ภาวะการผลิตอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของเดือนพฤษภาคม 2549 ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยดัชนีผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 19 โดยเป็นการปรับตัวสูงขึ้นทั้งอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เป็นผลเนื่องจากเร่งทำการผลิตในเดือนนี้ ประกอบกับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนเมษายนเป็นฐานที่ค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว โดยที่ปริมาณสินค้าคงคลังปรับระดับสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน และเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21โดยมาจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก โดยเฉพาะ IC และ HDD ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดอิเล็กทรอนิกส์ของโลกที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
2. การส่งออก
การส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนพฤษภาคม ปรับตัวสูงขึ้นถึงร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนและเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เช่นกัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นในกลุ่มของอุปกรณ์ภาพและเครื่องเสียง กลุ่มผลิตภัณฑ์ตู้เย็น ตู้แช่ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ และ IC สินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้ามีมูลค่าส่งออก 48,413 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากเดือนก่อน และชะลอตัวลงเล็กน้อยร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้าที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม ได้แก่ เครื่องรับโทรทัศน์สี เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้เนื่องจากการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 57 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ อาจเนื่องมาจากกระแสฟุตบอลโลกที่จะมาถึงนี้ อย่างไรก็ตาม การผลิตเพื่อส่งออกจะมีแนวโน้มการส่งออกที่เปลี่ยนแปลงไปสู่การส่งออก LCD TV แทน
สำหรับสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์มีมูลค่าการส่งออก 82,049 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น ร้อยละ 23 เป็นผลจากตัว IC ที่มีมูลค่าส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 43 รองลงมา ได้แก่ ส่วนประกอบของอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 เนื่องจากภาวะตลาดโลกที่มีความต้องการจาก สินค้า Consumer Electronics และโทรศัพท์มือถือที่มีลักษณะเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามาก และมีรูปแบบหลายหน้าที่ในเครื่องเดียวกัน
3. แนวโน้ม
ภาวการณ์ผลิตและขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในเดือนมิถุนายน 2549 สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่จำหน่ายในประเทศ ยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจทางด้านลบ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาถึงแนวโน้มเช่นกัน ซึ่งหากไม่เกิดภาวะผิดปกติ การผลิตและขายในช่วงไตรมาส 2 จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และจะเร่งผลิตมากในช่วงไตรมาส 3 เพื่อสำรองไว้ขายปลายปี ส่วนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนมิถุนายนและไตรมาส 2 /2549 คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกันเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม และจะขยายตัวเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะความต้องการสินค้า Consumer Electronic ของโลกที่ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโทรศัพท์เคลื่อนที่และคอมพิวเตอร์เป็นสินค้าหลักที่ดึงให้ความต้องการอิเล็กทรอนิกส์ปรับเพิ่มขึ้น
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2549 มีค่า 170.56 เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2549 (148.22) ร้อยละ 15.1 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (155.45) ร้อยละ 9.7
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2549 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ อุตสาหกรรมการแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง อุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ อุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมการผลิตเคมีภัณฑ์ขั้นมูลฐาน ยกเว้นปุ๋ยและสารประกอบไนโตรเจน อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
- อัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนพฤษภาคม 2549 มีค่า 71.03 เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2549 (63.56) และเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (68.72)
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2549 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอ รวมถึงการทดสิ่งทอ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง อุตสาหกรรมการแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติก เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตเคมีภัณฑ์ขั้นมูลฐาน ยกเว้นปุ๋ยและสารประกอบไนโตรเจน อุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมการผลิตอาหารสำเร็จรูป อุตสาหกรรมการผลิตรองเท้า เป็นต้น
สถานภาพการประกอบกิจการอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคม2549
