อุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษ และสิ่งพิมพ์
อุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษและสิ่งพิมพ์เป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ อัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมนี้เป็นตัวบ่งชี้ความเจริญก้าวหน้าทางสังคมและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ในปัจจุบันคนไทยมีอัตราการบริโภคกระดาษเพียง 44 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ในขณะที่ประเทศแถบเอเชียด้วยกัน เช่น มาเลเซีย เกาหลี ไต้หวัน และญี่ปุ่น มีอัตราการบริโภคกระดาษประมาณ 98, 169, 206 และ 241 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ตามลำดับ นับว่าการบริโภคกระดาษของคนไทยยังค่อนข้างต่ำ ทำให้อุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษ และสิ่งพิมพ์สามารถขยายตัวได้อีกมาก ทั้งนี้ภาครัฐและภาคเอกชนของไทยจำเป็นต้องปรับตัวในหลายด้านเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
1. ภาวะการผลิต
ภาวะการผลิตเยื่อกระดาษและกระดาษ ปี 2549 มีปริมาณการผลิต 0.9 และ 3.5 ล้านตัน ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 6.9 และ 2.8 ตามลำดับ เนื่องจากจีนมีความต้องการใช้เยื่อกระดาษเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากเศรษฐกิจขยายตัว และความต้องการใช้กระดาษในประเทศสูงขึ้นเช่นเดียวกัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือ 1) การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา 2) งานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งมีการจัดพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับงานดังกล่าวเพื่อเก็บสะสมและเป็นที่ระลึก รวมทั้งการส่งไปรษณียบัตรอวยพรในหลวง 3) เทศกาลฟุตบอลโลก โดยประชาชนจัดส่งไปรษณียบัตรร่วมทายผลแชมป์บอลโลกจำนวนมาก 4) อุตสาหกรรมหลายกลุ่มขยายตัว โดยใช้กระดาษเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตกล่องและบรรจุภัณฑ์ห่อหุ้มและขนส่งสินค้า
ตารางที่ 1 ปริมาณการผลิตเยื่อกระดาษ และกระดาษ
หน่วย : พันตัน
ผลิตภัณฑ์ ปี การเปลี่ยนแปลง(ร้อยละ)
2546 2547 2548 2549 1/ 2547 2548 2549 1/
เยื่อกระดาษ 744.7 932.4 926.2 990.1 25.2 -0.7 6.9
กระดาษ 2,969.60 3,465.00 3,459.40 3,555.30 16.7 -0.2 2.8
กระดาษพิมพ์เขียน 771.5 988.9 1,006.10 997.9 28.2 1.7 -0.8
กระดาษแข็ง 200.6 205.7 209.4 200.1 2.5 1.8 -4.4
กระดาษคราฟท์/ลูกฟูก 1,888.60 2,160.90 2,144.20 2,248.20 14.4 -0.8 4.8
อื่นๆ 2/ 108.9 109.5 99.7 109.1 0.5 -8.9 9.4
ที่มา : ศูนย์สารสนเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : จากการสำรวจโรงงานอุตสาหกรรมกระดาษ จำนวน 85 โรงงาน
1/ ตัวเลขประมาณการ
2/ อื่นๆ เช่น กระดาษอนามัย กระดาษเช็ดหน้า กระดาษต่อเนื่อง กระดาษไหว้เจ้า
2. การนำเข้า
ภาวะการนำเข้าเยื่อกระดาษและเศษกระดาษในปี 2549 มีมูลค่า 414.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อนมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 9.7 เนื่องจากมีความจำเป็นต้องนำเข้าเยื่อบางประเภทที่ไม่สามารถผลิตภายในประเทศได้เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้ในประเทศที่เพิ่มขึ้น อาทิ เยื่อใยยาว แหล่งนำเข้าหลักได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และญี่ปุ่น
ภาวะการนำเข้ากระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษในปี 2549 มีมูลค่า 955.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อนมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คิดเป็นร้อยละ 2.4 เป็นผลมาจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น 1) กระทรวงการคลังประกาศลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรให้กับอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำเมื่อต้นปีซึ่งรวมถึงกลุ่มกระดาษด้วย 2) ความต้องการในประเทศเพื่อจัดพิมพ์หนังสือ ปฏิทินและสมุดบันทึกเกี่ยวกับพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ 3) การนำเข้าวัตถุดิบที่ภายในประเทศไม่สามารถผลิตได้เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น เช่น กระดาษที่มีคุณภาพสูง แหล่งนำเข้าที่สำคัญได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และจีน
