แท็ก
ภูมิอากาศ
ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย และประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศทั้งหลายที่เห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว และได้ให้สัตยาบันเข้าร่วมเป็นภาคีกรอบอนุสัญญานี้เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๓๗ และลงนามให้สัตยาบันในพิธีสารเกียวโต ซึ่งเป็นพิธีสารภายใต้อนุสัญญาฯ เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๕ ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินงานตามพันธกรณีอนุสัญญาดังกล่าว ซึ่งกำหนดให้ทุกประเทศที่เป็นภาคีต้องรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและกิจกรรมที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นไปโดยเรียบร้อย สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของอนุสัญญาฯ จึงสมควรที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติจะได้ร่วมกันพิจารณาศึกษาและกระตุ้นให้รัฐบาลตระหนักเพื่อเตรียมแผนรองรับการดำเนินงาน โดยควรบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาค ประชาสังคม มีส่วนร่วมในการช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย นอกจากนี้จะต้องเผยแพร่ความรู้ เกี่ยวกับภาวะโลกร้อน ต้นเหตุที่ทำให้โลกร้อนขึ้น แนวทางในการป้องกันและแก้ไขเพื่อให้ประชาชนทราบและตระหนักถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
จากนั้นสมาชิกฯ ได้อภิปรายเห็นด้วยกับญัตติดังกล่าว ทั้งนี้ประมาณปลายเดือนมิถุนายนนี้คณะกรรมาธิการการต่างประเทศร่วมกับคณะกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน และคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จะจัดการสัมมนาภาวะโลกร้อน โดยจะเชิญผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย
๖.๓ ญัตติ เรื่อง ขอเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญการบริหารจัดการน้ำ
เพื่อการพลังงานและอุตสาหกรรมในภาคใต้ ของนายธีรพจน์ จรูญศรี เป็นผู้เสนอ โดยนายธีรพจน์ จรูญศรี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อภิปรายว่า ปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายที่จะพัฒนาพื้นที่ภาคใต้เป็นเขตอุตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรมการผลิต และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ แต่ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ในเขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออก จึงก่อให้เกิดปัญหาต่อการดำเนินงานของรัฐขึ้น ซึ่งปัญหาสำคัญประการหนึ่งคือ การขาดแคลนแหล่งน้ำ ที่จะใช้เป็นปัจจัยเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตพลังงานและอุตสาหกรรมในพื้นที่ และเพื่อประสิทธิผลของการพลังงานและอุตสาหกรรมทั้งระบบที่จำเป็นต้องอาศัยแหล่งน้ำเป็นปัจจัยหลักในการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีการริเริ่มศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการบริหารจัดการแหล่งน้ำสำคัญต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจขยายความรุนแรงขึ้นเป็นลำดับในอนาคต รวมทั้งเพื่อพัฒนาเขตอุตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรมการผลิต และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ตามแนวนโยบายของรัฐบาล
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยเป็นเอกฉันท์กับญัตติดังกล่าว และตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณา จำนวน ๑๕ คน ประกอบด้วย สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๘ คน และบุคคลภายนอกที่มิได้เป็นสมาชิก จำนวน ๗ คน กำหนดระยะเวลาการพิจารณาศึกษา ๙๐ วัน
๖.๔ ญัตติ เรื่อง ขอเสนอญัตติให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติให้จัดทำ
สื่อสิ่งพิมพ์เผยแพร่คำวินิจฉัยของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญคดียุบพรรคการเมือง ของพลเอก ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ เป็นผู้เสนอ ซึ่งพลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ติดภารกิจ จึงมอบหมายให้ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เสนอญัตติว่า ตามที่ คณะตุลาการรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคการเมือง ซึ่งประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พรรคไทยรักไทย พรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคแผ่นดินไทย เมื่อวันพุธที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ซึ่งถือว่าเป็นคดีประวัติศาสตร์ทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงควรทำให้ประชาชนได้มีความเข้าใจถึงเหตุผลของการปฏิรูป อันเป็นสาระประโยชน์ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ในรูปของ สื่อสิ่งพิมพ์ โดยขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติให้จัดทำสื่อสิ่งพิมพ์คำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคการเมือง โดยขออนุญาตจากตุลาการรัฐธรรมนูญในการนำคำวินิจฉัยกลางและ คำวินิจฉัยส่วนตนมาจัดทำเป็นสื่อสิ่งพิมพ์เพื่อเป็นประโยชน์ต่อไป
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ ให้จัดทำสื่อสิ่งพิมพ์เผยแพร่คำวินิจฉัยของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญคดียุบพรรคการเมือง โดยจัดพิมพ์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
๗. เรื่องอื่น ๆ
๗.๑ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและส่งเสริมการสร้างคุณธรรม