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน 2549 มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการจำนวน 315 ราย เพิ่มขึ้นในจำนวนที่น้อยกว่าเดือนเมษายน 2549 ซึ่งมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 319 รายหรือน้อยกว่าร้อยละ —1.3 ในส่วนของจำนวนเงินลงทุน มียอดเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 7,162.03 ล้านบาทลดลงจากเดือนเมษายน 2549 ซึ่งมีการลงทุนเพิ่ม 9,998.14 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ —28.4 และการจ้างงานรวมมีจำนวน 7,428 คน ลดลงจากเดือนเมษายน 2549 เช่นกัน ที่มีจำนวนการจ้างงาน 12,274 คน หรือลดลงร้อยละ —39.5
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการเพิ่มขึ้นในจำนวนที่น้อยกว่าเดือนพฤษภาคม 2548 ซึ่งมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 497 รายหรือคิดเป็นจำนวนน้อยกว่าร้อยละ —36.6 และมีการจ้างงานลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2548 ที่มีจำนวนการจ้างงาน 12,422 คน ร้อยละ —40.2 ในส่วนของจำนวนเงินลงทุนลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2548 ซึ่งมีการลงทุนเพิ่ม 7,616 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ —5.96
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเริ่มประกอบกิจการมากที่สุดในเดือนพฤษภาคม 2549 คือ อุตสาหกรรมทำเครื่องเรือนจากไม้ ยาง อโลหะอื่น ซึ่งมิได้ทำจากพลาสติกอัดเข้ารูป จำนวน 25 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรมขุดหรือลอก กรวด ทรายหรือดิน จำนวน 21 ราย
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการโดยมีการลงทุนสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2549 คือ
อุตสาหกรรมทำผลิตภัณฑ์คอนกรีต คอนกรีตผสม ผลิตภัณฑ์ยิมซั่ม ปูนปลาสเตอร์ 1,296 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมผลิต ซ่อมเครื่องรับวิทยุ เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องเรดาร์ คาปาซิเตอร์ มีเงินทุน 535 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการและมีการจ้างงานสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2549 คือ อุตสาหกรรมทำอาหารหรือเครื่องดื่มจากผัก พืช ผลไม้ บรรจุในภาชนะผนึกอากาศเข้าไม่ได้ คนงาน 762 คน รองลงมาคือ อุตสาหกรรมกลึง เจาะ คว้าน กัด ไส เจียน เชื่อมโลหะทั่วไป คนงาน 479 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน 2549 มีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 152 ราย มากกว่าเดือนเมษายน 2549 ซึ่งมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 98 ราย คิดเป็นร้อยละ 55.1 ในส่วนของเงินทุนมีจำนวน 1,843.29 ล้านบาท มากกว่าเดือนเมษายนที่การเลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 1,841.10 ล้านบาท สำหรับการเลิกจ้างงานมีจำนวน 4,796 คน มากกว่าเดือนเมษายน 2549 ซึ่งเลิกจ้างงานจำนวน 3,635 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวนน้อยกว่าเดือนพฤษภาคม 2548 ซึ่งมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 278 ราย คิดเป็นร้อยละ —45.5 ในส่วนการเลิกจ้างงานน้อยกว่าเดือนพฤษภาคม 2548 ที่การเลิกจ้างงานมีจำนวนถึง 12,984 คน และในส่วนของเงินทุนของการเลิกกิจการน้อยกว่าเดือนพฤษภาคม 2548 เช่นกันที่การเลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 4,457.49 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเลิกกิจการมากที่สุดในเดือนพฤษภาคม 2549 คือ อุตสาหกรรมทำผลิตภัณฑ์คอนกรีต คอนกรีตผสม ผลิตภัณฑ์ยิมซั่ม ปูนปลาสเตอร์ จำนวน 14 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรมซ่อมยานที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์หรือส่วนประกอบ จำนวน 13 ราย
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการโดยที่มีเงินลงทุนสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2549 คืออุตสาหกรรมผลิต ซ่อมเครื่องรับวิทยุ เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องเรดาร์ คาปาซิเตอร์เงินทุน 465 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องเรือนจากไม้ ยาง อโลหะอื่น ซึ่งมิได้ทำจากพลาสติกอัดเข้ารูป เงินทุน 216 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการและจำนวนคนงานสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2549
คือ อุตสาหกรรมทำเครื่องเรือนจากไม้ ยาง อโลหะอื่น ซึ่งมิได้ทำจากพลาสติกอัดเข้ารูป คนงาน 633 คน รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องเรือน เครื่องประดับจากพลาสติก คนงาน 599 คน
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนพฤษภาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน 2549 มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท. ทั้งสิ้น 100 โครงการ มากกว่าเดือนเมษายน 2549 ที่มีจำนวน 82 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.0 และมีเงินลงทุน 38,400 ล้านบาท มากกว่าเดือนเมษายน 2549 ที่มีเงินลงทุน 15,300 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 151.0
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนพฤษภาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท.มากกว่าเดือนพฤษภาคม 2548 ที่มีจำนวน 94 โครงการ ร้อยละ 6.4 และมีเงินลงทุนมากกว่าเดือนพฤษภาคม 2548 ที่มีเงินลงทุน 22,600 ล้านบาท ร้อยละ 69.9
- การกระจายหุ้นของโครงการที่ได้รับการอนุมัติให้การส่งเสริมในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค.2549
การร่วมทุน จำนวน(โครงการ) มูลค่าเงินลงทุน(ล้านบาท)
