นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า ณ 31 ธันวาคม 2549 บริษัทประกันชีวิตทั้ง 25 บริษัท ได้วางทรัพย์สินสำหรับเป็นเงินสำรองประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันชีวิตซึ่งยังมีผลผูกพันไว้กับกรมการประกันภัย เป็นจำนวนทั้งสิ้น 114,766.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 18.16 ซึ่งมีรายละเอียดทรัพย์สินดังนี้
1.พันธบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 74,082.32 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 64.55 ของทรัพย์สิน เงินสำรองที่วางไว้
2.พันธบัตรและหุ้นกู้ของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 32,789.16 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 28.57 ของทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
3.ตั๋วแลกเงินและตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 6,094.41 ล้านบาท คิดเป็นร้อนละ 5.31 ของทรัพย์ สินเงินสำรองที่วางไว้
4.สมุดเงินฝาก ใบรับฝากเงิน จำนวน 1,189.67 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.04 ของทรัพย์สิน เงินสำรองที่วางไว้
5.หุ้นกู้บริษัทจำกัด จำนวน 554.63 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.47 ของทรัพย์สินเงินสำรองที่ วางไว้
6.ที่ดินและอาคารที่ใช้เป็นสำนักงานสาขา จำนวน 55.87 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.05 ของ ทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
บริษัทประกันภัยชีวิตจะต้องจัดสรรเบี้ยประกันภัยไว้เป็นเงินสำรองประกันภัยเพื่อจ่ายคืน ให้แก่ผู้เอาประกันชีวิตหรือผู้รับประโยชน์ในอนาคตตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับลูกค้า เช่น เมื่อครบกำหนดสัญญา เมื่อเสียชีวิต หรือเมื่อเวนคืนกรมธรรม์ ฯลฯ กฎหมายกำหนดให้บริษัทจะต้องนำเงินสำรองประกันภัยมาวางไว้กับกรมการประกันภัยเป็นมูลค่าไม่เกินร้อยละยี่สิบห้าของเงินสำรองประกันภัยทั้งสิ้น
เงินสำรองประกันภัยที่บริษัทประกันชีวิตได้วางไว้กับกรมการประกันภัยนี้เพื่อเป็นหลักประกัน ความมั่นคงสำหรับผู้ทำประกันภัยกับบริษัทประกันชีวิต ดังนั้นกรมการประกันภัยจึงกำหนดให้บริษัทจะต้อง นำทรัพย์สินที่มีความมั่นคงสูงเท่านั้นที่วางกับกรมการประกันภัยได้
ที่มา: http://www.doi.go.th