และจริยธรรมแก่นักการเมือง ข้าราชการ และประชาชน แจ้งว่า ระยะเวลาการปฏิบัติงานของ คณะกรรมาธิการชุดนี้จะครบกำหนดในวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐ แต่คณะกรรมาธิการจำเป็นต้องดำเนินการรวบรวมข้อมูลศึกษาพิจารณาต่อ จึงขอขยายเวลาออกไปอีก ๙๐ วัน
ที่ประชุมเห็นชอบ
๗.๒ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาการเดินทาง
ไปประกอบพิธีฮัจย์ของชาวมุสลิมในประเทศ แจ้งว่า ระยะเวลาการปฏิบัติงานของคณะกรรมาธิการ ชุดนี้จะครบกำหนดในวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐ แต่คณะกรรมาธิการจำเป็นต้องดำเนินการศึกษา ข้อมูลต่อไป จึงขอขยายเวลาออกไปอีก ๙๐ วัน
ที่ประชุมเห็นชอบ
ปิดประชุมเวลา ๑๙.๓๐ นาฬิกา
--------------------------------------------
จากนั้นสมาชิกฯ ได้อภิปรายเห็นด้วยกับญัตติดังกล่าว ทั้งนี้ประมาณปลายเดือนมิถุนายนนี้คณะกรรมาธิการการต่างประเทศร่วมกับคณะกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน และคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จะจัดการสัมมนาภาวะโลกร้อน โดยจะเชิญผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย
๖.๓ ญัตติ เรื่อง ขอเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญการบริหารจัดการน้ำ
เพื่อการพลังงานและอุตสาหกรรมในภาคใต้ ของนายธีรพจน์ จรูญศรี เป็นผู้เสนอ โดยนายธีรพจน์ จรูญศรี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อภิปรายว่า ปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายที่จะพัฒนาพื้นที่ภาคใต้เป็นเขตอุตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรมการผลิต และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ แต่ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ในเขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออก จึงก่อให้เกิดปัญหาต่อการดำเนินงานของรัฐขึ้น ซึ่งปัญหาสำคัญประการหนึ่งคือ การขาดแคลนแหล่งน้ำ ที่จะใช้เป็นปัจจัยเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตพลังงานและอุตสาหกรรมในพื้นที่ และเพื่อประสิทธิผลของการพลังงานและอุตสาหกรรมทั้งระบบที่จำเป็นต้องอาศัยแหล่งน้ำเป็นปัจจัยหลักในการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีการริเริ่มศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการบริหารจัดการแหล่งน้ำสำคัญต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจขยายความรุนแรงขึ้นเป็นลำดับในอนาคต รวมทั้งเพื่อพัฒนาเขตอุตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรมการผลิต และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ตามแนวนโยบายของรัฐบาล
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยเป็นเอกฉันท์กับญัตติดังกล่าว และตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณา จำนวน ๑๕ คน ประกอบด้วย สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๘ คน และบุคคลภายนอกที่มิได้เป็นสมาชิก จำนวน ๗ คน กำหนดระยะเวลาการพิจารณาศึกษา ๙๐ วัน
๖.๔ ญัตติ เรื่อง ขอเสนอญัตติให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติให้จัดทำ
สื่อสิ่งพิมพ์เผยแพร่คำวินิจฉัยของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญคดียุบพรรคการเมือง ของพลเอก ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ เป็นผู้เสนอ ซึ่งพลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ติดภารกิจ จึงมอบหมายให้ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เสนอญัตติว่า ตามที่ คณะตุลาการรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคการเมือง ซึ่งประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พรรคไทยรักไทย พรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคแผ่นดินไทย เมื่อวันพุธที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ซึ่งถือว่าเป็นคดีประวัติศาสตร์ทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงควรทำให้ประชาชนได้มีความเข้าใจถึงเหตุผลของการปฏิรูป อันเป็นสาระประโยชน์ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ในรูปของ สื่อสิ่งพิมพ์ โดยขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติให้จัดทำสื่อสิ่งพิมพ์คำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคการเมือง โดยขออนุญาตจากตุลาการรัฐธรรมนูญในการนำคำวินิจฉัยกลางและ คำวินิจฉัยส่วนตนมาจัดทำเป็นสื่อสิ่งพิมพ์เพื่อเป็นประโยชน์ต่อไป
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ ให้จัดทำสื่อสิ่งพิมพ์เผยแพร่คำวินิจฉัยของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญคดียุบพรรคการเมือง โดยจัดพิมพ์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
๗. เรื่องอื่น ๆ
๗.๑ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและส่งเสริมการสร้างคุณธรรม
และจริยธรรมแก่นักการเมือง ข้าราชการ และประชาชน แจ้งว่า ระยะเวลาการปฏิบัติงานของ คณะกรรมาธิการชุดนี้จะครบกำหนดในวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐ แต่คณะกรรมาธิการจำเป็นต้องดำเนินการรวบรวมข้อมูลศึกษาพิจารณาต่อ จึงขอขยายเวลาออกไปอีก ๙๐ วัน
ที่ประชุมเห็นชอบ
๗.๒ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาการเดินทาง
ไปประกอบพิธีฮัจย์ของชาวมุสลิมในประเทศ แจ้งว่า ระยะเวลาการปฏิบัติงานของคณะกรรมาธิการ ชุดนี้จะครบกำหนดในวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐ แต่คณะกรรมาธิการจำเป็นต้องดำเนินการศึกษา ข้อมูลต่อไป จึงขอขยายเวลาออกไปอีก ๙๐ วัน
ที่ประชุมเห็นชอบ
ปิดประชุมเวลา ๑๙.๓๐ นาฬิกา
--------------------------------------------