ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 07 พฤษภาคม 2550 - 13 พฤษภาคม 2550
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 7-8 พ.คและ 11-13 พ.ค. ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค เกษตรกรที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับ ผู้ที่ปลูกพืชในระยะนี้ควรยกร่องแปลงปลูก และทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกด้วย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 7-8 พ.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ทางตอนล่างของภาคต่อจากนั้นฝนจะลดลง โดยจะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะฝนตกหนัก และน้ำท่วม สำหรับผู้ที่ปลูกพืชไร่ในระยะนี้ควรเลือกพันธุ์ที่ทนทานต่อโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราด้วย
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความสียหายจากสภาวะฝนตกหนัก และน้ำท่วมฉับพลัน อนึ่งระยะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาลเกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยเนื่องจากร่างกายปรับตัวไม่ทัน
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังป้องกันอันตรายและความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนชาวสวนผลไม้ควรเก็บผลที่ร่วงหล่นเน่าเสียไปกำจัดไม่ควรกองสุมไว้ในสวนเพราะจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ทางตอนบนของภาค ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนของต้นพืชนาน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศและตายได้ ส่วนชาวสวนยางพาราควรดูแลบริเวณสวนให้โล่งเตียนอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ทางตอนบนของภาค ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนของต้นพืชนาน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศและตายได้ ส่วนชาวสวนยางพาราควรดูแลบริเวณสวนให้โล่งเตียนอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-