วันนี้ (20ส.ค.50)เวลา 10.00 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยคณะทำงานพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวภายหลังผลการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญบับปี 2550 เพื่อขอบคุณประชาชนที่ได้ออกมาออกเสียงประชามติ และขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยประคับประคองให้การลงประชามติครั้งนี้เป็นด้วยความเรียบร้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ ต้องการจะเห็น พรรคต้องการให้บ้านเมืองกลับคืนสู่ภาวะปกติ และความเป็นประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด
“เราคิดว่าผลของการออกประชามติเมื่อวานนี้ ได้ทำให้หวนสู่ความเป็นประชาธิปไตยมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อบรรยากาศการเมือง เศรษฐกิจ และโดยรวม ทั้งนี้อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐบาล และ คมช. และสนช. ได้ร่วมกันทำให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น ในเรื่องของตารางเวลาในเรื่องการทำงานจากนี้ไป โดยเฉพาะการจัดทำกฎหมายลูก และเรื่องการจัดการเลือกตั้ง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่า เราเข้าใจว่ายังมีขั้นตอนที่เกี่ยวกับการประกาศใช้รัฐธรรมนูญอยู่อีกบางส่วน แต่คิดว่าภายในสิ้นเดือนนี้ การทำความชัดเจนเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ในแง่ภาพลักษณ์ของประเทศ และในแง่สร้างความมั่นใจให้ทุกคนเดินไปข้างหน้า
“เราเห็นว่าคะแนนเสียงที่ออกมาได้แสดงชัดเจนว่า ประชาชนต้องการที่จะให้ประเทศเดินข้างหน้าและผมคิดว่าสิ่งที่สะท้อนออกมาจากคะแนนเสียงเมื่อวานนี้คือว่าประชาชนไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งทางการเมือง ที่ยืดเยื้อออกไป ไม่ต้องการเห็นการยื้อกันระหว่างกลุ่มอำนาจเก่า กับกลุ่มอำนาจใหม่ แต่ต้องการให้บ้านเมืองเดินไปตามอำนาจของประชาชน”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า คะแนนเสียงที่ออกมาอย่างนี้ เราหวังจะให้ทุกพรรค ทุกกลุ่มการเมือง ได้ใช้โอกาสนี้ในการเปลี่ยนบรรยาการกาศของบ้านเมือง ไปสู่การแข่งขันกันอย่างสร้างสรรค์ ในเรื่องนโยบาย และการแก้ปัญหาของประชาชน ซึ่งประชาชนส่วนรอคอยมาเป็นเวลานาน “โดยพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ในเรื่องวาระประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฟื้นฟูประชาธิปไตย การศึกษา การฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสันติสุขในภาคใต้.” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า คะแนนเสียงที่ไม่รับ ซึ่งก็ไม่น้อย เป็นเสียงที่เราคิดว่าทุกฝ่ายต้องรับฟังและให้ความสำคัญ ประการหนึ่งที่เราคิดว่าทำได้คือว่ารัฐธรรมนูญฉบับบนี้ยังไม่สมบูรณ์ และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าความไม่สมบูรณ์นี้จะได้รับการแก้ไขต่อไป พรรคประชาธิปัตย์ยินดีจะให้ความร่วมมือกับการเดินไปสู่การปรับปรุงรัฐธรรมนูญปี 2550 โดยพรรคห็นว่าทุกพรรคการเมือง และทุกกลุ่มการเมือง น่าจะแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะผลักดันสิ่งนี้ โดยไม่ให้เป็นปัญหาของการเลือกตั้ง หรือปัญหาของการเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาลหลังการเลือกตั้งมาเป็นอุปสรรค ทั้งนี้ตนเห็นว่าสถาบัน หรือองค์กรที่เป็นกลาง เช่น สถานบันพระปกเกล้า น่าจะได้เป็นผู้ดำเนินการในการรวบรวมความคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆ เพื่อเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป ตรงนี้ เราเห็นว่าจะทำให้ทุกคะแนนเสียงมีความหมาย หมายความว่าเสียงข้างมากที่ต้องการให้ประเทศเดินหน้าก็ได้รับการตอบสนองจากความชัดเจน ในเรื่องการเมืองไทย ส่วนเสียงข้างน้อยที่ไม่พอใจและไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญ ได้รับการรับฟังด้วย
