วันนี้(18 มี.ค. 50) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงปัญหาสภาวะสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองขณะนี้ว่า จากกรณีที่บ้านเมืองเกิดสภาวะสิ่งแวดล้อมเป็นพิษขึ้นในหลายพื้นที่ ล่าสุดที่เป็นข่าวเช้านี้ คือ มลภาวะที่จังหวัดระยอง ที่ปรากฎการณ์ปลาตาย ในพื้นที่ชายทะเล ซึ่งอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ปรากฎการณ์ดังกล่าวนี้เป็นเรื่องค้างคามาร่วมหลายเดือน ส่วนสภาวะหมอกควันพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดทั้งปัญหาน้ำเน่าเสียในพื้นที่ภาคกลาง บริเวณจังหวัดสุพรรณ และพระนครศรีอยุธยา
พรรคประชาธิปัตย์ ได้ติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิด และมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนในเรื่องของคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหามลภาวะ ซึ่งเกิดขึ้นแล้วสร้างความเสียหาย ทั้งกับชีวิต รายได้ อาชีพ ของประชาชน พรรคฯคิดว่าการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ต้องมีการวางแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว ต้องทำแผนแม่บทเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้น และเมื่อเกิดความเสียหายแล้วต้องเร่งจำกัดวงเสียหายไม่ให้ขยายเพิ่มมากขึ้น กล่าวคือต้องมีแผนการป้องกัน และรองรับอุบัติภัยแห่งชาติ มารองรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
ตรงนี้พรรคฯจึงอยากจะเรียกร้องรัฐบาล ว่าให้รัฐบาลมีความจริงจัง และจริงใจในการแก้ไขปัญหามลภาวะภาพรวมของประเทศ โดยแบ่งเป็น
ประการที่ 1.รัฐบาลต้องสร้างควาใมชัดเจน และ ที่สำคัญต้องทราบต้นเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น ปัญหามลพิษที่มาบตาพุด ต้องทราบให้ชัดเจนว่าเกิดจากสารอะไร คนที่เป็นมะเร็งที่มาบตาพุดเกิดจากสารพิษ จากโรงงานใด หรือ ปัญหาหมอกควันที่เชียงใหม่ ตลอดทั้งปัญหาน้ำเสียภาคกลาง ต้องไปดูว่าสาเหตุจริงๆเกิดจากอะไร กล่าวคือรัฐบาลต้องสร้างความชัดเจนของต้นเหตุให้ได้
ประการที่ 2 . รัฐบาลต้องมีแผนบูรณการร่วมกันในการจำกัดความเสียหาย เพื่อไม่ให้พื้นที่เสียหายขยายตัวออกไป ประการที่ 3 .รัฐบาลต้องมีมาตรการบังคับใช้กฎหมายที่เคร่งครัดกับทุกส่วนที่จะเป็นต้นเหตุในการสร้างมลภาวะ เช่น การตรวจสภาพเรือที่แล่นในแม่น้ำเจ้าพระยา การตรวจสภาพโรงงาน เพื่อเป็นการป้องกันการปล่อยสารพิษออกมาสู่อากาศเกินมาตรฐาน การบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประมาท เช่นกรณีการก่อให้เกิดไฟป่า ที่จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวคือ ต้องดำเนินการกับผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง
ประการที่ 4 รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด เช่น หากพบว่าโรงงานไหนปล่อยสารพิษเกินมาตรฐาน ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย พระราชบัญญัติโรงงานอุตสาหกรรม คือ สั่งปิด และเรียกร้องค่าเสียหาย โดยรัฐต้องไปฟ้องผู้ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดความเสียหาย และนำเงินค่าเสียหายมาชำระให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ
ประการที่ 5 รัฐบาลต้องสร้างความเชื่อมั้นให้กับประชาชน ในการทำหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมของหน่วยงานราชการที่มีต่อโรงงาน ที่มีต่อต้นเหตุของปัญหา
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 มี.ค. 2550--จบ--
พรรคประชาธิปัตย์ ได้ติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิด และมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนในเรื่องของคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหามลภาวะ ซึ่งเกิดขึ้นแล้วสร้างความเสียหาย ทั้งกับชีวิต รายได้ อาชีพ ของประชาชน พรรคฯคิดว่าการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ต้องมีการวางแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว ต้องทำแผนแม่บทเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้น และเมื่อเกิดความเสียหายแล้วต้องเร่งจำกัดวงเสียหายไม่ให้ขยายเพิ่มมากขึ้น กล่าวคือต้องมีแผนการป้องกัน และรองรับอุบัติภัยแห่งชาติ มารองรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
ตรงนี้พรรคฯจึงอยากจะเรียกร้องรัฐบาล ว่าให้รัฐบาลมีความจริงจัง และจริงใจในการแก้ไขปัญหามลภาวะภาพรวมของประเทศ โดยแบ่งเป็น
ประการที่ 1.รัฐบาลต้องสร้างควาใมชัดเจน และ ที่สำคัญต้องทราบต้นเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น ปัญหามลพิษที่มาบตาพุด ต้องทราบให้ชัดเจนว่าเกิดจากสารอะไร คนที่เป็นมะเร็งที่มาบตาพุดเกิดจากสารพิษ จากโรงงานใด หรือ ปัญหาหมอกควันที่เชียงใหม่ ตลอดทั้งปัญหาน้ำเสียภาคกลาง ต้องไปดูว่าสาเหตุจริงๆเกิดจากอะไร กล่าวคือรัฐบาลต้องสร้างความชัดเจนของต้นเหตุให้ได้
ประการที่ 2 . รัฐบาลต้องมีแผนบูรณการร่วมกันในการจำกัดความเสียหาย เพื่อไม่ให้พื้นที่เสียหายขยายตัวออกไป ประการที่ 3 .รัฐบาลต้องมีมาตรการบังคับใช้กฎหมายที่เคร่งครัดกับทุกส่วนที่จะเป็นต้นเหตุในการสร้างมลภาวะ เช่น การตรวจสภาพเรือที่แล่นในแม่น้ำเจ้าพระยา การตรวจสภาพโรงงาน เพื่อเป็นการป้องกันการปล่อยสารพิษออกมาสู่อากาศเกินมาตรฐาน การบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประมาท เช่นกรณีการก่อให้เกิดไฟป่า ที่จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวคือ ต้องดำเนินการกับผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง
ประการที่ 4 รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด เช่น หากพบว่าโรงงานไหนปล่อยสารพิษเกินมาตรฐาน ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย พระราชบัญญัติโรงงานอุตสาหกรรม คือ สั่งปิด และเรียกร้องค่าเสียหาย โดยรัฐต้องไปฟ้องผู้ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดความเสียหาย และนำเงินค่าเสียหายมาชำระให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ
ประการที่ 5 รัฐบาลต้องสร้างความเชื่อมั้นให้กับประชาชน ในการทำหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมของหน่วยงานราชการที่มีต่อโรงงาน ที่มีต่อต้นเหตุของปัญหา
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 มี.ค. 2550--จบ--