเชื่อมต่อเกาะเคชม์กับเมือง Bandar Abbas ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างเตรียมการเปิดประมูลก่อสร้าง
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กรกฎาคม 2548--
-พห-