ทั้งนี้ ทางกระทรวงพาณิชย์มีมาตรการต่าง ๆ ที่จะพยายามผลักดันเพื่อให้การส่งออกขยายตัวได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่สุด โดยจะทบทวนมาตรการต่าง ๆ ทุก 3 เดือน และ 6 เดือน ซึ่งการจะทำให้การส่งออกเป็นไปตามเป้าหมายจะต้องใช้ความพยายามหลายอย่าง โดยจะดำรงมาตรการเจรจาการค้า ลดอุปสรรคการส่งออก ผลักดันการเปิดตลาดให้มากขึ้น เช่น กรณีญี่ปุ่นได้เจรจาทางการค้าเสรีจนสรุปไปแล้วจะให้เกิดผลเป็นรูปธรรม การให้ประชาชนและสภานิติบัตติแห่งชาติมีส่วนร่วม การส่งออกตลาดเป็นพิเศษเฉพาะตลาดที่มีศักยภาพ อาทิ จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง เพื่อเจาะพื้นที่กลุ่มเป้าหมาย ส่งเสริมธุรกิจบริการซึ่งได้ผลักดันมาแล้ว 4-5 ปี ทั้งบริการรักษาพยาบาล ร้านอาหาร การตกแต่งภายใน ขณะเดียวกันจะเพิ่มปริมาณผู้ส่งออก โดยให้มีผู้ส่งออกมากขึ้นและมีความเป็นสากล เข้าใจการส่งออก การประกอบธุรกิจระหว่างประเทศและออกไปลงทุนยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ส่งเสริมการลดต้นทุนลอจิสติกส์ ปรับปรุงการใช้ไฟฟ้าให้ลดลง
การลงทุน
การลงทุนที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในปี 2549 คาดว่าจะมีมูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุนประมาณ 500,000 ล้านบาท ลดลงจากในปี 2548 ซึ่งมีมูลค่าการลงทุน 673,800 ล้านบาท
2546 2547 2548 2549*
มูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุน(ล้านบาท) 304,700 637,200 673,800 500,000
* หมายเหตุ : ข้อมูลปี 2549 เป็นตัวเลขการคาดการณ์
เมื่อพิจารณาในหมวดของการเข้ามาลงทุน พบว่าในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2549 ประเภทกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดคือ หมวดเคมี กระดาษและพลาสติก มีเงินลงทุน 133,900 ล้านบาท รองลงมา คือ หมวดอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มีเงินลงทุน 48,900 ล้านบาท หมวดบริการ 48,800 ล้านบาท หมวดผลิตภัณฑ์โลหะและอุปกรณ์ มีเงินลงทุน 37,500 ล้านบาท หมวดเกษตรกรรมและผลิตผลการเกษตร มีเงินลงทุน 24,100 ล้านบาท หมวดอุตสาหกรรมเบาและสิ่งทอ 9,600 ล้านบาท และเหมืองแร่ เซรามิกส์ และโลหะ 3,000 ล้านบาท
อุตสาหกรรม 2549 (ม.ค.-พ.ย.)
จำนวนโครงการ มูลค่าการลงทุน (ล้านบาท)
เกษตรกรรมและผลิตผลการเกษตร 147 24,100
เหมืองแร่ เซรามิกส์ และโลหะ 29 3,000
อุตสาหกรรมเบาและสิ่งทอ 91 9,600
ผลิตภัณฑ์โลหะและอุปกรณ์ 224 37,500
อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า 200 48,900
เคมี กระดาษและพลาสติก 110 133,900
บริการ 253 48,800
รวม 1,054 305,800
สำหรับแหล่งลงทุนในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2549 พบว่านักลงทุนจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีการลงทุนมากที่สุดโดยได้รับการส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 38 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 69,957 ล้านบาท รองลงมาคือ ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 278 โครงการ 66,066 ล้านบาท สิงคโปร์ 50 โครงการ เป็นเงินลงทุน 13,637 ล้านบาท และฮ่องกง 15 โครงการ เป็นเงินลงทุน 9,767 ล้านบาท
ตารางที่ 17 : การลงทุนจากต่างประเทศในกิจการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน BOI จำแนกตามกลุ่มประเทศ
(ล้านบาท)
ประเทศ 2548 2548(ม.ค.-ต.ค.) 2549(ม.ค.-ต.ค.)
