กรุงเทพ--24 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ท่านผู้อ่านที่ติดตามคอลัมน์นี้เป็นประจำ คงพอจะจำได้ว่าในช่วงกลางเดือนธันวาคมปี 2548 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ จัดขบวนคาราวานผ่านกรุงเทพฯ-เสียมราฐ-พนมเปญ-นครโฮจิมินห์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถยนต์ระหว่าง 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา และเวียดนาม ผลปรากฏว่าการจัดขบวนคาราวานครั้งนั้นเป็นที่พอใจของบรรดาลูกทัวร์ของทั้งสามประเทศเป็นอย่างยิ่ง
จึงไม่น่าแปลกใจที่บริษัท VYC Travel ของเวียดนามและบริษัท GMS Rally จำกัด ของไทยซึ่งได้ส่งผู้แทนของบริษัทเข้าร่วมขบวนคาราวานครั้งที่แล้ว ได้ร่วมมือกันจัดขบวนรถยนต์คาราวานจากเวียดนามเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยอีกครั้ง คาราวานครั้งนี้เป็นขบวนเล็กๆ ประกอบด้วยรถยนต์จำนวน 9 คัน และนักท่องเที่ยวเวียดนามจำนวน 26 คน
ขบวนคาราวานดังกล่าวถือเป็นคาราวานคณะแรกที่มาจากเวียดนามโดยตรง และเป็นการต่อยอดจากโครงการคาราวาน 3 ประเทศซึ่งจัดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว เพราะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถยนต์ระหว่างไทย กัมพูชาและเวียดนาม ดังนั้น สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ จึงได้ประสานงานกับจังหวัดสระแก้ว และ ททท. สำนักงานภาคกลาง เขต 8 จังหวัดนครนายก เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คณะ
การช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้แก่บริษัททัวร์เวียดนามและไทย โดยการประสานงานระหว่างสถานกงสุลใหญ่ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย แม้ไม่ใช่หน้าที่โดยตรง แต่ก็ถือเป็นน้ำใจของหน่วยงานไทยซึ่งได้สร้างความประทับใจแก่บริษัทและคณะนักท่องเที่ยวเวียดนามด้วยการบริการที่สะดวกรวดเร็วของด่านตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรที่อำเภออรัญประเทศ เพราะเป็นด่านแรกที่สามารถเรียกคะแนนนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมบทบาทของหน่วยงานไทยในด้านการท่องเที่ยวได้อีกด้วย
ขบวนคาราวานเวียดนามได้เดินทางโดยรถยนต์เพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทยและกัมพูชาตลอดเวลา 8 วัน 7 คืน เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2549 โดยใช้เวลาอยู่ในประเทศไทยในช่วง 5 วันแรกอย่างคุ้มค่า และได้ไปเยี่ยมชมพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี และสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี เช่น ทางรถไฟสายมรณะ และสะพานข้ามแม่น้ำแคว รวมทั้งพักในกรุงเทพฯ 2 คืนด้วย
นอกจากคณะนักท่องเที่ยวเวียดนามประทับใจในการบริการอันรวดเร็วทันใจของด่าน ตม.และด่านศุลกากรไทยแล้ว คณะยังได้รับความเพลิดเพลินสนุกสนานในการเดินทางท่องเที่ยวแบบคาราวานในประเทศไทยอย่างมาก เนื่องจากได้เปิดหูเปิดตาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกใหม่สำหรับชาวเวียดนาม เช่น ตลาดน้ำดำเนินสะดวก และสะพานข้ามแม่น้ำแคว รวมทั้งมีโอกาสได้พูดคุยทำความรู้จักกับคนไทยในระหว่างการเดินทาง ทำให้คณะนักท่องเที่ยวเวียดนามรู้สึกประทับใจในความเป็นมิตรและเอื้ออาทรของคนไทยเพิ่มขึ้น
ตลอดเวลาที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย ขบวนคาราวานเวียดนามไม่ประสบปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ เพราะเส้นทางคมนาคมในไทยมีความสะดวกสบาย คณะนักท่องเที่ยวเวียดนามได้ถ่ายภาพและเขียนข้อความบรรยายความประทับใจจากการเดินทางลงในเวปไซท์ www.otosaigon.com และหนังสือพิมพ์ในเวียดนามก็ได้ลงบทความเกี่ยวกับการเดินทางแบบคาราวานเผยแพร่แก่ชาวเวียดนามด้วย
การที่บริษัททัวร์ไทยและเวียดนามได้ร่วมกันจัดขบวนคาราวานจนได้รับผลสำเร็จด้วยดีเช่นนี้ ย่อมจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวเวียดนามเดินทางมาเยือนไทยมากขึ้น นอกจากไทยจะได้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นแล้ว การท่องเที่ยวแบบคาราวานยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเวียดนามได้รู้จักกับคนไทย สัมผัสกับวัฒนธรรมไทยและวิถีชีวิตแบบไทยมากกว่าการท่องเที่ยวด้วยเส้นทางอื่นๆ
