การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน ครั้งที่ 11 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
(11th ASEAN Finance Ministers’ Meeting (AFMM) and other related meetings)
นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 4-5 เมษายน 2550 กระทรวงการคลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน ครั้งที่ 11 (11th AFMM) ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้เข้าร่วมประชุมจะประกอบไปด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน 10 ประเทศ เลขาธิการอาเซียน และประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย โดยก่อนหน้านี้จะมีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสจากกระทรวงการคลังและธนาคารกลางของอาเซียน และระหว่างอาเซียน กับจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี (อาเซียน+3) ระหว่างวันที่ 2-4 เมษายน 2550
การประชุม AFMM มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การเงินการคลังระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน การพัฒนาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจการเงิน การคลัง เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของระบบการเงินการคลัง ตลอดจนส่งเสริมการรวมตัวของตลาดเงินและตลาดทุนในภูมิภาคอาเซียนอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงการคลังได้เปิดเผยถึงประเด็นสำคัญของการประชุม AFMM ครั้งที่ 11 นี้ว่า ที่ประชุมจะมีการหารือเกี่ยวกับการดำเนินงานตาม Roadmap for Monetary and Financial Integration 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการพัฒนาตลาดทุน การเปิดเสรีบริการด้านการเงิน การเปิดเสรีบัญชีทุน และความร่วมมือด้านเงินตราในอาเซียน เพื่อให้สอดคล้องและสนับสนุนกับเป้าหมายการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ที่ผู้นำอาเซียนได้ ตกลงที่จะเร่งรัดเป้าหมายการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้เร็วขึ้นจากเดิมในปี ค.ศ. 2020 เป็น ค.ศ. 2015
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังจะมีการหารือเพื่อหาช่องทางในการนำเงินออมที่มีอยู่สูงในภูมิภาคอาเซียนมาก่อให้เกิดประโยชน์ภายในภูมิภาคอาเซียน แทนที่จะออกไปลงทุนนอกภูมิภาคเช่นที่ผ่านมา โดยอาจหาช่องทางนำเงินออมดังกล่าวมาลงทุนเพื่อปรับปรุงโครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในภูมิภาค อาเซียน
ในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน+3 (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) ซึ่งประเทศไทยจะเป็นประธานร่วมกับสาธารณรัฐประชาชนจีน จะมีการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินความร่วมมือตามมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ (Chiang Mai Initiative: CMI) ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือในระดับพหุภาคีต่อไป เพื่อเป็นกลไกในการเสริมสภาพคล่องทางการเงินระยะสั้นระหว่างกัน นอกจากนี้ จะมีการหารือเรื่องการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bond Market) ซึ่งภายหลังการริเริ่มมาตรการดังกล่าว มีผลทำให้ปริมาณของพันธบัตรในภูมิภาคเอเชียได้เพิ่มมากขึ้น
การประชุมดังกล่าวจะมีขึ้น ณ โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยในวันที่ 2 เมษายน 2550 จะเป็นการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน มีปลัดกระทรวงการคลังของไทยเป็นประธานในการประชุม ส่วนในวันที่ 3-4 เมษายน 2550 เป็นการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน+3 (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) ซึ่งประเทศไทยจะเป็นประธานร่วมกับสาธารณรัฐประชาชนจีน และในวันที่ 5 เมษายน 2550 จะเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไทยเป็นประธานในการประชุม
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 21/2550 26 มีนาคม 50--
(11th ASEAN Finance Ministers’ Meeting (AFMM) and other related meetings)
นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 4-5 เมษายน 2550 กระทรวงการคลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน ครั้งที่ 11 (11th AFMM) ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้เข้าร่วมประชุมจะประกอบไปด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน 10 ประเทศ เลขาธิการอาเซียน และประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย โดยก่อนหน้านี้จะมีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสจากกระทรวงการคลังและธนาคารกลางของอาเซียน และระหว่างอาเซียน กับจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี (อาเซียน+3) ระหว่างวันที่ 2-4 เมษายน 2550
การประชุม AFMM มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การเงินการคลังระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน การพัฒนาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจการเงิน การคลัง เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของระบบการเงินการคลัง ตลอดจนส่งเสริมการรวมตัวของตลาดเงินและตลาดทุนในภูมิภาคอาเซียนอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงการคลังได้เปิดเผยถึงประเด็นสำคัญของการประชุม AFMM ครั้งที่ 11 นี้ว่า ที่ประชุมจะมีการหารือเกี่ยวกับการดำเนินงานตาม Roadmap for Monetary and Financial Integration 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการพัฒนาตลาดทุน การเปิดเสรีบริการด้านการเงิน การเปิดเสรีบัญชีทุน และความร่วมมือด้านเงินตราในอาเซียน เพื่อให้สอดคล้องและสนับสนุนกับเป้าหมายการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ที่ผู้นำอาเซียนได้ ตกลงที่จะเร่งรัดเป้าหมายการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้เร็วขึ้นจากเดิมในปี ค.ศ. 2020 เป็น ค.ศ. 2015
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังจะมีการหารือเพื่อหาช่องทางในการนำเงินออมที่มีอยู่สูงในภูมิภาคอาเซียนมาก่อให้เกิดประโยชน์ภายในภูมิภาคอาเซียน แทนที่จะออกไปลงทุนนอกภูมิภาคเช่นที่ผ่านมา โดยอาจหาช่องทางนำเงินออมดังกล่าวมาลงทุนเพื่อปรับปรุงโครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในภูมิภาค อาเซียน
ในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน+3 (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) ซึ่งประเทศไทยจะเป็นประธานร่วมกับสาธารณรัฐประชาชนจีน จะมีการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินความร่วมมือตามมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ (Chiang Mai Initiative: CMI) ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือในระดับพหุภาคีต่อไป เพื่อเป็นกลไกในการเสริมสภาพคล่องทางการเงินระยะสั้นระหว่างกัน นอกจากนี้ จะมีการหารือเรื่องการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bond Market) ซึ่งภายหลังการริเริ่มมาตรการดังกล่าว มีผลทำให้ปริมาณของพันธบัตรในภูมิภาคเอเชียได้เพิ่มมากขึ้น
การประชุมดังกล่าวจะมีขึ้น ณ โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยในวันที่ 2 เมษายน 2550 จะเป็นการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน มีปลัดกระทรวงการคลังของไทยเป็นประธานในการประชุม ส่วนในวันที่ 3-4 เมษายน 2550 เป็นการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน+3 (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) ซึ่งประเทศไทยจะเป็นประธานร่วมกับสาธารณรัฐประชาชนจีน และในวันที่ 5 เมษายน 2550 จะเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไทยเป็นประธานในการประชุม
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 21/2550 26 มีนาคม 50--