จุดยืนประชาธิปัตย์หลังการยกเลิกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ ๑๕ และ ๒๗
ให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
๑. ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นับตั้งแต่มีการยึดอำนาจ และมีประกาศของคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ ๑๕และ ๒๗ ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ได้ติดตามสถานการณ์ของประเทศด้วยความห่วงใย เพราะทราบว่าปัญหาต่างๆของประชาชน ยังคงมีอยู่ตลอดเวลา และบางปัญหา นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น พรรคจึงได้ติดตามปัญหาต่างๆ อย่างใกล้ชิด ศึกษาข้อมูลอยู่ตลอดเวลา ทั้งมีการพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนกับประชาชน ผู้รู้ นักวิชาการและผู้ประกอบการ ทำให้พรรคฯ มีแนวทางในการกำหนดนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศต่อไป โดยสภาพปัญหาหลักๆ ที่ประชาชนเผชิญอยู่ในขณะนี้คือ
ปัญหาความยากจนและปัญหาเศรษฐกิจ
ปัญหาความไม่สงบใน จังหวัดชายแดนภาคใต้
ปัญหาความแตกแยกในบ้านเมือง
ปัญหาความยากจนยังคงเป็นปัญหาหลัก ของประชาชน ทั้งปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ปัญหาหนี้สิน ที่ดินทำกิน ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวมซึ่งเหลือเพียงการส่งออกเป็นตัวประคับประคองเท่านั้น ได้ซ้ำเติมปัญหาความยากจนให้รุนแรงมากขึ้น
ปัญหาความไม่สงบใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ ความแตกแยกของทัศนคติและความคิด ทำให้มีความไม่ยอมรับในความหลากหลายมีมากขึ้นจนวิกฤต
ในขณะเดียวกัน ความร้าวลึกของความแตกแยกทางความคิดของคนในสังคมบานปลาย เป็นการต่อต้าน มีความเคลื่อนไหวจนเสียหายต่อสถาบันหลักของประเทศและกระบวนการยุติธรรม จนส่งผลกระทบต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหาต่างๆ
ปัญหาทั้ง ๓ ข้อ ดังกล่าว ทำให้ดัชนีความสุขของคนไทยลดลง ซึ่งชี้ให้เห็นว่า คุณภาพชีวิตของคนไทยแย่ลง ในขณะที่ปัญหาหลักๆ ยังคงดำรงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม การคอร์รัปชั่น เป็นต้น
ภาพของปัญหาในวันนี้ คือ โจทย์ใหญ่ ที่พรรคประชาธิปัตย์ ขอเชิญชวนประชาชนมาร่วมกัน แก้ไข เพื่ออนาคตใหม่ของประเทศไทย
๒. ความตั้งใจของพรรคประชาธิปัตย์ในการสร้างอนาคตใหม่ของประเทศไทย ก็คือ
๒.๑ สังคมที่สันติสุข ผู้คนสมัครสมานสามัคคี รู้จักที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างในด้านเชื้อชาติ ศาสนาและความคิดทางการเมืองโดยใช้กระบวนการทางประชาธิปไตย สันติวิธีและการบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาดเสมอภาค
พรรคประชาธิปัตย์นมั่นใจในแนวทางที่พรรคได้เคยนำเสนอไว้ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ได้ ความร่วมมือจากทุก ๆ ฝ่ายเป็นหัวใจสำคัญ และการมีผู้รับผิดชอบโดยตรงที่สามารถทุ่มเทเวลาให้กับปัญหาในพื้นที่อย่างจริงจัง รวมทั้งการที่พรรคได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องภาคใต้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด จะเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้ได้เข้าใจถึงปัญหาอย่างแท้จริง และสามารถนำมาแก้ไขให้เกิดความสันติสุขในจังหวัดภาคใต้ได้ในที่สุด
๒.๒ เศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
? เศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
การทำธุรกิจของภาคเอกชนเติบโต การจ้างงานเพิ่มขึ้น ประชาชนมีงานทำ มีรายได้ พึ่งพาตัวเองได้ ใช้หนี้ได้ด้วยตนเอง
ภาคเอกชนจึงเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์จะสนับสนุนภาคเอกชน ด้วยการขจัดอุปสรรคทุกชนิดในระบบของราชการ วางกติกาและกำกับ การแข่งขันที่เสรีเป็นธรรม ทั้งในประเทศ และในตลาดโลกรวมทั้งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
? จัดความสำคัญในการใช้เงินภาษีให้เกิดความเป็นธรรมกับพี่น้องคนไทยทุกภาคของประเทศ การใช้จ่ายเงินงบประมาณโดยโปร่งใส เป็นนโยบายที่สำคัญที่สุด ต้องคำนึงอยู่ตลอดเวลาว่า รายได้ทุกบาททุกสตางค์มาจากหยาดเหงื่อของประชาชน ไม่ใช่เงินของรัฐบาล
? เกษตรกรดำรงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่อดอยาก ขายผลผลิตได้ราคา และตั้งตัวได้ หลุดพ้นจากการเป็นหนี้ สามารถส่งออกและร่ำรวยได้
เกษตรกรที่ตั้งใจเพาะปลูกต้องไม่เป็นหนี้เพราะภัยธรรมชาติ รัฐต้องประกันต้นทุนของเกษตรกรให้เริ่มต้นใหม่ได้โดยไม่เป็นหนี้
พรรคจะผลัดดันการเพิ่มผลผลิตอย่างจริงจัง ต้องมีการใช้เมล็ดพันธ์ กล้าพันธ์ที่มีคุณภาพสูง มีน้ำเพียงพอดูแลแปลงผลิตอย่างถูกต้องและชะลอการขายได้ เพื่อสร้างอำนาจต่อรองด้านการตลาด
ทั้งนี้ การดำเนินการทั้งหมดจะอยู่ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
๒.๓ คนไทยฉลาด แข็งแรง มีหลักประกันสวัสดิการทุกคน พรรคประชาธิปัตย์จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพอย่างเป็นระบบ จริงจัง และยั่งยืน คนไทยทุกคนจะมีหลักประกัน ในเรื่องการรักษาพยาบาล การศึกษา คนชรามีเบี้ยเลี้ยง เบี้ยยังชีพ หรือบำเหน็จบำนาญ โดยสร้างระบบสวัสดิการที่เป็นสิทธิ ไม่ขึ้นกับว่า ใครจะมาเป็นรัฐบาล หรือใครจะเป็นนายกฯ
ระบบการศึกษาจะไม่เป็นรองใคร “เด็กไทยเก่งได้ทุกคน” บนพื้นฐานของคุณธรรม จริยธรรม พร้อมกับพัฒนาสมองเด็กไทยทุกคน โดยเฉพาะตั้งแต่อยู่ในท้องแม่จนถึงอายุ ๖ ขวบ ปูพื้นฐานการจัดการเรียนการสอนในวิชาหลัก คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ให้สอดคล้องกับอายุและการพัฒนาสมอง
๒.๔ มีธรรมาภิบาลในทุกระดับ ทั้งตัวบุคคล องค์กร ภาคราชการ ภาคเอกชน เพื่อมิให้สังคมเสื่อมไปมากกว่านี้ ประชาชนต้องเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร สื่อสาธารณะ โดยปราศจากการปิดกั้น เพื่อให้คนในสังคมรู้ทุกด้านอย่างเท่าเทียม ไม่ถูกครอบงำ ทรัพยากรที่เคยสูญเสียจากการคอร์รัปชั่นต้องกลับคืนสู่ประชาชน
การสร้างอนาคตใหม่จะเน้นความยั่งยืนในทุกๆ ด้าน รวมทั้งด้านการให้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นอนาคตที่ทุกคนมีโอกาสได้ประโยชน์อย่างทั่วถึง
ประเทศต้องการการแก้ไขปัญหา ด้วยความเข้าใจสภาพพื้นฐานของปัญหา มีข้อมูลตัวเลข ผ่านกระบวนการรับรู้ กำหนดแนวทางร่วมกับประชาชน ไม่ผูกขาด รวมศูนย์การตัดสินใจ โดยไม่ฟังเสียงของประชาชน
นโยบายใดๆ ที่เกิดขึ้น โดยการกำหนดร่วมกันแล้ว ต้องได้รับการปฏิบัติที่ฉับไว กล้าตัดสินใจ โดยคนที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม แต่ถือประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่
๓. จากวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะผลักดันอนาคตใหม่ ประเด็นสำคัญก็คือจะทำอย่างไรให้แนวคิดและความตั้งใจในการแก้ไขของประเทศและประชาชน เป็น วาระร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนร่วมสนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหาของประชาชน และของประเทศ ดังกล่าว
พรรคยังคงยืนยันแนวทางในการเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม ทุกปัญหาเพราะผมและพรรคประชาธิปัตย์ตระหนักดีว่า เฉพาะพรรคฯ คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาทุกปัญหาให้ลุล่วงไปได้โดยลำพัง แต่ต้องได้รับความร่วมมือสนับสนุนจากประชาชน ดังนั้น ผมและพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางเพื่อไปพบกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เพื่ออธิบายวิธีการแก้ไขปัญหาและขอความร่วมมือเพื่อสร้างพลังร่วมในการแก้ไขปัญหา
พรรคยังคงเชื่อมั่นในแนวทางการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วม สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหาเฉพาะพื้นที่ เฉพาะภาค พรรคฯเห็นว่า ต้องมีการกำหนด นโยบายเฉพาะพื้นที่ เพื่อให้มีการตอบสนองความหลากหลาย และความต้องการเฉพาะพื้นที่ ของประชาชนได้อย่างตรงจุด เช่น การจัดระบบการค้าชายแดน การสร้างฐานการผลิตเฉพาะถิ่น ปัญหาการค้าชายแดน ในภาคอีสาน ก็จะจัดให้มีแผนเฉพาะการค้าชายแดน เป็นต้น นโยบายเฉพาะพื้นที่นี้ จะเป็นพิเศษแตกต่างจากนโยบายภาพรวม ซึ่งจะเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม แต่จะมีความเชื่อมโยงในด้านแนวคิดและหลักการร่วมกัน
ผมจึงได้ประกาศวาระประชาชนร่วมกันระหว่างประชาชนกับพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด
มติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับประกาศ คปค. ฉบับที่ ๑๕ และ ๒๗ ที่ให้พรรคการเมืองดำเนินกิจการได้ ถือเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งในการฟื้นฟูประชาธิปไตย
แต่ก้าวต่อไปของพรรคการเมืองจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน
พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะก้าวเดินไปกับประชาชนในทิศทางที่ถูกต้องสู่อนาคตใหม่ของลูกหลานไทยร่วมกัน
------------------------------------------
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 6 มิ.ย. 2550--จบ--
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ ๑๕ และ ๒๗
ให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
๑. ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นับตั้งแต่มีการยึดอำนาจ และมีประกาศของคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ ๑๕และ ๒๗ ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ได้ติดตามสถานการณ์ของประเทศด้วยความห่วงใย เพราะทราบว่าปัญหาต่างๆของประชาชน ยังคงมีอยู่ตลอดเวลา และบางปัญหา นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น พรรคจึงได้ติดตามปัญหาต่างๆ อย่างใกล้ชิด ศึกษาข้อมูลอยู่ตลอดเวลา ทั้งมีการพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนกับประชาชน ผู้รู้ นักวิชาการและผู้ประกอบการ ทำให้พรรคฯ มีแนวทางในการกำหนดนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศต่อไป โดยสภาพปัญหาหลักๆ ที่ประชาชนเผชิญอยู่ในขณะนี้คือ
ปัญหาความยากจนและปัญหาเศรษฐกิจ
ปัญหาความไม่สงบใน จังหวัดชายแดนภาคใต้
ปัญหาความแตกแยกในบ้านเมือง
ปัญหาความยากจนยังคงเป็นปัญหาหลัก ของประชาชน ทั้งปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ปัญหาหนี้สิน ที่ดินทำกิน ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวมซึ่งเหลือเพียงการส่งออกเป็นตัวประคับประคองเท่านั้น ได้ซ้ำเติมปัญหาความยากจนให้รุนแรงมากขึ้น
ปัญหาความไม่สงบใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ ความแตกแยกของทัศนคติและความคิด ทำให้มีความไม่ยอมรับในความหลากหลายมีมากขึ้นจนวิกฤต
ในขณะเดียวกัน ความร้าวลึกของความแตกแยกทางความคิดของคนในสังคมบานปลาย เป็นการต่อต้าน มีความเคลื่อนไหวจนเสียหายต่อสถาบันหลักของประเทศและกระบวนการยุติธรรม จนส่งผลกระทบต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหาต่างๆ
