สรุปประเด็นสำคัญ
ดัชนีอุตสาหกรรมของเดือนตุลาคม 2549
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม = 169.87 ลดลงจากเดือนกันยายน 2549 (172.09) ร้อยละ 1.29 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี
ก่อน (162.28) ร้อยละ 4.68
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2549 ได้แก่ การผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่อง
คำนวณ การแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ การจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอรวมถึงการทอสิ่งทอ การผลิตมอลต์ลิกเคอและ
มอลต์ การผลิตอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น
- อัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย = 68.01 ลดลงเล็กน้อยจากเดือนกันยายน 2549 (68.26) ร้อยละ 0.4 และลดลงจากเดือนเดียว
กันของปีก่อน (68.75) ร้อยละ 1.1
ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในเดือนพฤศจิกายน 2549
- อุตสาหกรรมอาหาร คาดว่าการผลิตและการส่งออกจะขยายต่อเนื่องจากปริมาณคำสั่งซื้อสินค้าที่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในช่วงไตร
มาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงส่งท้ายปีที่มีเทศกาลสำคัญๆ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องโรคระบาดไก่ และการแข็งค่าเงินบาท นอกจากนี้สถานการณ์
อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทำการเกษตรอาจส่งผลต่อปริมาณวัตถุดิบที่จะเข้าสู่ภาคการผลิตเพื่อการส่งออกและบริโภคในระยะต่อไป
- อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม การผลิตผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป ในเดือนพฤศจิกายน 2549 คาดว่าจะปรับตัวในทิศทาง
ที่ดีขึ้นต่อเนื่องจนสิ้นปี แต่ ตลาดสิ่งทอฯ ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากประเทศที่มีต้นทุนแรงงานต่ำที่เพิ่มบทบาทขึ้นในตลาดโลก และปัญหาการ
แข็งค่าของค่า เงินบาท อาจส่งผลให้แข่งขันได้ลำบากมากขึ้นหรือผู้ประกอบการอาจจะต้องแสวงหาตลาดใหม่เพื่อลดผลกระทบจากความเสี่ยงจากตลาด
หลักโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย
- อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า สถานการณ์เหล็กในเดือน พ.ย. 2549 คาดว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยการผลิตเหล็ก
ทรงยาวอาจจะขยายตัวเล็กน้อย เพื่อใช้สำหรับการซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ตลอดจนถนนต่างๆ หลังจากเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศสำหรับ
การผลิตของเหล็กทรงแบนคาดการณ์ว่าจะชะลอตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการในประเทศที่ชะลอตัวอยู่ ขณะที่การส่งออกมีแนวโน้มที่ลดลง
เนื่องจากประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าที่สำคัญ มีความต้องการที่เริ่มอิ่มตัวและได้วางแผนที่จะลดปริมาณสินค้าคงคลังซึ่งมีอยู่จำนวนมาก
ให้ลดลงภายในระยะเวลา 6 เดือน จึงทำให้มีการนำเข้ามีแนวโน้มชะลอตัวลง
- อุตสาหกรรมยานยนต์ ภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายน 2549 คาดว่าขยายตัวขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนตุลาคม 2549
เนื่องจากเป็นช่วงฤดูการขาย ประกอบกับความชัดเจนของนโยบายทางเศรษฐกิจ กระแสความนิยมรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของผู้บริโภค และกิจกรรมการส่ง
เสริมการขาย ตลอดจนข้อเสนอการเช่าซื้อที่น่าสนใจของค่ายรถยนต์ต่างๆ
- อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ในเดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม 2549 คาดว่าการผลิตและการจำหน่ายในประเทศจะเพิ่มขึ้น เนื่องจาก
ความต้องการของตลาดที่เริ่มสูงขึ้นในไตรมาส 4 เพราะอยู่ในช่วงฤดูกาลก่อสร้าง สำหรับการส่งออกคาดว่าจะมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากธุรกิจ
อสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอเมริกายังอยู่ในภาวะชะลอตัว
- อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ภาวการณ์ผลิตและขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในเดือนพฤศจิกายน 2549 และไตรมาส 4 คาดว่า
ในกลุ่มภาพและเครื่องเสียง (AV) อาจจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปี เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลต่างๆ ส่วนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนพฤศจิกายนและ
ช่วงปลายปี คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงเช่นกัน เนื่องจากความต้องการสินค้า Consumer Electronic ของโลกที่ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เช่น
Notebook MP3 DVD Player เป็นต้น ซึ่งในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะอาศัยการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม
- ดัชนีอุตสาหกรรม
ก.ย. 49 = 172.09
ต.ค. 49 = 169.87
โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนี ลดลง ได้แก่
- การผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ
- การแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ
- การจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอรวมถึงการทอสิ่งทอ
- อัตราการใช้กำลังการผลิต
ก.ย. 49 = 68.26
ต.ค. 49 = 68.01
โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตทรงตัวโดยลดลงเล็กน้อย ได้แก่
- การจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอรวมถึงการทอสิ่งทอ
- การแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ
- การผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ
1.อุตสาหกรรมอาหาร
ภาวะการผลิตโดยรวมขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนและเดือนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่เดือนหน้าคาดว่าจะยังขยายตัวต่อเนื่องจากปริมาณ
คำสั่งซื้อสินค้าที่ปรับตัวตามฤดูกาล สำหรับการจำหน่ายในประเทศอาจชะลอตัวตามสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น
1. การผลิต
ภาวะการผลิตและการส่งออกปรับตัวก่อนร้อยละ 8.5 และ 0.2 โดยสินค้าสำคัญที่ผลิตเพื่อส่งออกขยายตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน ได้แก่ แป้ง
มันสำปะหลังร้อยละ 32.9 สำหรับการผลิตเพื่อใช้ในประเทศ ปาล์มน้ำมัน มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.9 และอาหารไก่ผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.6
โดยที่การใช้กำลังการผลิตในภาพรวมเพิ่มขึ้นจากปีก่อนและเดือนก่อน ร้อยละ 2.7 และ 0.4
2. การตลาด
1) ตลาดในประเทศ มูลค่าการจำหน่ายสินค้าอาหารเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนและเดือนก่อนร้อยละ 16.1 และ 2.9
เนื่องจากระดับราคาน้ำมันเริ่มชะลอตัวลง และมีการจับจ่ายใช้สอยทั้งในด้านอุปโภคบริโภคของภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้น
2) ตลาดต่างประเทศ ภาวะการส่งออกโดยรวม มีปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 50.2 และ 12.8 เมื่อเทียบกับปี
