วันนี้ (26 ม.ค. 50) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณี ที่คณะกรรมการเลือกตั้งเข้าพบนายกรัฐมนตรี แล้ว แสดงความพร้อมในการจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปเร็วสุดภายในเดือนกันยายน 2550 นั้น เห็นว่าเป็นการแสดงความจริงใจของฝ่ายต่าง ๆ ที่จะร่วมแก้ปัญหาการเมืองของ ประเทศที่อึ้มครึมอยู่ในขณะนี้ เพราะถ้าหากให้มีการเลือกตั้งเร็วขึ้นมากเท่า ไหร่สถานการณ์บ้านเมืองก็จะคลี่คลายลงเร็วไปด้วย
เมื่อฝ่ายจัดการเลือกตั้งแสดง ความพร้อมที่จะมีการเลือกตั้งแล้วอยากจะให้ฝ่ายกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญซึ่ง จะต้องเร่งรัดยกร่างฯให้เสร็จสิ้นโดยเร็วเช่นกันเพื่อให้สอดคล้องกับความพร้อม ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง แต่เชื่อว่าคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญสามารถที่ จะทำเสร็จตามกรอบเวลาได้เพราะประธานคณะกรรมาธิการ ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะ ยกร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยกำหนดให้มีการประชุมอาทิตย์ละ 3-4 วัน ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของ น.ต. ประสงค์ สุ่นศิริ ประธาน คณะกรรมาธิการยกร่าง นั้น เห็นว่าเป็นการไม่ยุติธรรมสำหรับตัว น.ต.ประสงค์ สุ่น ศิริ ทุกคนควรจะเคารพในดุลยพินิจของคณะกรรมาธิการที่โหวตเลือก น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และการที่สมาชิกพรรค ไทยรักไทยได้กล่าวเสียดสีว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะเป็นฉบับปีศาจคาบไป ป์ ร่างรัฐธรรมนูญ 18 มงกุฎ และประชาชนจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญในชั้นการลง ประชามติโดยอัตโนมัติ เป็นการแสดงท่าทีของสมาชิกพรรคไทยรักไทย ที่มีเป้าหมายจะ ปลุกระดมให้ประชาชนคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ หากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีความเป็น ประชาธิปไตยมากกว่ารัฐธรรมนูญฉบับเก่ามากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะทำให้กลุ่มอำนาจเก่า เสียประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น จึงอยากให้จับตามองการเคลื่อนไหวของกลุ่มอำนาจ เก่าที่จะใช้เงื่อนไขการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญในการที่จะสร้างความวุ่นวาย ให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่ง ตัว น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ นั้น ก็เป็นบุคคลที่เหมาะสมในการทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการยกร่าง เพราะเป็น ผู้อาวุโส มีประสบการณ์ทางด้านการเมือง การบริหาร ทั้งภาครัฐและเอกชนมาอย่าง โชกโชน เป็นผู้ที่เข้าใจระบบการเมืองของไทยดีที่สุดคนหนึ่ง ก็น่าที่จะผลักดัน ให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมืองและความต้องการของประชาชน มากที่สุด แต่ที่สมาชิกพรรคไทยรักไทยเรียงหน้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์ อาจจะเป็น เพราะตัว น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นศัตรูกับกลุ่มอำนาจเก่า และเป็นผู้รู้ทัน ระบอบทักษิณดีที่สุดคนหนึ่ง การที่จะกล่าวหาว่า น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นร่าง ทรงของ คมช.หรือไม่ และเป็นการชดเชยตำแหน่งให้ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ที่พลาด โอกาสในตำแหน่งสำคัญ ๆ มาหลายครั้งว่าไม่ควรที่จะติเรือทั้งโกรน เห็นว่าน่าจะ ให้โอกาส น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ทำงานพิสูจน์ฝีมือเสียก่อน น.ต.ประสงค์ สุ่น ศิริ จะเป็นใครไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ว่าสามารถร่างรัฐธรรมนูญให้เป็น ประชาธิปไตยและถูกใจของประชาชนทั้งประเทศได้หรือ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 26 ม.ค. 2550--จบ--
เมื่อฝ่ายจัดการเลือกตั้งแสดง ความพร้อมที่จะมีการเลือกตั้งแล้วอยากจะให้ฝ่ายกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญซึ่ง จะต้องเร่งรัดยกร่างฯให้เสร็จสิ้นโดยเร็วเช่นกันเพื่อให้สอดคล้องกับความพร้อม ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง แต่เชื่อว่าคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญสามารถที่ จะทำเสร็จตามกรอบเวลาได้เพราะประธานคณะกรรมาธิการ ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะ ยกร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยกำหนดให้มีการประชุมอาทิตย์ละ 3-4 วัน ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของ น.ต. ประสงค์ สุ่นศิริ ประธาน คณะกรรมาธิการยกร่าง นั้น เห็นว่าเป็นการไม่ยุติธรรมสำหรับตัว น.ต.ประสงค์ สุ่น ศิริ ทุกคนควรจะเคารพในดุลยพินิจของคณะกรรมาธิการที่โหวตเลือก น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และการที่สมาชิกพรรค ไทยรักไทยได้กล่าวเสียดสีว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะเป็นฉบับปีศาจคาบไป ป์ ร่างรัฐธรรมนูญ 18 มงกุฎ และประชาชนจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญในชั้นการลง ประชามติโดยอัตโนมัติ เป็นการแสดงท่าทีของสมาชิกพรรคไทยรักไทย ที่มีเป้าหมายจะ ปลุกระดมให้ประชาชนคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ หากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีความเป็น ประชาธิปไตยมากกว่ารัฐธรรมนูญฉบับเก่ามากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะทำให้กลุ่มอำนาจเก่า เสียประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น จึงอยากให้จับตามองการเคลื่อนไหวของกลุ่มอำนาจ เก่าที่จะใช้เงื่อนไขการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญในการที่จะสร้างความวุ่นวาย ให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่ง ตัว น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ นั้น ก็เป็นบุคคลที่เหมาะสมในการทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการยกร่าง เพราะเป็น ผู้อาวุโส มีประสบการณ์ทางด้านการเมือง การบริหาร ทั้งภาครัฐและเอกชนมาอย่าง โชกโชน เป็นผู้ที่เข้าใจระบบการเมืองของไทยดีที่สุดคนหนึ่ง ก็น่าที่จะผลักดัน ให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมืองและความต้องการของประชาชน มากที่สุด แต่ที่สมาชิกพรรคไทยรักไทยเรียงหน้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์ อาจจะเป็น เพราะตัว น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นศัตรูกับกลุ่มอำนาจเก่า และเป็นผู้รู้ทัน ระบอบทักษิณดีที่สุดคนหนึ่ง การที่จะกล่าวหาว่า น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นร่าง ทรงของ คมช.หรือไม่ และเป็นการชดเชยตำแหน่งให้ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ที่พลาด โอกาสในตำแหน่งสำคัญ ๆ มาหลายครั้งว่าไม่ควรที่จะติเรือทั้งโกรน เห็นว่าน่าจะ ให้โอกาส น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ทำงานพิสูจน์ฝีมือเสียก่อน น.ต.ประสงค์ สุ่น ศิริ จะเป็นใครไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ว่าสามารถร่างรัฐธรรมนูญให้เป็น ประชาธิปไตยและถูกใจของประชาชนทั้งประเทศได้หรือ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 26 ม.ค. 2550--จบ--