ภาวะการนำเข้าสิ่งพิมพ์ในปี 2549 มีมูลค่า 142.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับ ปีก่อนมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คิดเป็นร้อยละ 12.1 เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในประเทศทำให้มีการชะลอการใช้กำลังการผลิตของเครื่องจักรเป็นผลจากการที่กำลังซื้อในประเทศลดลงตามปัจจัยทางด้านราคาน้ำมันและค่าครองชีพที่สูงขึ้นรวมทั้งปัจจัยด้านต้นทุนการผลิตก็สูงขึ้นเช่นเดียวกัน แหล่งนำเข้าที่สำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่น
ตารางที่ 2 การนำเข้าเยื่อกระดาษและเศษกระดาษ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ สิ่งพิมพ์
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
ผลิตภัณฑ์ ปี อัตราการขยายตัว(ร้อยละ)
2546 2547 2548 2549 1/ 2547 2548 2549 1/
เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ 375.4 382.2 378.1 414.8 1.8 -1.1 9.7
กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ 640.6 780.1 932.2 955 21.8 19.5 2.4
สิ่งพิมพ์ 85.8 103.4 127.1 142.5 20.5 22.9 12.1
ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : 1/ ตัวเลขประมาณการ
3. การส่งออก
ภาวะการส่งออกเยื่อกระดาษในปี 2549 มีมูลค่า 128.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อนมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 41.0 เนื่องจากเศรษฐกิจจีนขยายตัวทำให้มีความต้องการใช้เยื่อกระดาษเพิ่มขึ้น โดยมีมูลค่าการส่งออกไปจีนสูงเกินครึ่งหนึ่งของมูลค่าการส่งออกเยื่อกระดาษทั้งหมด
ภาวะการส่งออกกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษในปี 2549 มีมูลค่า 1,058.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อนมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คิดเป็นร้อยละ 16.3 เนื่องจากปัจจัยด้านราคากระดาษในตลาดโลกสูงกว่าตลาดในประเทศส่งผลให้ผู้ผลิตกระดาษส่งออกมากขึ้น ประกอบกับทุกวันนี้คนทั่วโลกให้ความสำคัญกับข้อมูลข่าวสารทำให้มีการค้นคว้าหาความรู้โดยการอ่านหนังสือ/สิ่งพิมพ์ประเภทต่างๆ ส่งผลให้มีความต้องการใช้กระดาษเพิ่มขึ้น แหล่งส่งออกที่สำคัญได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม และจีน
ภาวะการส่งออกหนังสือและสิ่งพิมพ์ในปี 2549 มีมูลค่า 120.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อนมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 5.7 เนื่องจากกลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมการพิมพ์ไทย ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์การเป็นศูนย์กลางการพิมพ์ (Printing Hub) ในภูมิภาคอาเซียนแทนสิงคโปร์ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงกลางปีโดยเฉพาะงานที่มีคุณภาพและ ต้องใช้ฝีมือ อีกทั้งคำสั่งซื้อที่ได้รับเป็นแบบล่วงหน้าและเป็นสัญญาระยะยาวทำให้ไม่มีผลกระทบเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเหมือนในช่วงต้นปี แหล่งส่งออกที่สำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลีย
ตารางที่ 3 การส่งออกเยื่อกระดาษ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ หนังสือและสิ่งพิมพ์
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
ผลิตภัณฑ์ ปี อัตราการขยายตัว(ร้อยละ)
2546 2547 2548 2549 1/ 2547 2548 2549 1/
เยื่อกระดาษ 110.1 74.5 91.1 128.5 -32.3 22.3 41
กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ 712 776 909.7 1,058.30 9 17.2 16.3
หนังสือและสิ่งพิมพ์ 72.9 64.5 114 120.5 -11.5 76.7 5.7
ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : 1/ ตัวเลขประมาณการ
4. สรุปภาวะอุตสาหกรรมและแนวโน้มปี 2550
ภาวะเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว แต่สำหรับอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษ และสิ่งพิมพ์ในปีนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับประโยชน์จากงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ อีกทั้งทางด้านกลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมการพิมพ์ไทย จัดประชาสัมพันธ์การเป็นศูนย์กลางการพิมพ์ (Printing Hub) ในภูมิภาคอาเซียนแทนสิงคโปร์ ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้น ประกอบกับผลงานของไทยผ่านการประกวดในระดับนานาชาติทำให้ต่างชาติเล็งเห็นถึงศักยภาพของไทย
แนวโน้มอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษ และสิ่งพิมพ์ของไทย ในปี 2550 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนดังนี้
1) การมีนิคมอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์สินสาคร ทำให้โรงพิมพ์และกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการพิมพ์สามารถลดต้นทุนในการผลิตและการจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากมีการดำเนินการในรูปแบบเครือข่ายวิสาหกิจ (Cluster) และมีห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ซึ่งภาครัฐพร้อมที่จะให้การสนับสนุนนิคมอุตสาหกรรมการพิมพ์ฯ เพื่อผลักดัน ให้เป็นศูนย์กลางการพิมพ์ (Printing Hub) ในภูมิภาคอาเซียน โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านต่างๆ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาบุคลากร เป็นต้น
2) กระทรวงอุตสาหกรรมมีแผนปฏิบัติการส่งเสริม SMEs ปี 2550 - 2551 ซึ่งสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยร่วมกันผลักดัน โดยอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่อยู่ในแผนดังกล่าวซึ่งจะดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
อุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษและสิ่งพิมพ์เป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ อัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมนี้เป็นตัวบ่งชี้ความเจริญก้าวหน้าทางสังคมและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ในปัจจุบันคนไทยมีอัตราการบริโภคกระดาษเพียง 44 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ในขณะที่ประเทศแถบเอเชียด้วยกัน เช่น มาเลเซีย เกาหลี ไต้หวัน และญี่ปุ่น มีอัตราการบริโภคกระดาษประมาณ 98, 169, 206 และ 241 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ตามลำดับ นับว่าการบริโภคกระดาษของคนไทยยังค่อนข้างต่ำ ทำให้อุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษ และสิ่งพิมพ์สามารถขยายตัวได้อีกมาก ทั้งนี้ภาครัฐและภาคเอกชนของไทยจำเป็นต้องปรับตัวในหลายด้านเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
1. ภาวะการผลิต
ภาวะการผลิตเยื่อกระดาษและกระดาษ ปี 2549 มีปริมาณการผลิต 0.9 และ 3.5 ล้านตัน ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 6.9 และ 2.8 ตามลำดับ เนื่องจากจีนมีความต้องการใช้เยื่อกระดาษเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากเศรษฐกิจขยายตัว และความต้องการใช้กระดาษในประเทศสูงขึ้นเช่นเดียวกัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือ 1) การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา 2) งานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งมีการจัดพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับงานดังกล่าวเพื่อเก็บสะสมและเป็นที่ระลึก รวมทั้งการส่งไปรษณียบัตรอวยพรในหลวง 3) เทศกาลฟุตบอลโลก โดยประชาชนจัดส่งไปรษณียบัตรร่วมทายผลแชมป์บอลโลกจำนวนมาก 4) อุตสาหกรรมหลายกลุ่มขยายตัว โดยใช้กระดาษเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตกล่องและบรรจุภัณฑ์ห่อหุ้มและขนส่งสินค้า