ก่อน โดยสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ ทูน่ากระป๋องมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ร้อยละ 36.7 สับปะรดกระป๋อง ร้อยละ 19.2
และผลิตภัณฑ์ข้าวร้อยละ 2.2 เป็นผลจากความเชื่อถือต่อภาพลักษณ์อาหารของไทย และคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล
3. แนวโน้ม
คาดว่าการผลิตและการส่งออกจะขยายต่อเนื่องจากปริมาณคำสั่งซื้อสินค้าที่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในช่วงไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงส่ง
ท้ายปีที่มีเทศกาลสำคัญๆ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องโรคระบาดไก่ และการแข็งค่าเงินบาท นอกจากนี้สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทำ
การเกษตรอาจส่งผลต่อปริมาณวัตถุดิบที่จะเข้าสู่ภาคการผลิตเพื่อการส่งออกและบริโภคในระยะต่อไป
2.อุตสาหกรรมน้ำตาล (กันยายน)
1. น้ำตาลทราย
1.1 การผลิต
ตั้งแต่มีการปิดหีบอ้อยเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2549 โรงงานน้ำตาลทั้ง 46 โรงงานในประเทศได้หยุดการผลิตน้ำตาลทราย
ดิบ แต่มีบางโรงงานได้นำน้ำตาลทรายดิบไปละลายเพื่อแปรสภาพเป็นน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ โดยมีการผลิตน้ำตาลทรายรวมตั้งแต่
เดือนมกราคม-กันยายน 2549 (9 เดือน) จำนวนทั้งสิ้น 4,388,073.00 ตัน ในจำนวนนี้เป็นน้ำตาลทรายดิบ จำนวน 1,613,101.69 ตัน หรือ
37% ของผลผลิตน้ำตาลทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์
1.2 การบริโภค
ในเดือนกันยายน 2549 มีการบริโภคน้ำตาลทรายในประเทศ จำนวน 186,346.16 ตัน เพิ่มขึ้น 4% จากเดือนก่อนหน้า
ซึ่งมีการบริโภค จำนวน 178,026.52 ตัน สำหรับการบริโภคโดยรวม ตั้งแต่เดือนมกราคม -- กันยายน 2549 (9 เดือน) มีจำนวนทั้งสิ้น
1,720,067.09 ตัน เพิ่มขึ้น 3% จากในช่วงเดียวกันของปี 2548
1.3 การส่งออก
ในเดือนกันยายน 2549 ประเทศไทยมีการส่งออกน้ำตาลจำนวน 310,483.57 ตัน เพิ่มขึ้น 37% จากเดือนสิงหาคม
2549 ซึ่งส่งออกได้จำนวน 197,179.60 ตัน และการส่งออกน้ำตาลตั้งแต่เดือนมกราคม -- กันยายน 2549 (9 เดือน) มีจำนวนทั้งสิ้น
1,560,722.75 ตัน เป็นการส่งออกน้ำตาลทรายดิบ 884,204.55 ตัน หรือ 57% ของปริมาณการส่งออกทั้งหมด โดยปริมาณการส่งออกในเดือน
กันยายนของปีนี้ลดลง 39% จากในช่วงเดียวกันของปี 2548
1.4 การนำเข้า
ในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม 2549 (8 เดือน) มีการนำเข้าน้ำตาลทราย จำนวนทั้งสิ้น 10,415.63 ตัน ส่วนในเดือน
กันยายนไม่มีการนำเข้าน้ำตาลทรายจากต่างประเทศ และปริมาณการนำเข้าน้ำตาลตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2549 ยังคงไม่เกินโควตานำเข้าภาย
ในกรอบ WTO ซึ่งประเทศไทยผูกพันไว้ที่ จำนวน 13,760 ตัน ที่อัตราภาษีนำเข้า 65% ส่วนอัตราภาษีนอกโควตาอยู่ที่ 94%
2. กากน้ำตาล
ในเดือนกันยายน 2549 มีการผลิตกากน้ำตาล จำนวน 354.3 ตัน ลดลง 71% จากในช่วงเดียวกันของปี 2548 ส่วนผลผลิตกากน้ำตาล
ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2549 (9 เดือน) มีจำนวนทั้งสิ้น 1,990,064.65 ตัน
การส่งออกกากน้ำตาลในเดือนกันยายน 2549 มีจำนวนทั้งสิ้น 26,600.00 ตัน หรือประมาณ 1% ของปริมาณการผลิตทั้งหมด ส่วนการส่ง
ออกตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2549 มีจำนวน 408,303.13 ตัน
3. อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
"...ปัญหาการแข็งค่าของค่าเงินบาทอาจส่งผลให้การแข่งขันได้ลำบากมากขึ้นหรือผู้ประกอบการอาจจะต้องแสวงหาตลาดใหม่เพื่อลดผล
กระทบจากความเสี่ยง..."
