7.8 ปลาสวยงามเป็นหนึ่งในสินค้าเกษตรที่ยังมีลู่ทางในการขยายตลาดส่งออก เนื่องจากความต้องการในตลาดโลกยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ไทยมีปัจจัยพื้นฐานในเรื่องความพร้อมทางศักยภาพการเลี้ยงและการพัฒนาสายพันธุ์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญผลักดันให้ไทยก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับประเทศผู้ส่งออกปลาสวยงามที่สำคัญของโลกได้ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยปลา-สวยงามของไทยได้รับการยอมรับมากขึ้นทั้งในด้านความหลากหลายของสายพันธุ์ ความสวยงาม ราคาไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง และมีการพัฒนามาตรฐานการเลี้ยงรวมทั้งการควบคุมคุณภาพและการกักกันโรคของปลาสวยงามในการส่งออกให้เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามการแข่งขันในการส่งออกปลาสวยงามในตลาดโลกมีแนวโน้มเข้มข้น โดยคู่แข่ง เช่น สิงคโปร์ก็ยังคง เร่งพัฒนาเพื่อรักษาตำแหน่งประเทศผู้ส่งออกปลาสวยงามมากที่สุดในโลกต่อไป ในขณะที่คู่แข่ง ที่กำลังมแรงอย่างมาเลเซียและเวียดนามต่างกำหนดแผนพัฒนาการผลิตและการตลาดปลาสวยงาม โดยมีเป้าหมายในการเจาะขยายตลาดส่งออก และเป็นศูนย์กลางการผลิตปลาสวยงามที่มีคุณภาพอันดับหนึ่งของโลก ทั้งนี้การค้าปลาสวยงามในตลาดโลกนั้นผลผลิตกว่า 50% มาจากตลาดทางเอเชีย โดยสิงคโปร์จัดเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในการส่งออกปลาสวยงามของโลก โดยมีส่วนแบ่งในตลาดการค้าปลาสวยงาม 21.5% รองลงมาคือมาเลเซีย 8.9% สาธารณรัฐเช็ก 7.8% สเปน 7.0% ญี่ปุ่น 6.7% และอินโดนีเซีย 5.7% ส่วนไทยนั้นอยู่ในอันดับที่ 7 มีส่วนแบ่งในตลาดโลก 5.0% นอกจากนี้ยังมีประเทศใหม่ๆที่มีการพัฒนาตลาดปลาสวยงามในประเทศ และก้าวขึ้นมาเป็นประเทศผู้ส่งออกปลาสวยงาม ซึ่งประเทศที่น่าจับตามองในปัจจุบัน คือ มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งรัฐบาลของทั้งสองประเทศนี้มีการกำหนดแผนพัฒนาการผลิตและการส่งออกปลาสวยงามอย่างชัดเจน ทั้งนี้ตลาดนำเข้าปลาสวยงามที่สำคัญของโลกยังคงเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากการเลี้ยงปลาสวยงามยังจัดเป็นงานอดิเรกที่มีต้นทุนสูง เมื่อเทียบกับการเลี้ยงสัตว์ประเภทอื่นๆ ตลาดนำเข้าปลาสวยงามที่สำคัญ คือ สหภาพยุโรปมีสัดส่วนการนำเข้าแต่ละปีประมาณ 38.0% โดยเฉพาะอังกฤษ 10.3% เยอรมนี 8.7% และฝรั่งเศส 7.4% รองลงมาคือตลาดญี่ปุ่น 18.0% และสหรัฐฯ 15.8% นอกจากนี้ยังมีการนำเข้าของสิงคโปร์ โดยการนำเข้าของสิงคโปร์นั้นเป็นการนำเข้าเพื่อส่งออกไปยังประเทศที่สาม ทำให้สิงคโปร์นั้นได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางในการค้าปลาสวยงามของโลก
ไทยประสบความสำเร็จในการเจาะขยายตลาดส่งออกปลาสวยงามอย่างน่าพอใจ ปัจจุบันไทยส่งออกปลาสวยงามไปสู่ประเทศต่างๆมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก โดยปลากัดเป็นปลาสวยงามที่มีการส่งออกมากที่สุด ส่วนปลาที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันคือ ปลาหางไหม้ ปลาน้ำผึ้ง ปลาทรงเครื่อง ปลากาแดง ปลาเทศบาล ปลาปล้องอ้อย และปลาชะโด เนื่องจากปลาเหล่านี้มีความสวยงามและมีลักษณะความแปลกเฉพาะตัว ประเทศคู่ค้าปลาสวยงามหลักของไทยอยู่ที่สหรัฐฯและสหภาพยุโรป ซึ่งนิยมสั่งซื้อปลาสวยงามขนาดเล็กราคาต่ำ และส่วนใหญ่เป็นปลาพื้นบ้าน เช่น ปลากัด ปลาคราฟท์ขนาดเล็ก 3-4 นิ้ว ปลาหางนกยูง ปลาทอง ปลาเทวดา ปลาปอมปาดัวร์ เป็นต้น ยังประสบปัญหาไม่สามารถผลิตได้ทันกับความต้องการของตลาดต่างประเทศ ทำให้ไทยเสียโอกาสในการส่งออก ดังนั้นถ้ามีการอนุญาตให้มีการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ปลา ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เพาะเลี้ยงปลาสวยงามของไทยเร่งปริมาณการผลิตลูกปลาเพื่อการส่งออกได้อย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น นอกจากนี้อุปสรรคสำคัญที่ทำให้ไทยยังเป็นรองหลายประเทศในการผลิตและส่งออกปลาสวยงาม คือ ระเบียบและกฎหมายการนำเข้าปลาบางสายพันธุ์เพื่อมาเพาะพันธุ์ภายในประเทศก่อนการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ
ที่มา: http://www.depthai.go.th