เวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น วันที่ 30 ส.ค. 50 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และคณะ เดินทางเข้าพบนาย TENG KAIZHON รัฐมนตรีช่วยกระทรวงทางรถไฟของรัฐบาล จากนั้นไปเยี่ยมชมสนามกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศจีนจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 2008 นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้พบกับรัฐมนตรีช่วยกระทรวงทางรถไฟครั้งนี้ ถือว่าจีนมีประสบการณ์ในด้านเทคโนโลยีในเรื่องรถไฟมานาน ปัจจุบันจีนก่อสร้างรถไฟในประเทศปีละ 3,000 กิโลเมตร ซึ่งตนได้หยิบยกประเด็นที่เราเชื่อว่าการลงทุนระบบรางของเราในช่วง 4-5 ปีข้างหน้าคงจะมีมาก ซึ่งพรรคมีแนวคิดเรื่องระบบราง โดยเฉพาะรถไฟรางคู่หรือบางพื้นที่อาจมีรถไฟความเร็วสูงด้วย จึงสอบถามกันเพราะบริษัทหรือรัฐวิสาหกิจของจีนจะได้เข้าไปลงทุนในไทย ซึ่งกระทรวงทางรถไฟของจีนบอกว่ายินดีแลกเปลี่ยนและให้ความร่วมมือเพราะเขาคุ้นเคยและมีโอกาสทำงานกับต่างประเทศ เข้าใจการแข่งขันในสากลเป็นอย่างดี
เมื่อถามว่าถือเป็นการปูทางสำหรับอนาคตหากพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าเป็นโอกาสของทั้งสองประเทศเพราะถ้าจีนได้เข้ามาในประเทศไทยจริงๆก็มีเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้อยู่แล้วเรื่องการลงทุนระหว่างกัน หรือในแง่ความเชื่อมโยงกันต่อไปในอนาคต ทางจีนมองในเรื่องการเพิ่มการท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าต่างๆ คิดว่านี่เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับประเทศ
เมื่อถามว่าการไปเยือนประเทศจีนได้อะไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทำให้เกิดความมั่นใจในเรื่องการกระชับความสัมพันธ์ เพราะเราทราบดีว่าบทบาทของจีนมีทั้งในภูมิภาคและในโลก โดยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาศัยความสัมพันธ์ที่ดีของเรากับจีนนับตั้งแต่เปิดการสัมพันธ์ทางการทูตมา 32 ปี ทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่น เพราะคนจีนกับคนไทยเหมือนพี่น้องกัน ตรงนี้จึงเป็นความมั่นใจและจีนให้ความสำคัที่ไทยจะเร่งเดินหน้าเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ทุกด้าน หากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล มั่นใจว่าในการทำความคุ้นเคยที่เรามาครั้งนี้ ระหว่างพรรคต่อพรรค และบุคคลสำคัญในรัฐบาลที่เปิดโอกาสให้เราได้พูดคุย
เมื่อถามว่ามีกระแสวิจารณ์ว่าการเดินสายต่างประเทศของนายอภิสิทธิ์ เป็นการปูทางเพื่อเป็นรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนถือว่าสิ่งที่ทำก็ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศ ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อแสดงความคิดเห็นในเวทีการประชุมระหว่างประเทศ เช่น ที่เวียดนาม เพื่อให้เกิดความมั่นใจในประเทศไทยในทิศทางต่างๆ ขณะเดียวกัน ความคุ้นเคยที่เราสร้างขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้านหรือมิตรประเทศสำคัจะช่วยให้การทำงานในอนาคตง่ายขึ้น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 ส.ค. 2550--จบ--
เมื่อถามว่าถือเป็นการปูทางสำหรับอนาคตหากพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าเป็นโอกาสของทั้งสองประเทศเพราะถ้าจีนได้เข้ามาในประเทศไทยจริงๆก็มีเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้อยู่แล้วเรื่องการลงทุนระหว่างกัน หรือในแง่ความเชื่อมโยงกันต่อไปในอนาคต ทางจีนมองในเรื่องการเพิ่มการท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าต่างๆ คิดว่านี่เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับประเทศ
เมื่อถามว่าการไปเยือนประเทศจีนได้อะไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทำให้เกิดความมั่นใจในเรื่องการกระชับความสัมพันธ์ เพราะเราทราบดีว่าบทบาทของจีนมีทั้งในภูมิภาคและในโลก โดยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาศัยความสัมพันธ์ที่ดีของเรากับจีนนับตั้งแต่เปิดการสัมพันธ์ทางการทูตมา 32 ปี ทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่น เพราะคนจีนกับคนไทยเหมือนพี่น้องกัน ตรงนี้จึงเป็นความมั่นใจและจีนให้ความสำคัที่ไทยจะเร่งเดินหน้าเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ทุกด้าน หากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล มั่นใจว่าในการทำความคุ้นเคยที่เรามาครั้งนี้ ระหว่างพรรคต่อพรรค และบุคคลสำคัญในรัฐบาลที่เปิดโอกาสให้เราได้พูดคุย
เมื่อถามว่ามีกระแสวิจารณ์ว่าการเดินสายต่างประเทศของนายอภิสิทธิ์ เป็นการปูทางเพื่อเป็นรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนถือว่าสิ่งที่ทำก็ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศ ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อแสดงความคิดเห็นในเวทีการประชุมระหว่างประเทศ เช่น ที่เวียดนาม เพื่อให้เกิดความมั่นใจในประเทศไทยในทิศทางต่างๆ ขณะเดียวกัน ความคุ้นเคยที่เราสร้างขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้านหรือมิตรประเทศสำคัจะช่วยให้การทำงานในอนาคตง่ายขึ้น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 ส.ค. 2550--จบ--