กรณีนายสมัคร สุนทรเวช สมาชิกลุ่มพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์กล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการสนับสนุนจากคมช. ไม่ตำหนิการรัฐประหาร รวมทั้งการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณียุบพรรคเป็นการเอื้อเฟื้อต่อพรรคประชาธิปัตย์นั้น
นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า การให้สัมภาษณ์ของนายสมัครในประเด็นดังกล่าวเป็นการใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ และจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง พรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 พรรคฯได้แสดงจุดยืนต่อสาธารณชนอย่างชัดเจนและต่อเนื่องว่า ไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติรัฐประหาร แต่เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองนับจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นต้นมาเต็มไปด้วยความแตกแยกทางความคิดอย่างรุนแรง พรรคฯจึงไม่มีแนวคิดที่จะสร้างปัญหาเพิ่มเติมให้กับบ้านเมืองด้วยการสร้างความวุ่นวาย แต่จะประคับประคองให้บ้านเมืองกลับไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยโดยเร็วด้วยความราบรื่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งแกนนำคนสำคัญของพรรคได้แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ด้วยการพยายามเสนอแนะแนวทางการคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมืองให้กลับสู่ภาวะปกติตลอดมา
นายอภิชาตกล่าวว่า ตลอดเวลาพรรคประชาธิปัตย์ดำเนินกิจกรรมอย่างอิสระภายใต้กรอบอุดมการณ์และนโยบายของพรรค ไม่ได้ถูกครอบงำหรือตกอยู่ภายใต้การบงการของผู้มีอำนาจทางการเมืองใดๆไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล คมช. หรือองค์กรอื่นใด นอกจากนี้พรรคฯก็ไม่ได้รับการสนับสนุนจากคมช.อย่างที่มีการพยายามโยงใยอย่างเป็นขบวนการตลอดมา ส่วนกรณีคดียุบพรรคเป็นการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ที่พรรคประชาธิปัตย์เองถูกใส่ร้ายป้ายสีจากสมาชิกและแกนนำพรรคไทยรักไทยจนถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ชุดก่อนนำเรื่องร้องต่ออัยการสูงสุดและส่งฟ้องยังศาลรัฐธรรมนูญ แต่ในที่สุดพรรคฯก็ได้ดำเนินการแก้ต่างข้อกล่าวหาตามกระบวนการจนคณะตุลาการรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ให้พรรคประชาธิปัตย์พ้นความผิดจากข้อกล่าวหา ซึ่งพี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้รับทราบอย่างกระจ่างชัดอยู่แล้ว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังคงยืนยันแนวทางการเมืองที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักสำคัญ หลังจากที่รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ผ่านความเห็นชอบของประชาชนทั้งประเทศแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมจะเข้าสู่กระบวนเลือกตั้งตามความมุ่งหวังของพี่น้องประชาชน ด้วยการนำเสนอนโยบายการแก้ไขปัญหาของประเทศอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง อีกทั้งจะร่วมมือกับทุกฝ่ายในการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ให้ปรากฏเป็นจริงโดยเร็ว โดยหวังว่าผู้ที่พยายามใส่ร้ายป้ายสีและบิดเบือนทางการเมืองต่อพรรคประชาธิปัตย์จะได้ยุติการกระทำดังกล่าว และหันไปตั้งใจทำงานการเมืองในแนวทางที่สร้างสรรค์ต่อไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 21 ส.ค. 2550--จบ--
นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า การให้สัมภาษณ์ของนายสมัครในประเด็นดังกล่าวเป็นการใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ และจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง พรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 พรรคฯได้แสดงจุดยืนต่อสาธารณชนอย่างชัดเจนและต่อเนื่องว่า ไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติรัฐประหาร แต่เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองนับจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นต้นมาเต็มไปด้วยความแตกแยกทางความคิดอย่างรุนแรง พรรคฯจึงไม่มีแนวคิดที่จะสร้างปัญหาเพิ่มเติมให้กับบ้านเมืองด้วยการสร้างความวุ่นวาย แต่จะประคับประคองให้บ้านเมืองกลับไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยโดยเร็วด้วยความราบรื่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งแกนนำคนสำคัญของพรรคได้แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ด้วยการพยายามเสนอแนะแนวทางการคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมืองให้กลับสู่ภาวะปกติตลอดมา
นายอภิชาตกล่าวว่า ตลอดเวลาพรรคประชาธิปัตย์ดำเนินกิจกรรมอย่างอิสระภายใต้กรอบอุดมการณ์และนโยบายของพรรค ไม่ได้ถูกครอบงำหรือตกอยู่ภายใต้การบงการของผู้มีอำนาจทางการเมืองใดๆไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล คมช. หรือองค์กรอื่นใด นอกจากนี้พรรคฯก็ไม่ได้รับการสนับสนุนจากคมช.อย่างที่มีการพยายามโยงใยอย่างเป็นขบวนการตลอดมา ส่วนกรณีคดียุบพรรคเป็นการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ที่พรรคประชาธิปัตย์เองถูกใส่ร้ายป้ายสีจากสมาชิกและแกนนำพรรคไทยรักไทยจนถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ชุดก่อนนำเรื่องร้องต่ออัยการสูงสุดและส่งฟ้องยังศาลรัฐธรรมนูญ แต่ในที่สุดพรรคฯก็ได้ดำเนินการแก้ต่างข้อกล่าวหาตามกระบวนการจนคณะตุลาการรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ให้พรรคประชาธิปัตย์พ้นความผิดจากข้อกล่าวหา ซึ่งพี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้รับทราบอย่างกระจ่างชัดอยู่แล้ว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังคงยืนยันแนวทางการเมืองที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักสำคัญ หลังจากที่รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ผ่านความเห็นชอบของประชาชนทั้งประเทศแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมจะเข้าสู่กระบวนเลือกตั้งตามความมุ่งหวังของพี่น้องประชาชน ด้วยการนำเสนอนโยบายการแก้ไขปัญหาของประเทศอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง อีกทั้งจะร่วมมือกับทุกฝ่ายในการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ให้ปรากฏเป็นจริงโดยเร็ว โดยหวังว่าผู้ที่พยายามใส่ร้ายป้ายสีและบิดเบือนทางการเมืองต่อพรรคประชาธิปัตย์จะได้ยุติการกระทำดังกล่าว และหันไปตั้งใจทำงานการเมืองในแนวทางที่สร้างสรรค์ต่อไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 21 ส.ค. 2550--จบ--