1.โครงการคนไทย 100% 163 28,600
2.โครงการต่างชาติ 100% 171 43,000
3.โครงการร่วมทุนไทยและต่างชาติ 177 88,100
- ประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค.2549 คือ หมวดเคมี กระดาษ และพลาสติกมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 60,300 ล้านบาท รองลงมา คือ หมวดผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 22,700 ล้านบาท
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
2. การส่งออก
การส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนพฤษภาคม ปรับตัวสูงขึ้นถึงร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนและเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เช่นกัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นในกลุ่มของอุปกรณ์ภาพและเครื่องเสียง กลุ่มผลิตภัณฑ์ตู้เย็น ตู้แช่ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ และ IC สินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้ามีมูลค่าส่งออก 48,413 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากเดือนก่อน และชะลอตัวลงเล็กน้อยร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้าที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม ได้แก่ เครื่องรับโทรทัศน์สี เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้เนื่องจากการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 57 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ อาจเนื่องมาจากกระแสฟุตบอลโลกที่จะมาถึงนี้ อย่างไรก็ตาม การผลิตเพื่อส่งออกจะมีแนวโน้มการส่งออกที่เปลี่ยนแปลงไปสู่การส่งออก LCD TV แทน
สำหรับสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์มีมูลค่าการส่งออก 82,049 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น ร้อยละ 23 เป็นผลจากตัว IC ที่มีมูลค่าส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 43 รองลงมา ได้แก่ ส่วนประกอบของอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 เนื่องจากภาวะตลาดโลกที่มีความต้องการจาก สินค้า Consumer Electronics และโทรศัพท์มือถือที่มีลักษณะเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามาก และมีรูปแบบหลายหน้าที่ในเครื่องเดียวกัน
3. แนวโน้ม
ภาวการณ์ผลิตและขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในเดือนมิถุนายน 2549 สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่จำหน่ายในประเทศ ยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจทางด้านลบ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาถึงแนวโน้มเช่นกัน ซึ่งหากไม่เกิดภาวะผิดปกติ การผลิตและขายในช่วงไตรมาส 2 จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และจะเร่งผลิตมากในช่วงไตรมาส 3 เพื่อสำรองไว้ขายปลายปี ส่วนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนมิถุนายนและไตรมาส 2 /2549 คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกันเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม และจะขยายตัวเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะความต้องการสินค้า Consumer Electronic ของโลกที่ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโทรศัพท์เคลื่อนที่และคอมพิวเตอร์เป็นสินค้าหลักที่ดึงให้ความต้องการอิเล็กทรอนิกส์ปรับเพิ่มขึ้น
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2549 มีค่า 170.56 เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2549 (148.22) ร้อยละ 15.1 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (155.45) ร้อยละ 9.7
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2549 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ อุตสาหกรรมการแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง อุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ อุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมการผลิตเคมีภัณฑ์ขั้นมูลฐาน ยกเว้นปุ๋ยและสารประกอบไนโตรเจน อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
- อัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนพฤษภาคม 2549 มีค่า 71.03 เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2549 (63.56) และเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (68.72)
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2549 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอ รวมถึงการทดสิ่งทอ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง อุตสาหกรรมการแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติก เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตเคมีภัณฑ์ขั้นมูลฐาน ยกเว้นปุ๋ยและสารประกอบไนโตรเจน อุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมการผลิตอาหารสำเร็จรูป อุตสาหกรรมการผลิตรองเท้า เป็นต้น
สถานภาพการประกอบกิจการอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคม2549
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน 2549 มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการจำนวน 315 ราย เพิ่มขึ้นในจำนวนที่น้อยกว่าเดือนเมษายน 2549 ซึ่งมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 319 รายหรือน้อยกว่าร้อยละ —1.3 ในส่วนของจำนวนเงินลงทุน มียอดเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 7,162.03 ล้านบาทลดลงจากเดือนเมษายน 2549 ซึ่งมีการลงทุนเพิ่ม 9,998.14 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ —28.4 และการจ้างงานรวมมีจำนวน 7,428 คน ลดลงจากเดือนเมษายน 2549 เช่นกัน ที่มีจำนวนการจ้างงาน 12,274 คน หรือลดลงร้อยละ —39.5