1. การผลิตและการจำหน่าย
ภาวะการผลิตเมื่อพิจารณาจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนตุลาคม 2549 การผลิตเส้นใยสิ่งทอฯ ลดลงร้อยละ 4.3 เมื่อเทียบกับ
เดือนก่อนและร้อยละ 11.9 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากมีการผลิตสะสมสินค้าในสต๊อกค่อนข้างมากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่การ
ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งที่ผลิตจากผ้าถักและผลิตจากผ้าทอ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9 และ 8.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ
6.0 และ 15.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
2. การส่งออกและตลาดส่งออก
มูลค่าการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในเดือนตุลาคม 2549 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 6.5 แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบ
กับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนได้แก่เสื้อผ้าสำเร็จรูป (+0.5%) ผ้าผืนที่ทำจากฝ้าย(+20.6%)
เคหะสิ่งทอ(+18.4%) เส้นใยประดิษฐ์ (+15.9%) ผ้าปักและผ้าลูกไม้ (+28.7%) และผ้าแบบสำหรับตัดเสื้อฯ (+41.2%) ตลาดส่งออกหลักคือ
สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป อาเซียนและญี่ปุ่น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30.0, 17.7, 13.3 และ 5.7 ตามลำดับ
3. การนำเข้า
การนำเข้าผลิตภัณฑ์สิ่งทอโดยรวมในเดือนตุลาคม 2549 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนและเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.2 และ 6.9 โดย
เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนนำเข้าเส้นใยฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.2 ตลาดนำเข้าหลัก คือสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และอินเดีย ด้ายทอ
ผ้าฯ นำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.3 ตลาดนำเข้าหลักคือจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน ผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ นำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.0 ตลาดนำเข้าหลักคือ
จีน ญี่ปุ่น และ ฮ่องกง
เสื้อผ้าสำเร็จรูปนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.4 ตลาดนำเข้าหลักคือจีน ฮ่องกง และอิตาลี ขณะที่นำเข้าเครื่องจักรสิ่งทอ เพิ่มขึ้นร้อย
ละ 4.9 ส่วนใหญ่นำเข้าจากญี่ปุ่น เยอรมนีและไต้หวัน สำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าลดลงได้แก่ผ้าผืน และวัตถุทออื่นๆ เนื่องจากมีการผลิตและส่งออกมาก
ขึ้น โดยเฉพาะผ้าผืนที่ผลิตจากฝ้าย
4. แนวโน้ม
การผลิตผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป ในเดือนพฤศจิกายน 2549 คาดว่าจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่องจนสิ้นปี แต่ ตลาดสิ่ง
ทอฯ ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากประเทศที่มีต้นทุนแรงงานต่ำที่เพิ่มบทบาทขึ้นในตลาดโลก และปัญหาการแข็งค่าของค่า เงินบาท อาจส่งผล
ให้แข่งขันได้ลำบากมากขึ้นหรือผู้ประกอบการอาจจะต้องแสวงหาตลาดใหม่เพื่อลดผลกระทบจากความเสี่ยงจากตลาดหลักโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็น
ตลาดส่งออกหลักของอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย
(ยังมีต่อ).../4.อุตสาหกรรม..
ดัชนีอุตสาหกรรมของเดือนตุลาคม 2549
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม = 169.87 ลดลงจากเดือนกันยายน 2549 (172.09) ร้อยละ 1.29 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี
ก่อน (162.28) ร้อยละ 4.68
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2549 ได้แก่ การผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่อง
คำนวณ การแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ การจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอรวมถึงการทอสิ่งทอ การผลิตมอลต์ลิกเคอและ
มอลต์ การผลิตอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น
- อัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย = 68.01 ลดลงเล็กน้อยจากเดือนกันยายน 2549 (68.26) ร้อยละ 0.4 และลดลงจากเดือนเดียว
กันของปีก่อน (68.75) ร้อยละ 1.1
ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในเดือนพฤศจิกายน 2549
- อุตสาหกรรมอาหาร คาดว่าการผลิตและการส่งออกจะขยายต่อเนื่องจากปริมาณคำสั่งซื้อสินค้าที่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในช่วงไตร
มาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงส่งท้ายปีที่มีเทศกาลสำคัญๆ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องโรคระบาดไก่ และการแข็งค่าเงินบาท นอกจากนี้สถานการณ์
อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทำการเกษตรอาจส่งผลต่อปริมาณวัตถุดิบที่จะเข้าสู่ภาคการผลิตเพื่อการส่งออกและบริโภคในระยะต่อไป
- อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม การผลิตผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป ในเดือนพฤศจิกายน 2549 คาดว่าจะปรับตัวในทิศทาง
