วันนี้ (16 เม.ย. 49) นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประมวลการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการดำเนินการ การแก้ปัญหา และการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะองค์กรอิสระ ซึ่งเป็นองค์กรสำคัญในการกำหนดทิศทางในการเลือกตั้ง โดยผลจากการทำงานดังกล่าวทางพรรคประชาธิปัตย์สรุปว่ามีความเป็นที่สุด 4 ข้อ คือ 1.เป็นองค์กรอิสระที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบมากที่สุด ซึ่งโดยปกติแล้วองค์กรอิสระจะไม่ถูกฟ้องร้อง เพราะส่วนใหญ่จะเคารพในการตัดสิน ซึ่งคดีที่ศาลสั่งประทับรับฟ้องแล้ว อาทิเช่น ที่นครศรีธรรมราช, สตูล, ตรัง รวมทั้งยังมีคดีที่ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการอีกหลายร้อยคดี 2. เป็นองค์กรอิสระที่ด้อยประสิทธิภาพมากที่สุด กล่าวคือ กกต.ปล่อยให้มีการทุจริตและกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมากที่สุด ตั้งแต่การเลือกตั้งในวันที่ 6 ก.พ., วันที่ 2 เม.ย. รวมไปถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ กกต. ไม่สามารถดำเนินการกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งได้ ซึ่งกกต. ได้รับเรื่องร้องเรียนเป็นหมื่นเรื่อง แต่สามารถดำเนินการได้เพียง ออกใบเหลือง 7 ใบ และใบแดง 1 ใบ ดังนั้นจากผลของการดำเนินงาน เมื่อเปรียบเทียบกับเรื่องที่ร้องเรียน จะพบว่า กกต. ทำงานด้อยประสิทธิ์ภาพ อีกทั้งจากการเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา พบว่า มีการปลอมแปลงคุณสมบัติผู้สมัครโดยการเปลี่ยน หรือมีการทำขึ้นใหม่ ซึ่งฐานข้อมูลนั้นอยู่ในความดูแลของ กกต. แต่ กกต. ไม่สามารถชี้แจงเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนได้ นอกจากนี้ยังไม่มีความชัดเจนและไม่มีมาตรฐานในการดูแลฐานข้อมูลสมาชิกพรรค การปรับปรุงฐานข้อมูลสมาชิกพรรค 3.เป็นองค์กรที่น่าจะถูกแทรกแซงมากที่สุด ทั้งในระดับผู้บริหาร และระดับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพราะจากการทำงานที่ผ่านมานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง เช่น การกำหนดวันเลือกตั้ง, การวินิจฉัยการกระทำความผิด โดยเฉพาะผู้นำพรรคการเมืองใหญ่ กระทำความผิดที่ค่อนข้างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบด้วยบรรทัดฐานในอดีต 4.เป็นองค์กรอิสระที่สื่อมวลชนและประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบมากที่สุด
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 เม.ย. 2549--จบ--
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 เม.ย. 2549--จบ--