ไทย-ปากีสถาน ร่วมศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำเขตการค้าเสรี โดยหวังให้มีการบยายตัวทางการค้าร่วมกัน ซึ่งปากีสถานชูจุดเด่น เรื่องการค้าบริการ และการอำนวยความสะดวกทางการค้า ในขณะที่สองฝ่ายมีความพร้อมด้านศุลกากรที่เป็นมาตรฐานสากล
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยและปากีสถาน ได้ร่วมกันจัดตั้งคณะศึกษาร่วม (Joint Study Group : JSG) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำเขตการค้าเสรีไทย-ปากีสถาน โดยการศึกษาจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ และเมื่อวันที่ 29-31 มกราคม 2550 ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุม JSG ไทย-ปากีสถาน ครั้งที่ 4 ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นที่ยังคงค้างจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา โดยปากีสถานเสนอเรื่องการค้าบริการ การอำนวยความสะดวกทางการค้าของทั้งสองประเทศ โดยชี้ให้เห็นว่า ปากีสถานมีนโยบายเปิดเสรีการค้าบริการ ที่เปิดกว้างกว่าไทย เนื่องจากปากีสถานต้องการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ โดยสาขาที่มีศักยภาพในการแข่งขัน คือ โทรคมนาคม การเงินการธนาคาร และการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกทางการค้า โดยเฉพาะด้านศุลกากรที่เป็นมาตรฐานสากล อันจะเอื้อประโยชน์ต่อการค้าของสองประเทศ
ทั้งนี้ ในเบื้องต้น คณะศึกษาร่วมฯ พบว่าการจัดทำเขตการค้าเสรี ไทย-ปากีสถาน จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศอย่างมาก ในแง่การขยายตัวทางการค้า เนื่องจากอัตราภาษีสินค้าจะต่ำลง หรือถูกยกเลิกไปในที่สุด และการเจรจาให้มีการลด หรือยกเลิกอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษีต่างๆ จะทำให้การนำเข้าและส่งออกขยายตัวมากขึ้น รวมทั้งการเปิดเสรีด้านการค้าบริการและการลงทุน จะก่อให้เกิดการขยายตัวของผลผลิต และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ทำให้สวัสดิการทางสังคมดีขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมของทั้งสองประเทศขยายตัว ซึ่งคาดว่ารายงานของคณะศึกษาร่วมฯ จะเสร็จสมบูรณ์พร้อมเสนอกรมฯ ได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ศกนี้
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630
-พห-