ปัญหาทั้ง ๓ ข้อ ดังกล่าว ทำให้ดัชนีความสุขของคนไทยลดลง ซึ่งชี้ให้เห็นว่า คุณภาพชีวิตของคนไทยแย่ลง ในขณะที่ปัญหาหลักๆ ยังคงดำรงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม การคอร์รัปชั่น เป็นต้น
ภาพของปัญหาในวันนี้ คือ โจทย์ใหญ่ ที่พรรคประชาธิปัตย์ ขอเชิญชวนประชาชนมาร่วมกัน แก้ไข เพื่ออนาคตใหม่ของประเทศไทย
๒. ความตั้งใจของพรรคประชาธิปัตย์ในการสร้างอนาคตใหม่ของประเทศไทย ก็คือ
๒.๑ สังคมที่สันติสุข ผู้คนสมัครสมานสามัคคี รู้จักที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างในด้านเชื้อชาติ ศาสนาและความคิดทางการเมืองโดยใช้กระบวนการทางประชาธิปไตย สันติวิธีและการบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาดเสมอภาค
พรรคประชาธิปัตย์นมั่นใจในแนวทางที่พรรคได้เคยนำเสนอไว้ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ได้ ความร่วมมือจากทุก ๆ ฝ่ายเป็นหัวใจสำคัญ และการมีผู้รับผิดชอบโดยตรงที่สามารถทุ่มเทเวลาให้กับปัญหาในพื้นที่อย่างจริงจัง รวมทั้งการที่พรรคได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องภาคใต้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด จะเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้ได้เข้าใจถึงปัญหาอย่างแท้จริง และสามารถนำมาแก้ไขให้เกิดความสันติสุขในจังหวัดภาคใต้ได้ในที่สุด
๒.๒ เศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
? เศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
การทำธุรกิจของภาคเอกชนเติบโต การจ้างงานเพิ่มขึ้น ประชาชนมีงานทำ มีรายได้ พึ่งพาตัวเองได้ ใช้หนี้ได้ด้วยตนเอง
ภาคเอกชนจึงเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์จะสนับสนุนภาคเอกชน ด้วยการขจัดอุปสรรคทุกชนิดในระบบของราชการ วางกติกาและกำกับ การแข่งขันที่เสรีเป็นธรรม ทั้งในประเทศ และในตลาดโลกรวมทั้งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
? จัดความสำคัญในการใช้เงินภาษีให้เกิดความเป็นธรรมกับพี่น้องคนไทยทุกภาคของประเทศ การใช้จ่ายเงินงบประมาณโดยโปร่งใส เป็นนโยบายที่สำคัญที่สุด ต้องคำนึงอยู่ตลอดเวลาว่า รายได้ทุกบาททุกสตางค์มาจากหยาดเหงื่อของประชาชน ไม่ใช่เงินของรัฐบาล
? เกษตรกรดำรงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่อดอยาก ขายผลผลิตได้ราคา และตั้งตัวได้ หลุดพ้นจากการเป็นหนี้ สามารถส่งออกและร่ำรวยได้
เกษตรกรที่ตั้งใจเพาะปลูกต้องไม่เป็นหนี้เพราะภัยธรรมชาติ รัฐต้องประกันต้นทุนของเกษตรกรให้เริ่มต้นใหม่ได้โดยไม่เป็นหนี้
พรรคจะผลัดดันการเพิ่มผลผลิตอย่างจริงจัง ต้องมีการใช้เมล็ดพันธ์ กล้าพันธ์ที่มีคุณภาพสูง มีน้ำเพียงพอดูแลแปลงผลิตอย่างถูกต้องและชะลอการขายได้ เพื่อสร้างอำนาจต่อรองด้านการตลาด
ทั้งนี้ การดำเนินการทั้งหมดจะอยู่ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
๒.๓ คนไทยฉลาด แข็งแรง มีหลักประกันสวัสดิการทุกคน พรรคประชาธิปัตย์จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพอย่างเป็นระบบ จริงจัง และยั่งยืน คนไทยทุกคนจะมีหลักประกัน ในเรื่องการรักษาพยาบาล การศึกษา คนชรามีเบี้ยเลี้ยง เบี้ยยังชีพ หรือบำเหน็จบำนาญ โดยสร้างระบบสวัสดิการที่เป็นสิทธิ ไม่ขึ้นกับว่า ใครจะมาเป็นรัฐบาล หรือใครจะเป็นนายกฯ
ระบบการศึกษาจะไม่เป็นรองใคร “เด็กไทยเก่งได้ทุกคน” บนพื้นฐานของคุณธรรม จริยธรรม พร้อมกับพัฒนาสมองเด็กไทยทุกคน โดยเฉพาะตั้งแต่อยู่ในท้องแม่จนถึงอายุ ๖ ขวบ ปูพื้นฐานการจัดการเรียนการสอนในวิชาหลัก คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ให้สอดคล้องกับอายุและการพัฒนาสมอง