ในอนาคตคาดว่าบริษัททัวร์ของไทยและเวียดนามจะร่วมมือกันจัดคาราวานท่องเที่ยวจากเวียดนามมาไทย และจากไทยไปเวียดนามอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ บริษัท VYC Travel มีโครงการจะนำผู้สื่อข่าวเวียดนามมาถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ๆ ในประเทศไทยระหว่างการจัดขบวนคาราวานครั้งต่อไปที่บริษัทจะจัดขึ้นในเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน ศกนี้ด้วย
ผู้เขียนเชื่อว่าการท่องเที่ยวแบบคาราวานในประเทศไทย น่าจะมีลู่ทางแจ่มใสและได้รับความนิยมมากขึ้นทุกขณะในตลาดท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน หรือในประเทศเอเชียด้วยกัน เพราะเรามีถนนหนทางที่สะดวกสบายและปลอดภัย เหมาะอย่างยิ่งที่จะเดินทางท่องเที่ยวโดยรถยนต์ นอกจากนี้ ยังมีโรงแรม ที่พัก และอาหารที่สะอาด และราคาไม่แพงไว้บริการทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทย ซึ่งหาไม่ได้ในประเทศอื่นๆ
ดังนั้น ขอให้หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวและคนไทยช่วยกันสนับสนุนและส่งเสริมบทบาทและการทำงานของสถานทูตสถานกงสุลไทยในต่างประเทศที่พยายามหารายได้เข้าประเทศด้วยการจัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและโฆษณาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวแบบคาราวานให้เป็นที่นิยมและรู้จักอย่างแพร่หลายของบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกให้แก่ขบวนคาราวานรถยนต์ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง และ การดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถยนต์ เนื่องจากความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดทั้งความสะดวกสบายและความคุ้มค่าในการเดินทางเป็นปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติตัดสินใจในการเดินทางมาประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ท่านผู้อ่านที่ติดตามคอลัมน์นี้เป็นประจำ คงพอจะจำได้ว่าในช่วงกลางเดือนธันวาคมปี 2548 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ จัดขบวนคาราวานผ่านกรุงเทพฯ-เสียมราฐ-พนมเปญ-นครโฮจิมินห์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถยนต์ระหว่าง 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา และเวียดนาม ผลปรากฏว่าการจัดขบวนคาราวานครั้งนั้นเป็นที่พอใจของบรรดาลูกทัวร์ของทั้งสามประเทศเป็นอย่างยิ่ง
จึงไม่น่าแปลกใจที่บริษัท VYC Travel ของเวียดนามและบริษัท GMS Rally จำกัด ของไทยซึ่งได้ส่งผู้แทนของบริษัทเข้าร่วมขบวนคาราวานครั้งที่แล้ว ได้ร่วมมือกันจัดขบวนรถยนต์คาราวานจากเวียดนามเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยอีกครั้ง คาราวานครั้งนี้เป็นขบวนเล็กๆ ประกอบด้วยรถยนต์จำนวน 9 คัน และนักท่องเที่ยวเวียดนามจำนวน 26 คน
ขบวนคาราวานดังกล่าวถือเป็นคาราวานคณะแรกที่มาจากเวียดนามโดยตรง และเป็นการต่อยอดจากโครงการคาราวาน 3 ประเทศซึ่งจัดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว เพราะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถยนต์ระหว่างไทย กัมพูชาและเวียดนาม ดังนั้น สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ จึงได้ประสานงานกับจังหวัดสระแก้ว และ ททท. สำนักงานภาคกลาง เขต 8 จังหวัดนครนายก เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คณะ
การช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้แก่บริษัททัวร์เวียดนามและไทย โดยการประสานงานระหว่างสถานกงสุลใหญ่ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย แม้ไม่ใช่หน้าที่โดยตรง แต่ก็ถือเป็นน้ำใจของหน่วยงานไทยซึ่งได้สร้างความประทับใจแก่บริษัทและคณะนักท่องเที่ยวเวียดนามด้วยการบริการที่สะดวกรวดเร็วของด่านตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรที่อำเภออรัญประเทศ เพราะเป็นด่านแรกที่สามารถเรียกคะแนนนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมบทบาทของหน่วยงานไทยในด้านการท่องเที่ยวได้อีกด้วย