ตารางที่ 1 ปริมาณการผลิตเยื่อกระดาษ และกระดาษ
หน่วย : พันตัน
ผลิตภัณฑ์ ปี การเปลี่ยนแปลง(ร้อยละ)
2546 2547 2548 2549 1/ 2547 2548 2549 1/
เยื่อกระดาษ 744.7 932.4 926.2 990.1 25.2 -0.7 6.9
กระดาษ 2,969.60 3,465.00 3,459.40 3,555.30 16.7 -0.2 2.8
กระดาษพิมพ์เขียน 771.5 988.9 1,006.10 997.9 28.2 1.7 -0.8
กระดาษแข็ง 200.6 205.7 209.4 200.1 2.5 1.8 -4.4
กระดาษคราฟท์/ลูกฟูก 1,888.60 2,160.90 2,144.20 2,248.20 14.4 -0.8 4.8
อื่นๆ 2/ 108.9 109.5 99.7 109.1 0.5 -8.9 9.4
ที่มา : ศูนย์สารสนเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : จากการสำรวจโรงงานอุตสาหกรรมกระดาษ จำนวน 85 โรงงาน
1/ ตัวเลขประมาณการ
2/ อื่นๆ เช่น กระดาษอนามัย กระดาษเช็ดหน้า กระดาษต่อเนื่อง กระดาษไหว้เจ้า
2. การนำเข้า
ภาวะการนำเข้าเยื่อกระดาษและเศษกระดาษในปี 2549 มีมูลค่า 414.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อนมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 9.7 เนื่องจากมีความจำเป็นต้องนำเข้าเยื่อบางประเภทที่ไม่สามารถผลิตภายในประเทศได้เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้ในประเทศที่เพิ่มขึ้น อาทิ เยื่อใยยาว แหล่งนำเข้าหลักได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และญี่ปุ่น
ภาวะการนำเข้ากระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษในปี 2549 มีมูลค่า 955.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อนมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คิดเป็นร้อยละ 2.4 เป็นผลมาจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น 1) กระทรวงการคลังประกาศลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรให้กับอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำเมื่อต้นปีซึ่งรวมถึงกลุ่มกระดาษด้วย 2) ความต้องการในประเทศเพื่อจัดพิมพ์หนังสือ ปฏิทินและสมุดบันทึกเกี่ยวกับพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ 3) การนำเข้าวัตถุดิบที่ภายในประเทศไม่สามารถผลิตได้เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น เช่น กระดาษที่มีคุณภาพสูง แหล่งนำเข้าที่สำคัญได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และจีน
ภาวะการนำเข้าสิ่งพิมพ์ในปี 2549 มีมูลค่า 142.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับ ปีก่อนมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คิดเป็นร้อยละ 12.1 เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในประเทศทำให้มีการชะลอการใช้กำลังการผลิตของเครื่องจักรเป็นผลจากการที่กำลังซื้อในประเทศลดลงตามปัจจัยทางด้านราคาน้ำมันและค่าครองชีพที่สูงขึ้นรวมทั้งปัจจัยด้านต้นทุนการผลิตก็สูงขึ้นเช่นเดียวกัน แหล่งนำเข้าที่สำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่น
ตารางที่ 2 การนำเข้าเยื่อกระดาษและเศษกระดาษ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ สิ่งพิมพ์
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
ผลิตภัณฑ์ ปี อัตราการขยายตัว(ร้อยละ)
2546 2547 2548 2549 1/ 2547 2548 2549 1/
เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ 375.4 382.2 378.1 414.8 1.8 -1.1 9.7
กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ 640.6 780.1 932.2 955 21.8 19.5 2.4
สิ่งพิมพ์ 85.8 103.4 127.1 142.5 20.5 22.9 12.1
ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : 1/ ตัวเลขประมาณการ
3. การส่งออก
ภาวะการส่งออกเยื่อกระดาษในปี 2549 มีมูลค่า 128.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อนมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 41.0 เนื่องจากเศรษฐกิจจีนขยายตัวทำให้มีความต้องการใช้เยื่อกระดาษเพิ่มขึ้น โดยมีมูลค่าการส่งออกไปจีนสูงเกินครึ่งหนึ่งของมูลค่าการส่งออกเยื่อกระดาษทั้งหมด