“สำหรับคะแนนเสียงที่ออกมาผมคิดว่าเป็นการยืนยันว่าประชาชนคนไทยกำลังต้องการความเปลี่ยนแปลง คะแนนเสียงที่ออกมาบ่งบอกว่าประชาชนต้องการเดินไปสู่การเปลี่ยนแปลงจากทั้งอำนาจเก่า และอำนาจใหม่ ต้องการเห็นการเมืองที่ยึดมั่นผลประโยชน์ของประชนเป็นใหญ่ ให้ประชาชนมาก่อน และต้องการที่จะเห็นการแข่งขันที่มีความหลากหลาย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 ส.ค. 2550--จบ--
“เราคิดว่าผลของการออกประชามติเมื่อวานนี้ ได้ทำให้หวนสู่ความเป็นประชาธิปไตยมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อบรรยากาศการเมือง เศรษฐกิจ และโดยรวม ทั้งนี้อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐบาล และ คมช. และสนช. ได้ร่วมกันทำให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น ในเรื่องของตารางเวลาในเรื่องการทำงานจากนี้ไป โดยเฉพาะการจัดทำกฎหมายลูก และเรื่องการจัดการเลือกตั้ง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่า เราเข้าใจว่ายังมีขั้นตอนที่เกี่ยวกับการประกาศใช้รัฐธรรมนูญอยู่อีกบางส่วน แต่คิดว่าภายในสิ้นเดือนนี้ การทำความชัดเจนเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ในแง่ภาพลักษณ์ของประเทศ และในแง่สร้างความมั่นใจให้ทุกคนเดินไปข้างหน้า
“เราเห็นว่าคะแนนเสียงที่ออกมาได้แสดงชัดเจนว่า ประชาชนต้องการที่จะให้ประเทศเดินข้างหน้าและผมคิดว่าสิ่งที่สะท้อนออกมาจากคะแนนเสียงเมื่อวานนี้คือว่าประชาชนไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งทางการเมือง ที่ยืดเยื้อออกไป ไม่ต้องการเห็นการยื้อกันระหว่างกลุ่มอำนาจเก่า กับกลุ่มอำนาจใหม่ แต่ต้องการให้บ้านเมืองเดินไปตามอำนาจของประชาชน”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า คะแนนเสียงที่ออกมาอย่างนี้ เราหวังจะให้ทุกพรรค ทุกกลุ่มการเมือง ได้ใช้โอกาสนี้ในการเปลี่ยนบรรยาการกาศของบ้านเมือง ไปสู่การแข่งขันกันอย่างสร้างสรรค์ ในเรื่องนโยบาย และการแก้ปัญหาของประชาชน ซึ่งประชาชนส่วนรอคอยมาเป็นเวลานาน “โดยพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ในเรื่องวาระประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฟื้นฟูประชาธิปไตย การศึกษา การฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสันติสุขในภาคใต้.” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า คะแนนเสียงที่ไม่รับ ซึ่งก็ไม่น้อย เป็นเสียงที่เราคิดว่าทุกฝ่ายต้องรับฟังและให้ความสำคัญ ประการหนึ่งที่เราคิดว่าทำได้คือว่ารัฐธรรมนูญฉบับบนี้ยังไม่สมบูรณ์ และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าความไม่สมบูรณ์นี้จะได้รับการแก้ไขต่อไป พรรคประชาธิปัตย์ยินดีจะให้ความร่วมมือกับการเดินไปสู่การปรับปรุงรัฐธรรมนูญปี 2550 โดยพรรคห็นว่าทุกพรรคการเมือง และทุกกลุ่มการเมือง น่าจะแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะผลักดันสิ่งนี้ โดยไม่ให้เป็นปัญหาของการเลือกตั้ง หรือปัญหาของการเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาลหลังการเลือกตั้งมาเป็นอุปสรรค ทั้งนี้ตนเห็นว่าสถาบัน หรือองค์กรที่เป็นกลาง เช่น สถานบันพระปกเกล้า น่าจะได้เป็นผู้ดำเนินการในการรวบรวมความคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆ เพื่อเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป ตรงนี้ เราเห็นว่าจะทำให้ทุกคะแนนเสียงมีความหมาย หมายความว่าเสียงข้างมากที่ต้องการให้ประเทศเดินหน้าก็ได้รับการตอบสนองจากความชัดเจน ในเรื่องการเมืองไทย ส่วนเสียงข้างน้อยที่ไม่พอใจและไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญ ได้รับการรับฟังด้วย
“สำหรับคะแนนเสียงที่ออกมาผมคิดว่าเป็นการยืนยันว่าประชาชนคนไทยกำลังต้องการความเปลี่ยนแปลง คะแนนเสียงที่ออกมาบ่งบอกว่าประชาชนต้องการเดินไปสู่การเปลี่ยนแปลงจากทั้งอำนาจเก่า และอำนาจใหม่ ต้องการเห็นการเมืองที่ยึดมั่นผลประโยชน์ของประชนเป็นใหญ่ ให้ประชาชนมาก่อน และต้องการที่จะเห็นการแข่งขันที่มีความหลากหลาย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 ส.ค. 2550--จบ--