ขบวนคาราวานเวียดนามได้เดินทางโดยรถยนต์เพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทยและกัมพูชาตลอดเวลา 8 วัน 7 คืน เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2549 โดยใช้เวลาอยู่ในประเทศไทยในช่วง 5 วันแรกอย่างคุ้มค่า และได้ไปเยี่ยมชมพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี และสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี เช่น ทางรถไฟสายมรณะ และสะพานข้ามแม่น้ำแคว รวมทั้งพักในกรุงเทพฯ 2 คืนด้วย
นอกจากคณะนักท่องเที่ยวเวียดนามประทับใจในการบริการอันรวดเร็วทันใจของด่าน ตม.และด่านศุลกากรไทยแล้ว คณะยังได้รับความเพลิดเพลินสนุกสนานในการเดินทางท่องเที่ยวแบบคาราวานในประเทศไทยอย่างมาก เนื่องจากได้เปิดหูเปิดตาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกใหม่สำหรับชาวเวียดนาม เช่น ตลาดน้ำดำเนินสะดวก และสะพานข้ามแม่น้ำแคว รวมทั้งมีโอกาสได้พูดคุยทำความรู้จักกับคนไทยในระหว่างการเดินทาง ทำให้คณะนักท่องเที่ยวเวียดนามรู้สึกประทับใจในความเป็นมิตรและเอื้ออาทรของคนไทยเพิ่มขึ้น
ตลอดเวลาที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย ขบวนคาราวานเวียดนามไม่ประสบปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ เพราะเส้นทางคมนาคมในไทยมีความสะดวกสบาย คณะนักท่องเที่ยวเวียดนามได้ถ่ายภาพและเขียนข้อความบรรยายความประทับใจจากการเดินทางลงในเวปไซท์ www.otosaigon.com และหนังสือพิมพ์ในเวียดนามก็ได้ลงบทความเกี่ยวกับการเดินทางแบบคาราวานเผยแพร่แก่ชาวเวียดนามด้วย
การที่บริษัททัวร์ไทยและเวียดนามได้ร่วมกันจัดขบวนคาราวานจนได้รับผลสำเร็จด้วยดีเช่นนี้ ย่อมจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวเวียดนามเดินทางมาเยือนไทยมากขึ้น นอกจากไทยจะได้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นแล้ว การท่องเที่ยวแบบคาราวานยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเวียดนามได้รู้จักกับคนไทย สัมผัสกับวัฒนธรรมไทยและวิถีชีวิตแบบไทยมากกว่าการท่องเที่ยวด้วยเส้นทางอื่นๆ
ในอนาคตคาดว่าบริษัททัวร์ของไทยและเวียดนามจะร่วมมือกันจัดคาราวานท่องเที่ยวจากเวียดนามมาไทย และจากไทยไปเวียดนามอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ บริษัท VYC Travel มีโครงการจะนำผู้สื่อข่าวเวียดนามมาถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ๆ ในประเทศไทยระหว่างการจัดขบวนคาราวานครั้งต่อไปที่บริษัทจะจัดขึ้นในเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน ศกนี้ด้วย
ผู้เขียนเชื่อว่าการท่องเที่ยวแบบคาราวานในประเทศไทย น่าจะมีลู่ทางแจ่มใสและได้รับความนิยมมากขึ้นทุกขณะในตลาดท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน หรือในประเทศเอเชียด้วยกัน เพราะเรามีถนนหนทางที่สะดวกสบายและปลอดภัย เหมาะอย่างยิ่งที่จะเดินทางท่องเที่ยวโดยรถยนต์ นอกจากนี้ ยังมีโรงแรม ที่พัก และอาหารที่สะอาด และราคาไม่แพงไว้บริการทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทย ซึ่งหาไม่ได้ในประเทศอื่นๆ
ดังนั้น ขอให้หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวและคนไทยช่วยกันสนับสนุนและส่งเสริมบทบาทและการทำงานของสถานทูตสถานกงสุลไทยในต่างประเทศที่พยายามหารายได้เข้าประเทศด้วยการจัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและโฆษณาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวแบบคาราวานให้เป็นที่นิยมและรู้จักอย่างแพร่หลายของบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกให้แก่ขบวนคาราวานรถยนต์ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง และ การดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถยนต์ เนื่องจากความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดทั้งความสะดวกสบายและความคุ้มค่าในการเดินทางเป็นปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติตัดสินใจในการเดินทางมาประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-