นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แถลงวันนี้ (25 ส.ค.50)ที่พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติเร่งดำเนินการพิจารณาเห็นชอบประกาศใช้กฎหมายต่อต้านการทุจริต 2 ฉบับตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อเป็นกลไกในการป้องกันและปราบปรามการฉ้อราษฎรบังหลวงหลังจากที่รัฐบาลทักษิณหลีกเลี่ยงที่จะสนับสนุนอนุสัญญาสหประชาชาติและกฎหมาย 2 ฉบับดังกล่าวซึ่งได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญาเพราะการทุจริตในวงราชการและการเมืองกำลังระบาดอย่างรุนแรงและเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศโดยเฉพาะปัญหาการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินที่ได้มาจากการทุจริตไปซุกซ่อนทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่าในอดีตทำให้ยากต่อการริบทรัพย์เหล่านั้นกลับมาเป็นของแผ่นดิน ดังเช่นคดีคอร์รัปชันของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและพวกพ้อง หรือในต่างประเทศก็มีตัวอย่างคดีทุจริตของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินัน มาร์คอส ของฟิลิปปินส์ที่อาศัยกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศในการติดตามทรัพย์สินที่เกิดจากการคอร์รัปชันกลับมาสู่ประเทศได้สำเร็จ
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่า มาตรการตามอนุสัญญาสหประชาชาติและกฎหมายความร่วมมือต่อต้านคอร์รัปชันระหว่างประเทศจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในประเทศไทยรวมถึงกระบวนการอายัติและริบทรัพย์จากพวกฉ้อราษฎรบังหลวงจะรวดเร็วและคล่องตัวขึ้นซึ่งถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ประเทศไทยควรมีไว้โดยเร็ว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 25 ส.ค. 2550--จบ--
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่า มาตรการตามอนุสัญญาสหประชาชาติและกฎหมายความร่วมมือต่อต้านคอร์รัปชันระหว่างประเทศจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในประเทศไทยรวมถึงกระบวนการอายัติและริบทรัพย์จากพวกฉ้อราษฎรบังหลวงจะรวดเร็วและคล่องตัวขึ้นซึ่งถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ประเทศไทยควรมีไว้โดยเร็ว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 25 ส.ค. 2550--จบ--