ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธุรกิจบัตรเครดิตของสถาบันการเงินขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่า
การธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการขยายตัวของธุรกิจบัตรเครดิตของสถาบันการเงินว่า ขณะนี้มี
อัตราการเติบโตอยู่ที่ 15-16% จากก่อนหน้านี้ที่อยู่ในระดับกว่า 30% ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ส่วน
หนึ่งเป็นผลจากมาตรการของ ธปท.ที่ออกไปก่อนหน้านี้ สำหรับตัวเลขการให้บริการบัตรเครดิต ล่าสุด ณ สิ้นเดือน
ก.ค.48 มีจำนวนบัตรเครดิตทั้งสิ้น 9,344,264 บัตร เพิ่มขึ้น 179,971 บัตร ถือเป็นการขยายตัวที่ชะลอลงต่อ
เนื่องจากครึ่งปีแรก ส่วนยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตทั้งระบบในเดือน ก.ค.มีจำนวนทั้งสิ้น 128,036.07 ล.
บาท เพิ่มขึ้น 1,199.68 ล.บาท จากเดือนก่อนหน้า สำหรับปริมาณการใช้จ่ายรวมผ่านบัตรเครดิตมีจำนวนทั้งสิ้น 51,289.88 ล.บาท เพิ่มขึ้น 406.67 ล.บาทจากเดือนก่อนหน้า (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้)
2. บาเซิล 2 พร้อมนำมาใช้จริงกับสถาบันการเงินไทยในปลายปี 51 นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้
ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ปัญหาท้าทายสถาบันการเงินไทยช่วง 1-2 ปีข้างหน้านั้น
นอกจากจะเป็นการนำบาเซิล 2 มาใช้แล้ว ยังมีเรื่องการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ๆ ที่ผู้กำกับสถาบันการเงินจะต้องให้
ความสำคัญ เนื่องจากมีหลักการทางบัญชีที่แตกต่างจากเดิม ทั้งนี้ การนำเกณฑ์บาเซิล 2 มาใช้กับสถาบันการเงิน
ของไทยนั้น ขณะนี้มี ธพ.บางแห่งที่พร้อมจะใช้วิธีการประเมินความเสี่ยงขั้นสูง (Internal Ratings based :
IRB) แล้ว แต่ ธปท.จะต้องพิจารณาข้อมูลความพร้อมของธนาคารแต่ละแห่งก่อน โดยในกลางปีหน้า จึงจะทราบ
อย่างแน่ชัดว่าธนาคารแต่ละแห่งจะใช้วิธีการใด ก่อนที่จะนำมาใช้จริงในปลายปี 51 (กรุงเทพธุรกิจ)
3. ธปท.กำหนดแนวทางช่วยลดเอ็นพีแอลในระบบ ธพ. นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.มีแนวทางที่จะช่วยเร่งลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพี
แอล) ในระบบ ธพ.ให้เร็วขึ้น โดยการให้บริษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (เอเอ็มซี) ที่กองทุนฟื้นฟูและพัฒนา
ระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เข้ามาซื้อหนี้ของ ธพ. ทั้งที่เป็นเอ็นพีแอลและสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ)
เนื่องจากหนี้ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้รายย่อยและหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้ได้ยาก หากปล่อยให้ ธพ.แก้ไขโดยลำพัง
จะลดเอ็นพีแอลทั้งระบบได้ช้า ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าปริมาณเอ็นพีแอลของทั้งระบบจะลดลงได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยจะลด
เหลือเพียง 2% ภายในปี 49 จากปัจจุบันที่มีจำนวนประมาณ 580,000 ล.บาท (ผู้จัดการรายวัน, โลกวันนี้)
4. ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป นาย
ไชยยศ สะสมทรัพย์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับผู้สูง
อายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ที่เป็นผู้อยู่ในประเทศไทยถึง 180 วันในปีปฏิทิน โดยได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้
บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้ที่ได้รับ 190,000 บาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.49 เป็นต้นไป ซึ่งจะยื่นแบบ
ภาษีได้ในเดือน มี.ค.49 ทั้งนี้ การได้รับยกเว้นดังกล่าว ผู้เสียภาษีสามารถเลือกใช้สิทธิหักจำนวนเงิน 190,000
บาท ออกจากเงินได้ประเภทใดก็ได้ที่ได้รับ และนำเงินได้หลังใช้สิทธิมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (โลก
