ประมง
1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การผลิต
อินโดนีเซียห้ามจับปลาในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ
คณะทำงานเจรจาการร่วมทุนทำการประมงระหว่างประเทศไทยกับอินโดนนีเซียเปิดเผยถึงการประชุมคณะทำงาน หลังจากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานชุดนี้ขึ้นมา คณะทำงานจะทำหน้าที่ประสานงานร่วมกับคณะทำงานฝ่ายอินโดนีเซียในการวางหลักเกณฑ์ เงื่อนไขในการทำประมงร่วมกันในทางปฏิบัติ เพื่อให้ได้รับประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้ รัฐบาลอินโดนีเซีย ยกเลิกความตกลงให้สัมปทานจับปลาในเขตเศรษฐกิจจำเพาะอินโดนีเซียที่ให้แก่เรือประมงไทย(Bilateral Arrange ment on Utilization of Part of the Total Allowable Catch in the Indonesian หรือ EEZ) มีผลในวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่รัฐบาลอินโดนีเซียยอมให้มีการต่อใบอนุญาตการทำประมงในเขต EEZ สำหรับเรือประมงไทยต่อไปได้อีก 1 ปี หลังจากนั้นเรือประมงไทยที่ประสงค์จะเข้าไปจับปลาในเขตนี้จะต้องดำเนินการตามนโยบายใหม่ หรือ The New Policy on Capture Fisheries of Indonesia ด้วยการร่วมลงทุน(joint venture scheme) กับนักลงทุนอินโดนีเซียเท่านั้น ปัจจุบันไทยทำประมงอยู่ภายใต้ระบบไลเซนส์จับปลา(Licensing for Foreigners or Foreign Companies) สำหรับการประชุมคณะทำงานครั้งที่ผ่านมา ที่ประชุมเห็นว่า ระบบการทำประมงแบบลงทุนร่วมกัน(joint venture scheme) ตามนโยบาย The New Policy on Capture Fisheries ในทางปฏิบัติยังไม่มีความชัดเจนทั้งในเรื่องของการตั้งบริษัทร่วมทุน การชักธง พื้นที่ทำการประมง ค่าใบอนุญาตทำการประมงที่จะต้องจ่าย สัดส่วนลูกเรือประมงระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย ส่วนแบ่งการจับ(catch sharing) ท่าเทียบเรือ จุดตรวจ ภาษีส่งออก การขนถ่ายและการนำปลากลับประเทศ รวมถึงข้อบังคับในเรื่องการลงทุนตั้งโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการทำประมงบนฝั่งอินโดนีเซีย ดังนั้น Mr.Freddy Numberi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการทางทะเลและการประมงอินโดนีเซียจึงได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอเชิญประชุมหารือในความร่วมมือด้านการประมงไทย-อินโดนีเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับ Bilateral Arrange ment ฉบับเดิมที่ถูกยกเลิกไป ก่อนที่จะบังคับให้ไปใช้นโยบายประมงใหม่ด้วยการทำประมงแบบร่วมทุนในปี 2549 เท่านั้น
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 8 - 14 ต.ค. 48) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,225.11 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 562.76 ตัน สัตว์น้ำจืด 662.35 ตัน ประกอบด้วยสัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 5.22 ตัน
1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 5.66 ตัน
1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 95.74 ตัน
1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 5.80 ตัน
1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 30.90 ตัน
การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 28.70 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 28.40 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.30 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯไม่มีรายงานราคาจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 62.40 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 62.72 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.32 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯเฉลี่ยกิโลกรัมละ 100.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 94.29 บาท ของสัปดาห์ก่อน 5.71 บาท
2.3 กุ้งกุลาดำ ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 151.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 135.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 142.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 7.00 บาท
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 149.48 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 147.02 บาท ของสัปดาห์ก่อน 2.46 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 145.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 148.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 3.00 บาท
2.5 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 36.23 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 35.35 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.88 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 50.29 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 51.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.71 บาท
2.6 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้ ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 120.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 121.43 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.10 บาท
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 4.56 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 4.46 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.10 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% (ระหว่างวันที่ 17 - 21 ต.ค. 2548) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 19.40 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 19.60 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.20 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 41 ประจำวันที่ 17-23 ต.ค.2548--