จำนวน การลงทุน จำนวน การลงทุน จำนวน การลงทุน
โครงการ โครงการ โครงการ
ญี่ปุ่น 354 171,796 296 150,074 278 66,066
ไต้หวัน 57 16,456 47 7,092 49 9,534
ฮ่องกง 18 2,222 12 941 15 9,767
เกาหลีใต้ 31 1,485 22 1,126 21 3,910
สิงคโปร์ 69 14,422 56 11,418 50 13,637
มาเลเซีย 36 20,406 34 6,052 29 4,792
อินโดนีเซีย 1 1,023 1 1,023 5 587
ฟิลิปปินส์ 1 150 1 150 1 67
จีน 15 2,286 12 1,999 14 2,377
สหรัฐอเมริกา 48 8,689 34 7,285 38 69,957
แคนาดา 6 6,036 4 5,630 2 45
ออสเตรเลีย 13 1,210 12 967 12 480
สหราชอาณาจักร 26 4,703 16 2,217 16 1,031
เยอรมัน 19 7,022 17 6,691 13 719
สวิสเซอร์แลนด์ 20 15,102 13 13,503 8 4,691
ฝรั่งเศส 14 410 13 406 9 412
เบลเยียม 7 127 6 122 2 137
อิตาลี 8 405 5 285 7 319
เนเธอร์แลนด์ 17 14,824 13 13,184 21 3,581
ที่มา : กองการต่างประเทศ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
หมายเหตุ : สัดส่วนการถือหุ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
การลงทุน
การลงทุนที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในปี 2549 คาดว่าจะมีมูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุนประมาณ 500,000 ล้านบาท ลดลงจากในปี 2548 ซึ่งมีมูลค่าการลงทุน 673,800 ล้านบาท
2546 2547 2548 2549*
มูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุน(ล้านบาท) 304,700 637,200 673,800 500,000
* หมายเหตุ : ข้อมูลปี 2549 เป็นตัวเลขการคาดการณ์
เมื่อพิจารณาในหมวดของการเข้ามาลงทุน พบว่าในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2549 ประเภทกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดคือ หมวดเคมี กระดาษและพลาสติก มีเงินลงทุน 133,900 ล้านบาท รองลงมา คือ หมวดอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มีเงินลงทุน 48,900 ล้านบาท หมวดบริการ 48,800 ล้านบาท หมวดผลิตภัณฑ์โลหะและอุปกรณ์ มีเงินลงทุน 37,500 ล้านบาท หมวดเกษตรกรรมและผลิตผลการเกษตร มีเงินลงทุน 24,100 ล้านบาท หมวดอุตสาหกรรมเบาและสิ่งทอ 9,600 ล้านบาท และเหมืองแร่ เซรามิกส์ และโลหะ 3,000 ล้านบาท
อุตสาหกรรม 2549 (ม.ค.-พ.ย.)
จำนวนโครงการ มูลค่าการลงทุน (ล้านบาท)
เกษตรกรรมและผลิตผลการเกษตร 147 24,100
เหมืองแร่ เซรามิกส์ และโลหะ 29 3,000
อุตสาหกรรมเบาและสิ่งทอ 91 9,600
ผลิตภัณฑ์โลหะและอุปกรณ์ 224 37,500
อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า 200 48,900
เคมี กระดาษและพลาสติก 110 133,900
บริการ 253 48,800
รวม 1,054 305,800
สำหรับแหล่งลงทุนในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2549 พบว่านักลงทุนจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีการลงทุนมากที่สุดโดยได้รับการส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 38 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 69,957 ล้านบาท รองลงมาคือ ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 278 โครงการ 66,066 ล้านบาท สิงคโปร์ 50 โครงการ เป็นเงินลงทุน 13,637 ล้านบาท และฮ่องกง 15 โครงการ เป็นเงินลงทุน 9,767 ล้านบาท
ตารางที่ 17 : การลงทุนจากต่างประเทศในกิจการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน BOI จำแนกตามกลุ่มประเทศ
(ล้านบาท)
ประเทศ 2548 2548(ม.ค.-ต.ค.) 2549(ม.ค.-ต.ค.)
จำนวน การลงทุน จำนวน การลงทุน จำนวน การลงทุน
โครงการ โครงการ โครงการ
ญี่ปุ่น 354 171,796 296 150,074 278 66,066
ไต้หวัน 57 16,456 47 7,092 49 9,534
ฮ่องกง 18 2,222 12 941 15 9,767
เกาหลีใต้ 31 1,485 22 1,126 21 3,910
สิงคโปร์ 69 14,422 56 11,418 50 13,637
มาเลเซีย 36 20,406 34 6,052 29 4,792
อินโดนีเซีย 1 1,023 1 1,023 5 587
ฟิลิปปินส์ 1 150 1 150 1 67
จีน 15 2,286 12 1,999 14 2,377
สหรัฐอเมริกา 48 8,689 34 7,285 38 69,957
แคนาดา 6 6,036 4 5,630 2 45
ออสเตรเลีย 13 1,210 12 967 12 480
สหราชอาณาจักร 26 4,703 16 2,217 16 1,031
เยอรมัน 19 7,022 17 6,691 13 719
สวิสเซอร์แลนด์ 20 15,102 13 13,503 8 4,691
ฝรั่งเศส 14 410 13 406 9 412
เบลเยียม 7 127 6 122 2 137
อิตาลี 8 405 5 285 7 319
เนเธอร์แลนด์ 17 14,824 13 13,184 21 3,581
ที่มา : กองการต่างประเทศ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
หมายเหตุ : สัดส่วนการถือหุ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-