วันนี้, กรุงเทพธุรกิจ,ผู้จัดการรายวัน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. คาดว่าจีดีพี สรอ. ในไตรมาส 2 ปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 3.3 รายงานจากกรุงนิวยอร์ค
ประเทศ สรอ. เมื่อวันที่ 27 ก.ย.48 สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยว่า ค่าเฉลี่ยกลางของผลสำรวจความคิดเห็น
นักเศรษฐศาสตร์ 39 คน ครั้งสุดท้ายคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของ สรอ. ในไตรมาส 2 ปีนี้จะขยายตัวร้อยละ
3.3 ไม่เปลี่ยนแปลงจากที่เคยประมาณการไว้เมื่อเดือนก่อน ขณะที่ในไตรมาสแรกปีนี้จีดีพีขยายตัวร้อยละ 3.8
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่าหากเป็นจีดีพีที่ปรับด้วยราคาสินค้าและบริการปัจจุบันแล้วจะขยายตัวร้อยละ 2.4 ลดลง
จากประมาณการครั้งก่อนที่ระดับร้อยละ 2.5 ส่วนไตรมาสแรกอยู่ที่ระดับร้อยละ 3.0 ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า
สินค้าคงคลังที่เหลืออยู่เป็นจำนวนมากในช่วงไตรมาส 2 จะจำกัดการขยายตัวของเศรษฐกิจ ในขณะที่นัก
เศรษฐศาสตร์บางคนมองว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ครั้งก่อน เนื่องจากผลกระทบจากพายุเฮอริ
เคนแคทรินาและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น อนึ่ง รัฐบาล สรอ. จะแถลงตัวเลขอย่างเป็นทางการของจีดีพีในไตร
มาส 2 ในวันพฤหัสบดีนี้ (รอยเตอร์)
2. ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเยอรมนีในเดือน ก.ย.48 เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 8
เดือน แต่คาดว่าผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 18 ก.ย.48 จะทำให้ความเชื่อมั่นในเดือนหน้าลดลง รายงานจาก
เบอร์ลิน เมื่อ 27 ก.ย.48 ผลสำรวจความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเยอรมนี ในเดือน ก.ย.48 จากการสำรวจ
ความเห็นของธุรกิจประมาณ 7,000 แห่งโดย Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำของเยอรมนีพบว่าความเชื่อ
มั่นในส่วนที่เกี่ยวกับบรรยากาศทางธุรกิจในปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 96.0 อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.
ค.48 จากระดับ 94.6 ในเดือน ส.ค.48 และสูงกว่าระดับ 94.1 ที่รอยเตอร์คาดไว้ โดยความเชื่อมั่นของธุรกิจ
ในภาคการผลิต การค้าส่งและค้าปลีกดีขึ้นในขณะที่ความเชื่อมั่นของธุรกิจก่อสร้างคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่ความ
เชื่อมั่นที่เกี่ยวกับภาวะธุรกิจในปัจจุบันก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 96.4 จาก 93.8 ในเดือนก่อน เช่นเดียวกับความคาด
หวังเกี่ยวกับภาวะธุรกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้าที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 95.5 จาก 95.4 ในเดือนก่อน ทั้งนี้คาดว่า
เป็นผลมาจากตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าและตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นก่อนหน้านี้ทำให้ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ
ดีขึ้น อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดว่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเดือนหน้าซึ่งเป็นการสำรวจหลังจากที่ทราบผล
การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 18 ก.ย.48 แล้วจะลดลง จากผลการเลือกตั้งที่ไม่มีพรรคใดได้คะแนนเสียงข้างมากพอ
ที่จะจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพันธมิตรเดิมได้ ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลและการปฏิรูประบบเศรษฐกิจต้องล่าช้าออกไป
(รอยเตอร์)
3. ธุรกิจอังกฤษลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ รายงานจากลอนดอน เมื่อวันที่ 27 ก.
