วันนี้ (12 ก.พ. 50) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิ ปัตย์ แถลงว่า กรณี ที่มีกระแสข่าวเรื่องซินแสได้ทัก พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะกลับมา เป็นใหญ่อีกภายใน 2 ปี นั้น เรื่องนี้ คิดว่าเป็นหนึ่งในหลาย ๆ วิธีการของการ สร้างกระแสในเชิงการข่าว และทางจิตวิทยาให้แก่สมาชิกพรรคไทยรักไทยมากกว่า เพราะพรรค ไทยรักไทยในขณะนี้อยู่ในภาวะระส่ำระสาย สมาชิกเริ่มลาออก จากพรรคเป็นระยะ ๆ ซึ่งเป็นปรากฎการณ์เลือดไหลออกไม่หยุด ทั้ง ๆ ที่มีการออกมา ให้สัมภาษณ์ตัดกระแสข่าวนี้เป็นระยะแล้วก็ตาม ก็ยังมีการลาออกจากสมาชิกพรรคไทย รักไทยเหมือนเดิมล่าสุดคือ กลุ่ม ลำตะคอง และกลุ่มวังพญานาค เพราะฉะนั้นการออกมาสร้างข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะกลับมาเป็นใหญ่อีกใน 2 ปี ก็เพื่อจะสร้างความคาดหวังให้กับสมาชิกเพื่อคงอยู่กับพรรคต่อไป มิฉะนั้น สมาชิกก็จะลาออกจนหมดพรรค ตอนนี้ที่ยังคงเหลือสมาชิกก็เพราะความหวังลม ๆ แล้ง ๆ จาก พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้นเอง สำหรับกรณีที่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีต รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาชูเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงในการ บริหารประเทศ นั้น ดร.สมคิดเอง จะต้องชี้แจงแนวความคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงใน ทัศนะของตนเองให้สังคมเข้าใจถึงแก่นแท้ว่าเป็นอย่างไร เพราะวันนี้สังคมเริ่ม สับสนว่าตัวตนที่แท้จริงของดร.สมคิด มีแนวความคิดในเรื่องเศรษฐกิจอย่างไรกันแน่ เพราะ ดร.สมคิด คือผู้มีบทบาททางด้านเศรษฐกิจในรัฐบาลทักษิณคนหนึ่ง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของระบอบทักษิโนมิก ตัวจริง และสนับสนุน เศรษฐกิจระบบทุนนิยมมาโดยตลอด แต่วันนี้กลับมาชูเรื่องเศรษฐกิจพอ เพียง จึงทำให้คนมีข้อสงสัยว่า ดร.สมคิด เปลี่ยนแปลงแนวความคิดอย่างรวดเร็ว ด้วยสาเหตุอะไรกันแน่ ถ้าจะเป็นเพราะโหนกระแสเศรษฐกิจพอเพียง ก็อยากจะเรียกร้อง ให้ดร.สมคิด กลับไปทบทวนท่าทีของตนเองเสียใหม่ เพราะการเสนอตัว เป็นผู้นำชาติในอนาคตจะต้องเป็นผู้มีหลักการ อยู่กับร่องกับรอย ไม่ใช่วันนี้พูด อย่างพรุ่งนี้ทำอย่าง เหมือนกับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของตนเอง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 ก.พ. 2550--จบ--
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 ก.พ. 2550--จบ--