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการเพิ่มขึ้นในจำนวนที่น้อยกว่าเดือนพฤษภาคม 2548 ซึ่งมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 497 รายหรือคิดเป็นจำนวนน้อยกว่าร้อยละ —36.6 และมีการจ้างงานลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2548 ที่มีจำนวนการจ้างงาน 12,422 คน ร้อยละ —40.2 ในส่วนของจำนวนเงินลงทุนลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2548 ซึ่งมีการลงทุนเพิ่ม 7,616 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ —5.96
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเริ่มประกอบกิจการมากที่สุดในเดือนพฤษภาคม 2549 คือ อุตสาหกรรมทำเครื่องเรือนจากไม้ ยาง อโลหะอื่น ซึ่งมิได้ทำจากพลาสติกอัดเข้ารูป จำนวน 25 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรมขุดหรือลอก กรวด ทรายหรือดิน จำนวน 21 ราย
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการโดยมีการลงทุนสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2549 คือ
อุตสาหกรรมทำผลิตภัณฑ์คอนกรีต คอนกรีตผสม ผลิตภัณฑ์ยิมซั่ม ปูนปลาสเตอร์ 1,296 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมผลิต ซ่อมเครื่องรับวิทยุ เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องเรดาร์ คาปาซิเตอร์ มีเงินทุน 535 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการและมีการจ้างงานสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2549 คือ อุตสาหกรรมทำอาหารหรือเครื่องดื่มจากผัก พืช ผลไม้ บรรจุในภาชนะผนึกอากาศเข้าไม่ได้ คนงาน 762 คน รองลงมาคือ อุตสาหกรรมกลึง เจาะ คว้าน กัด ไส เจียน เชื่อมโลหะทั่วไป คนงาน 479 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน 2549 มีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 152 ราย มากกว่าเดือนเมษายน 2549 ซึ่งมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 98 ราย คิดเป็นร้อยละ 55.1 ในส่วนของเงินทุนมีจำนวน 1,843.29 ล้านบาท มากกว่าเดือนเมษายนที่การเลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 1,841.10 ล้านบาท สำหรับการเลิกจ้างงานมีจำนวน 4,796 คน มากกว่าเดือนเมษายน 2549 ซึ่งเลิกจ้างงานจำนวน 3,635 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวนน้อยกว่าเดือนพฤษภาคม 2548 ซึ่งมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 278 ราย คิดเป็นร้อยละ —45.5 ในส่วนการเลิกจ้างงานน้อยกว่าเดือนพฤษภาคม 2548 ที่การเลิกจ้างงานมีจำนวนถึง 12,984 คน และในส่วนของเงินทุนของการเลิกกิจการน้อยกว่าเดือนพฤษภาคม 2548 เช่นกันที่การเลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 4,457.49 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเลิกกิจการมากที่สุดในเดือนพฤษภาคม 2549 คือ อุตสาหกรรมทำผลิตภัณฑ์คอนกรีต คอนกรีตผสม ผลิตภัณฑ์ยิมซั่ม ปูนปลาสเตอร์ จำนวน 14 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรมซ่อมยานที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์หรือส่วนประกอบ จำนวน 13 ราย
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการโดยที่มีเงินลงทุนสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2549 คืออุตสาหกรรมผลิต ซ่อมเครื่องรับวิทยุ เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องเรดาร์ คาปาซิเตอร์เงินทุน 465 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องเรือนจากไม้ ยาง อโลหะอื่น ซึ่งมิได้ทำจากพลาสติกอัดเข้ารูป เงินทุน 216 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการและจำนวนคนงานสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2549
คือ อุตสาหกรรมทำเครื่องเรือนจากไม้ ยาง อโลหะอื่น ซึ่งมิได้ทำจากพลาสติกอัดเข้ารูป คนงาน 633 คน รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องเรือน เครื่องประดับจากพลาสติก คนงาน 599 คน
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนพฤษภาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน 2549 มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท. ทั้งสิ้น 100 โครงการ มากกว่าเดือนเมษายน 2549 ที่มีจำนวน 82 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.0 และมีเงินลงทุน 38,400 ล้านบาท มากกว่าเดือนเมษายน 2549 ที่มีเงินลงทุน 15,300 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 151.0
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนพฤษภาคม 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท.มากกว่าเดือนพฤษภาคม 2548 ที่มีจำนวน 94 โครงการ ร้อยละ 6.4 และมีเงินลงทุนมากกว่าเดือนพฤษภาคม 2548 ที่มีเงินลงทุน 22,600 ล้านบาท ร้อยละ 69.9
- การกระจายหุ้นของโครงการที่ได้รับการอนุมัติให้การส่งเสริมในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค.2549
การร่วมทุน จำนวน(โครงการ) มูลค่าเงินลงทุน(ล้านบาท)
1.โครงการคนไทย 100% 163 28,600
2.โครงการต่างชาติ 100% 171 43,000
3.โครงการร่วมทุนไทยและต่างชาติ 177 88,100
- ประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค.2549 คือ หมวดเคมี กระดาษ และพลาสติกมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 60,300 ล้านบาท รองลงมา คือ หมวดผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 22,700 ล้านบาท
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-