ย. 48 สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 2 ปี 48 ธุรกิจของอังกฤษลงทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาส
แรกร้อยละ 1.5 และเพิ่มขึ้นอย่างมากถึงร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่ทางการอังกฤษ
ได้เคยประมาณการณ์ไว้ว่าธุรกิจจะลงทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 เพียงร้อยละ 0.5 และร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับ
ปีก่อน ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของการลงทุนของธุรกิจดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่ายินดีและ
อาจทำให้ผู้ดำเนินนโยบายของธ.กลางทบทวนตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาสที่ 2 ปี 48 ใหม่
ซึ่งทางการอังกฤษมีกำหนดที่จะประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการในวันพุธนี้ คาดว่าจะมีการปรับตัวเลข GDP ราย
ไตรมาสเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.1 เนื่องจากการลงทุนของธุรกิจมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 10 ของ GDP ทั้งนี้เดิมทาง
การคาดว่า GDP จะขยายตัวร้อยละ 0.5 จากไตรมาสก่อนหน้าและขยายตัวอีกร้อยละ 1.8 ต่อปี (รอยเตอร์)
4. คาดว่าผลผลิตอุตสาหกรรมเกาหลีใต้ในเดือน ส.ค.48 ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่ร้อย
ละ 0.2 รายงานจากโซล เมื่อ 27 ก.ย.48 ผลสำรวจนักวิเคราะห์โดยรอยเตอร์พบว่า ผลผลิตอุตสาหกรรม
เกาหลีใต้ในเดือน ส.ค.48 จะลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่ร้อยละ 0.2 เทียบต่อเดือน (ตัวเลขหลังปรับ
ฤดูกาล) หลังจากที่เดือน ก.ค.48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 เนื่องจากการประท้วงของกลุ่มคนงานในภาคอุตสาหกรรม
การผลิตรถยนต์ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์เห็นว่า หากไม่มีการประท้วงดังกล่าว ผลผลิตโรงงานยังมีแนวโน้มในทางสูง
ขึ้น ทั้งนี้ ผลผลิตของผู้ประกอบการรถยนต์ (รวมถึง บ.ฮุนไดมอเตอร์ และ บ.เกียร์มอเตอร์) มีสัดส่วนถึงร้อยละ
10 ของผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวมของเกาหลีใต้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จาก Lehman Brother มีมุมมองในด้าน
บวกว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากภาวะการส่งออกเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดหวัง
และความต้องการในประเทศฟื้นตัวดีขึ้น โดยในเดือน ส.ค.48 การส่งออกของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.1
เทียบจากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 9 เดือน สำหรับผลผลิตภาคบริการในเดือน ก.ค.48 ซึ่งมีสัดส่วน
มากกว่าครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) เกาหลีใต้ ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตรารวดเร็วที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่
ผ่านมา ทั้งนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้จะประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 29 ส.ค.48 (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 28 ก.ย. 48 27 ก.ย. 48 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.26 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 41.0819/41.3681 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 3.43139 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 724.24/ 17.21 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 9,050/9,150 9,050/9,150 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 56.49 57.44 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 27.74*/24.19* 27.74*/24.19 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม 40 สตางค์ เมื่อ 18 ก.ย. 48
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธุรกิจบัตรเครดิตของสถาบันการเงินขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่า
การธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการขยายตัวของธุรกิจบัตรเครดิตของสถาบันการเงินว่า ขณะนี้มี
อัตราการเติบโตอยู่ที่ 15-16% จากก่อนหน้านี้ที่อยู่ในระดับกว่า 30% ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ส่วน
หนึ่งเป็นผลจากมาตรการของ ธปท.ที่ออกไปก่อนหน้านี้ สำหรับตัวเลขการให้บริการบัตรเครดิต ล่าสุด ณ สิ้นเดือน
ก.ค.48 มีจำนวนบัตรเครดิตทั้งสิ้น 9,344,264 บัตร เพิ่มขึ้น 179,971 บัตร ถือเป็นการขยายตัวที่ชะลอลงต่อ
เนื่องจากครึ่งปีแรก ส่วนยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตทั้งระบบในเดือน ก.ค.มีจำนวนทั้งสิ้น 128,036.07 ล.