๒.๔ มีธรรมาภิบาลในทุกระดับ ทั้งตัวบุคคล องค์กร ภาคราชการ ภาคเอกชน เพื่อมิให้สังคมเสื่อมไปมากกว่านี้ ประชาชนต้องเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร สื่อสาธารณะ โดยปราศจากการปิดกั้น เพื่อให้คนในสังคมรู้ทุกด้านอย่างเท่าเทียม ไม่ถูกครอบงำ ทรัพยากรที่เคยสูญเสียจากการคอร์รัปชั่นต้องกลับคืนสู่ประชาชน
การสร้างอนาคตใหม่จะเน้นความยั่งยืนในทุกๆ ด้าน รวมทั้งด้านการให้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นอนาคตที่ทุกคนมีโอกาสได้ประโยชน์อย่างทั่วถึง
ประเทศต้องการการแก้ไขปัญหา ด้วยความเข้าใจสภาพพื้นฐานของปัญหา มีข้อมูลตัวเลข ผ่านกระบวนการรับรู้ กำหนดแนวทางร่วมกับประชาชน ไม่ผูกขาด รวมศูนย์การตัดสินใจ โดยไม่ฟังเสียงของประชาชน
นโยบายใดๆ ที่เกิดขึ้น โดยการกำหนดร่วมกันแล้ว ต้องได้รับการปฏิบัติที่ฉับไว กล้าตัดสินใจ โดยคนที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม แต่ถือประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่
๓. จากวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะผลักดันอนาคตใหม่ ประเด็นสำคัญก็คือจะทำอย่างไรให้แนวคิดและความตั้งใจในการแก้ไขของประเทศและประชาชน เป็น วาระร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนร่วมสนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหาของประชาชน และของประเทศ ดังกล่าว
พรรคยังคงยืนยันแนวทางในการเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม ทุกปัญหาเพราะผมและพรรคประชาธิปัตย์ตระหนักดีว่า เฉพาะพรรคฯ คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาทุกปัญหาให้ลุล่วงไปได้โดยลำพัง แต่ต้องได้รับความร่วมมือสนับสนุนจากประชาชน ดังนั้น ผมและพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางเพื่อไปพบกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เพื่ออธิบายวิธีการแก้ไขปัญหาและขอความร่วมมือเพื่อสร้างพลังร่วมในการแก้ไขปัญหา
พรรคยังคงเชื่อมั่นในแนวทางการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วม สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหาเฉพาะพื้นที่ เฉพาะภาค พรรคฯเห็นว่า ต้องมีการกำหนด นโยบายเฉพาะพื้นที่ เพื่อให้มีการตอบสนองความหลากหลาย และความต้องการเฉพาะพื้นที่ ของประชาชนได้อย่างตรงจุด เช่น การจัดระบบการค้าชายแดน การสร้างฐานการผลิตเฉพาะถิ่น ปัญหาการค้าชายแดน ในภาคอีสาน ก็จะจัดให้มีแผนเฉพาะการค้าชายแดน เป็นต้น นโยบายเฉพาะพื้นที่นี้ จะเป็นพิเศษแตกต่างจากนโยบายภาพรวม ซึ่งจะเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม แต่จะมีความเชื่อมโยงในด้านแนวคิดและหลักการร่วมกัน
ผมจึงได้ประกาศวาระประชาชนร่วมกันระหว่างประชาชนกับพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด
มติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับประกาศ คปค. ฉบับที่ ๑๕ และ ๒๗ ที่ให้พรรคการเมืองดำเนินกิจการได้ ถือเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งในการฟื้นฟูประชาธิปไตย
แต่ก้าวต่อไปของพรรคการเมืองจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน
พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะก้าวเดินไปกับประชาชนในทิศทางที่ถูกต้องสู่อนาคตใหม่ของลูกหลานไทยร่วมกัน
------------------------------------------
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 6 มิ.ย. 2550--จบ--