ภาวะการส่งออกกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษในปี 2549 มีมูลค่า 1,058.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อนมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คิดเป็นร้อยละ 16.3 เนื่องจากปัจจัยด้านราคากระดาษในตลาดโลกสูงกว่าตลาดในประเทศส่งผลให้ผู้ผลิตกระดาษส่งออกมากขึ้น ประกอบกับทุกวันนี้คนทั่วโลกให้ความสำคัญกับข้อมูลข่าวสารทำให้มีการค้นคว้าหาความรู้โดยการอ่านหนังสือ/สิ่งพิมพ์ประเภทต่างๆ ส่งผลให้มีความต้องการใช้กระดาษเพิ่มขึ้น แหล่งส่งออกที่สำคัญได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม และจีน
ภาวะการส่งออกหนังสือและสิ่งพิมพ์ในปี 2549 มีมูลค่า 120.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อนมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 5.7 เนื่องจากกลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมการพิมพ์ไทย ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์การเป็นศูนย์กลางการพิมพ์ (Printing Hub) ในภูมิภาคอาเซียนแทนสิงคโปร์ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงกลางปีโดยเฉพาะงานที่มีคุณภาพและ ต้องใช้ฝีมือ อีกทั้งคำสั่งซื้อที่ได้รับเป็นแบบล่วงหน้าและเป็นสัญญาระยะยาวทำให้ไม่มีผลกระทบเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเหมือนในช่วงต้นปี แหล่งส่งออกที่สำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลีย
ตารางที่ 3 การส่งออกเยื่อกระดาษ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ หนังสือและสิ่งพิมพ์
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
ผลิตภัณฑ์ ปี อัตราการขยายตัว(ร้อยละ)
2546 2547 2548 2549 1/ 2547 2548 2549 1/
เยื่อกระดาษ 110.1 74.5 91.1 128.5 -32.3 22.3 41
กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ 712 776 909.7 1,058.30 9 17.2 16.3
หนังสือและสิ่งพิมพ์ 72.9 64.5 114 120.5 -11.5 76.7 5.7
ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : 1/ ตัวเลขประมาณการ
4. สรุปภาวะอุตสาหกรรมและแนวโน้มปี 2550
ภาวะเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว แต่สำหรับอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษ และสิ่งพิมพ์ในปีนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับประโยชน์จากงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ อีกทั้งทางด้านกลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมการพิมพ์ไทย จัดประชาสัมพันธ์การเป็นศูนย์กลางการพิมพ์ (Printing Hub) ในภูมิภาคอาเซียนแทนสิงคโปร์ ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้น ประกอบกับผลงานของไทยผ่านการประกวดในระดับนานาชาติทำให้ต่างชาติเล็งเห็นถึงศักยภาพของไทย
แนวโน้มอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษ และสิ่งพิมพ์ของไทย ในปี 2550 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนดังนี้
1) การมีนิคมอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์สินสาคร ทำให้โรงพิมพ์และกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการพิมพ์สามารถลดต้นทุนในการผลิตและการจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากมีการดำเนินการในรูปแบบเครือข่ายวิสาหกิจ (Cluster) และมีห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ซึ่งภาครัฐพร้อมที่จะให้การสนับสนุนนิคมอุตสาหกรรมการพิมพ์ฯ เพื่อผลักดัน ให้เป็นศูนย์กลางการพิมพ์ (Printing Hub) ในภูมิภาคอาเซียน โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านต่างๆ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาบุคลากร เป็นต้น
2) กระทรวงอุตสาหกรรมมีแผนปฏิบัติการส่งเสริม SMEs ปี 2550 - 2551 ซึ่งสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยร่วมกันผลักดัน โดยอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่อยู่ในแผนดังกล่าวซึ่งจะดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-