บาท เพิ่มขึ้น 1,199.68 ล.บาท จากเดือนก่อนหน้า สำหรับปริมาณการใช้จ่ายรวมผ่านบัตรเครดิตมีจำนวนทั้งสิ้น 51,289.88 ล.บาท เพิ่มขึ้น 406.67 ล.บาทจากเดือนก่อนหน้า (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้)
2. บาเซิล 2 พร้อมนำมาใช้จริงกับสถาบันการเงินไทยในปลายปี 51 นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้
ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ปัญหาท้าทายสถาบันการเงินไทยช่วง 1-2 ปีข้างหน้านั้น
นอกจากจะเป็นการนำบาเซิล 2 มาใช้แล้ว ยังมีเรื่องการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ๆ ที่ผู้กำกับสถาบันการเงินจะต้องให้
ความสำคัญ เนื่องจากมีหลักการทางบัญชีที่แตกต่างจากเดิม ทั้งนี้ การนำเกณฑ์บาเซิล 2 มาใช้กับสถาบันการเงิน
ของไทยนั้น ขณะนี้มี ธพ.บางแห่งที่พร้อมจะใช้วิธีการประเมินความเสี่ยงขั้นสูง (Internal Ratings based :
IRB) แล้ว แต่ ธปท.จะต้องพิจารณาข้อมูลความพร้อมของธนาคารแต่ละแห่งก่อน โดยในกลางปีหน้า จึงจะทราบ
อย่างแน่ชัดว่าธนาคารแต่ละแห่งจะใช้วิธีการใด ก่อนที่จะนำมาใช้จริงในปลายปี 51 (กรุงเทพธุรกิจ)
3. ธปท.กำหนดแนวทางช่วยลดเอ็นพีแอลในระบบ ธพ. นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.มีแนวทางที่จะช่วยเร่งลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพี
แอล) ในระบบ ธพ.ให้เร็วขึ้น โดยการให้บริษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (เอเอ็มซี) ที่กองทุนฟื้นฟูและพัฒนา
ระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เข้ามาซื้อหนี้ของ ธพ. ทั้งที่เป็นเอ็นพีแอลและสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ)
เนื่องจากหนี้ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้รายย่อยและหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้ได้ยาก หากปล่อยให้ ธพ.แก้ไขโดยลำพัง
จะลดเอ็นพีแอลทั้งระบบได้ช้า ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าปริมาณเอ็นพีแอลของทั้งระบบจะลดลงได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยจะลด
เหลือเพียง 2% ภายในปี 49 จากปัจจุบันที่มีจำนวนประมาณ 580,000 ล.บาท (ผู้จัดการรายวัน, โลกวันนี้)
4. ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป นาย
ไชยยศ สะสมทรัพย์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับผู้สูง
อายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ที่เป็นผู้อยู่ในประเทศไทยถึง 180 วันในปีปฏิทิน โดยได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้
บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้ที่ได้รับ 190,000 บาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.49 เป็นต้นไป ซึ่งจะยื่นแบบ
ภาษีได้ในเดือน มี.ค.49 ทั้งนี้ การได้รับยกเว้นดังกล่าว ผู้เสียภาษีสามารถเลือกใช้สิทธิหักจำนวนเงิน 190,000
บาท ออกจากเงินได้ประเภทใดก็ได้ที่ได้รับ และนำเงินได้หลังใช้สิทธิมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (โลก
วันนี้, กรุงเทพธุรกิจ,ผู้จัดการรายวัน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. คาดว่าจีดีพี สรอ. ในไตรมาส 2 ปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 3.3 รายงานจากกรุงนิวยอร์ค
ประเทศ สรอ. เมื่อวันที่ 27 ก.ย.48 สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยว่า ค่าเฉลี่ยกลางของผลสำรวจความคิดเห็น
นักเศรษฐศาสตร์ 39 คน ครั้งสุดท้ายคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของ สรอ. ในไตรมาส 2 ปีนี้จะขยายตัวร้อยละ
3.3 ไม่เปลี่ยนแปลงจากที่เคยประมาณการไว้เมื่อเดือนก่อน ขณะที่ในไตรมาสแรกปีนี้จีดีพีขยายตัวร้อยละ 3.8
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่าหากเป็นจีดีพีที่ปรับด้วยราคาสินค้าและบริการปัจจุบันแล้วจะขยายตัวร้อยละ 2.4 ลดลง
จากประมาณการครั้งก่อนที่ระดับร้อยละ 2.5 ส่วนไตรมาสแรกอยู่ที่ระดับร้อยละ 3.0 ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า
สินค้าคงคลังที่เหลืออยู่เป็นจำนวนมากในช่วงไตรมาส 2 จะจำกัดการขยายตัวของเศรษฐกิจ ในขณะที่นัก
เศรษฐศาสตร์บางคนมองว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ครั้งก่อน เนื่องจากผลกระทบจากพายุเฮอริ
เคนแคทรินาและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น อนึ่ง รัฐบาล สรอ. จะแถลงตัวเลขอย่างเป็นทางการของจีดีพีในไตร
มาส 2 ในวันพฤหัสบดีนี้ (รอยเตอร์)
2. ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเยอรมนีในเดือน ก.ย.48 เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 8
เดือน แต่คาดว่าผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 18 ก.ย.48 จะทำให้ความเชื่อมั่นในเดือนหน้าลดลง รายงานจาก
เบอร์ลิน เมื่อ 27 ก.ย.48 ผลสำรวจความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเยอรมนี ในเดือน ก.ย.48 จากการสำรวจ
ความเห็นของธุรกิจประมาณ 7,000 แห่งโดย Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำของเยอรมนีพบว่าความเชื่อ
มั่นในส่วนที่เกี่ยวกับบรรยากาศทางธุรกิจในปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 96.0 อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.