-พห-
1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การผลิต
อินโดนีเซียห้ามจับปลาในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ
คณะทำงานเจรจาการร่วมทุนทำการประมงระหว่างประเทศไทยกับอินโดนนีเซียเปิดเผยถึงการประชุมคณะทำงาน หลังจากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานชุดนี้ขึ้นมา คณะทำงานจะทำหน้าที่ประสานงานร่วมกับคณะทำงานฝ่ายอินโดนีเซียในการวางหลักเกณฑ์ เงื่อนไขในการทำประมงร่วมกันในทางปฏิบัติ เพื่อให้ได้รับประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้ รัฐบาลอินโดนีเซีย ยกเลิกความตกลงให้สัมปทานจับปลาในเขตเศรษฐกิจจำเพาะอินโดนีเซียที่ให้แก่เรือประมงไทย(Bilateral Arrange ment on Utilization of Part of the Total Allowable Catch in the Indonesian หรือ EEZ) มีผลในวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่รัฐบาลอินโดนีเซียยอมให้มีการต่อใบอนุญาตการทำประมงในเขต EEZ สำหรับเรือประมงไทยต่อไปได้อีก 1 ปี หลังจากนั้นเรือประมงไทยที่ประสงค์จะเข้าไปจับปลาในเขตนี้จะต้องดำเนินการตามนโยบายใหม่ หรือ The New Policy on Capture Fisheries of Indonesia ด้วยการร่วมลงทุน(joint venture scheme) กับนักลงทุนอินโดนีเซียเท่านั้น ปัจจุบันไทยทำประมงอยู่ภายใต้ระบบไลเซนส์จับปลา(Licensing for Foreigners or Foreign Companies) สำหรับการประชุมคณะทำงานครั้งที่ผ่านมา ที่ประชุมเห็นว่า ระบบการทำประมงแบบลงทุนร่วมกัน(joint venture scheme) ตามนโยบาย The New Policy on Capture Fisheries ในทางปฏิบัติยังไม่มีความชัดเจนทั้งในเรื่องของการตั้งบริษัทร่วมทุน การชักธง พื้นที่ทำการประมง ค่าใบอนุญาตทำการประมงที่จะต้องจ่าย สัดส่วนลูกเรือประมงระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย ส่วนแบ่งการจับ(catch sharing) ท่าเทียบเรือ จุดตรวจ ภาษีส่งออก การขนถ่ายและการนำปลากลับประเทศ รวมถึงข้อบังคับในเรื่องการลงทุนตั้งโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการทำประมงบนฝั่งอินโดนีเซีย ดังนั้น Mr.Freddy Numberi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการทางทะเลและการประมงอินโดนีเซียจึงได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอเชิญประชุมหารือในความร่วมมือด้านการประมงไทย-อินโดนีเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับ Bilateral Arrange ment ฉบับเดิมที่ถูกยกเลิกไป ก่อนที่จะบังคับให้ไปใช้นโยบายประมงใหม่ด้วยการทำประมงแบบร่วมทุนในปี 2549 เท่านั้น
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 8 - 14 ต.ค. 48) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,225.11 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 562.76 ตัน สัตว์น้ำจืด 662.35 ตัน ประกอบด้วยสัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 5.22 ตัน
1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 5.66 ตัน
1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 95.74 ตัน
1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 5.80 ตัน
1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 30.90 ตัน
การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 28.70 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 28.40 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.30 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯไม่มีรายงานราคาจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 62.40 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 62.72 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.32 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯเฉลี่ยกิโลกรัมละ 100.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 94.29 บาท ของสัปดาห์ก่อน 5.71 บาท
2.3 กุ้งกุลาดำ ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 151.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 135.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 142.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 7.00 บาท
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 149.48 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 147.02 บาท ของสัปดาห์ก่อน 2.46 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 145.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 148.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 3.00 บาท
2.5 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 36.23 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 35.35 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.88 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 50.29 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 51.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.71 บาท
2.6 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้ ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 120.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 121.43 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.10 บาท
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 4.56 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 4.46 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.10 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% (ระหว่างวันที่ 17 - 21 ต.ค. 2548) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 19.40 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 19.60 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.20 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 41 ประจำวันที่ 17-23 ต.ค.2548--
-พห-