ค.48 จากระดับ 94.6 ในเดือน ส.ค.48 และสูงกว่าระดับ 94.1 ที่รอยเตอร์คาดไว้ โดยความเชื่อมั่นของธุรกิจ
ในภาคการผลิต การค้าส่งและค้าปลีกดีขึ้นในขณะที่ความเชื่อมั่นของธุรกิจก่อสร้างคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่ความ
เชื่อมั่นที่เกี่ยวกับภาวะธุรกิจในปัจจุบันก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 96.4 จาก 93.8 ในเดือนก่อน เช่นเดียวกับความคาด
หวังเกี่ยวกับภาวะธุรกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้าที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 95.5 จาก 95.4 ในเดือนก่อน ทั้งนี้คาดว่า
เป็นผลมาจากตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าและตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นก่อนหน้านี้ทำให้ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ
ดีขึ้น อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดว่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเดือนหน้าซึ่งเป็นการสำรวจหลังจากที่ทราบผล
การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 18 ก.ย.48 แล้วจะลดลง จากผลการเลือกตั้งที่ไม่มีพรรคใดได้คะแนนเสียงข้างมากพอ
ที่จะจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพันธมิตรเดิมได้ ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลและการปฏิรูประบบเศรษฐกิจต้องล่าช้าออกไป
(รอยเตอร์)
3. ธุรกิจอังกฤษลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ รายงานจากลอนดอน เมื่อวันที่ 27 ก.
ย. 48 สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 2 ปี 48 ธุรกิจของอังกฤษลงทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาส
แรกร้อยละ 1.5 และเพิ่มขึ้นอย่างมากถึงร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่ทางการอังกฤษ
ได้เคยประมาณการณ์ไว้ว่าธุรกิจจะลงทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 เพียงร้อยละ 0.5 และร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับ
ปีก่อน ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของการลงทุนของธุรกิจดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่ายินดีและ
อาจทำให้ผู้ดำเนินนโยบายของธ.กลางทบทวนตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาสที่ 2 ปี 48 ใหม่
ซึ่งทางการอังกฤษมีกำหนดที่จะประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการในวันพุธนี้ คาดว่าจะมีการปรับตัวเลข GDP ราย
ไตรมาสเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.1 เนื่องจากการลงทุนของธุรกิจมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 10 ของ GDP ทั้งนี้เดิมทาง
การคาดว่า GDP จะขยายตัวร้อยละ 0.5 จากไตรมาสก่อนหน้าและขยายตัวอีกร้อยละ 1.8 ต่อปี (รอยเตอร์)
4. คาดว่าผลผลิตอุตสาหกรรมเกาหลีใต้ในเดือน ส.ค.48 ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่ร้อย
ละ 0.2 รายงานจากโซล เมื่อ 27 ก.ย.48 ผลสำรวจนักวิเคราะห์โดยรอยเตอร์พบว่า ผลผลิตอุตสาหกรรม
เกาหลีใต้ในเดือน ส.ค.48 จะลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่ร้อยละ 0.2 เทียบต่อเดือน (ตัวเลขหลังปรับ
ฤดูกาล) หลังจากที่เดือน ก.ค.48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 เนื่องจากการประท้วงของกลุ่มคนงานในภาคอุตสาหกรรม
การผลิตรถยนต์ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์เห็นว่า หากไม่มีการประท้วงดังกล่าว ผลผลิตโรงงานยังมีแนวโน้มในทางสูง
ขึ้น ทั้งนี้ ผลผลิตของผู้ประกอบการรถยนต์ (รวมถึง บ.ฮุนไดมอเตอร์ และ บ.เกียร์มอเตอร์) มีสัดส่วนถึงร้อยละ
10 ของผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวมของเกาหลีใต้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จาก Lehman Brother มีมุมมองในด้าน
บวกว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากภาวะการส่งออกเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดหวัง
และความต้องการในประเทศฟื้นตัวดีขึ้น โดยในเดือน ส.ค.48 การส่งออกของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.1
เทียบจากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 9 เดือน สำหรับผลผลิตภาคบริการในเดือน ก.ค.48 ซึ่งมีสัดส่วน
มากกว่าครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) เกาหลีใต้ ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตรารวดเร็วที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่
ผ่านมา ทั้งนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้จะประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 29 ส.ค.48 (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 28 ก.ย. 48 27 ก.ย. 48 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.26 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 41.0819/41.3681 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 3.43139 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 724.24/ 17.21 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 9,050/9,150 9,050/9,150 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 56.49 57.44 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 27.74*/24.19* 27.74*/24.19 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม 40 สตางค์ เมื่อ 18 ก.ย. 48
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--