ที่ดีขึ้นต่อเนื่องจนสิ้นปี แต่ ตลาดสิ่งทอฯ ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากประเทศที่มีต้นทุนแรงงานต่ำที่เพิ่มบทบาทขึ้นในตลาดโลก และปัญหาการ
แข็งค่าของค่า เงินบาท อาจส่งผลให้แข่งขันได้ลำบากมากขึ้นหรือผู้ประกอบการอาจจะต้องแสวงหาตลาดใหม่เพื่อลดผลกระทบจากความเสี่ยงจากตลาด
หลักโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย
- อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า สถานการณ์เหล็กในเดือน พ.ย. 2549 คาดว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยการผลิตเหล็ก
ทรงยาวอาจจะขยายตัวเล็กน้อย เพื่อใช้สำหรับการซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ตลอดจนถนนต่างๆ หลังจากเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศสำหรับ
การผลิตของเหล็กทรงแบนคาดการณ์ว่าจะชะลอตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการในประเทศที่ชะลอตัวอยู่ ขณะที่การส่งออกมีแนวโน้มที่ลดลง
เนื่องจากประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าที่สำคัญ มีความต้องการที่เริ่มอิ่มตัวและได้วางแผนที่จะลดปริมาณสินค้าคงคลังซึ่งมีอยู่จำนวนมาก
ให้ลดลงภายในระยะเวลา 6 เดือน จึงทำให้มีการนำเข้ามีแนวโน้มชะลอตัวลง
- อุตสาหกรรมยานยนต์ ภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายน 2549 คาดว่าขยายตัวขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนตุลาคม 2549
เนื่องจากเป็นช่วงฤดูการขาย ประกอบกับความชัดเจนของนโยบายทางเศรษฐกิจ กระแสความนิยมรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของผู้บริโภค และกิจกรรมการส่ง
เสริมการขาย ตลอดจนข้อเสนอการเช่าซื้อที่น่าสนใจของค่ายรถยนต์ต่างๆ
- อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ในเดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม 2549 คาดว่าการผลิตและการจำหน่ายในประเทศจะเพิ่มขึ้น เนื่องจาก
ความต้องการของตลาดที่เริ่มสูงขึ้นในไตรมาส 4 เพราะอยู่ในช่วงฤดูกาลก่อสร้าง สำหรับการส่งออกคาดว่าจะมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากธุรกิจ
อสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอเมริกายังอยู่ในภาวะชะลอตัว
- อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ภาวการณ์ผลิตและขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในเดือนพฤศจิกายน 2549 และไตรมาส 4 คาดว่า
ในกลุ่มภาพและเครื่องเสียง (AV) อาจจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปี เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลต่างๆ ส่วนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนพฤศจิกายนและ
ช่วงปลายปี คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงเช่นกัน เนื่องจากความต้องการสินค้า Consumer Electronic ของโลกที่ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เช่น
Notebook MP3 DVD Player เป็นต้น ซึ่งในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะอาศัยการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม
- ดัชนีอุตสาหกรรม
ก.ย. 49 = 172.09
ต.ค. 49 = 169.87
โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนี ลดลง ได้แก่
- การผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ
- การแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ
- การจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอรวมถึงการทอสิ่งทอ
- อัตราการใช้กำลังการผลิต
ก.ย. 49 = 68.26
ต.ค. 49 = 68.01
โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตทรงตัวโดยลดลงเล็กน้อย ได้แก่
- การจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอรวมถึงการทอสิ่งทอ
- การแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ
- การผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ
1.อุตสาหกรรมอาหาร
ภาวะการผลิตโดยรวมขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนและเดือนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่เดือนหน้าคาดว่าจะยังขยายตัวต่อเนื่องจากปริมาณ
คำสั่งซื้อสินค้าที่ปรับตัวตามฤดูกาล สำหรับการจำหน่ายในประเทศอาจชะลอตัวตามสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น
1. การผลิต
ภาวะการผลิตและการส่งออกปรับตัวก่อนร้อยละ 8.5 และ 0.2 โดยสินค้าสำคัญที่ผลิตเพื่อส่งออกขยายตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน ได้แก่ แป้ง
มันสำปะหลังร้อยละ 32.9 สำหรับการผลิตเพื่อใช้ในประเทศ ปาล์มน้ำมัน มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.9 และอาหารไก่ผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.6
โดยที่การใช้กำลังการผลิตในภาพรวมเพิ่มขึ้นจากปีก่อนและเดือนก่อน ร้อยละ 2.7 และ 0.4
2. การตลาด
1) ตลาดในประเทศ มูลค่าการจำหน่ายสินค้าอาหารเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนและเดือนก่อนร้อยละ 16.1 และ 2.9
เนื่องจากระดับราคาน้ำมันเริ่มชะลอตัวลง และมีการจับจ่ายใช้สอยทั้งในด้านอุปโภคบริโภคของภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้น
2) ตลาดต่างประเทศ ภาวะการส่งออกโดยรวม มีปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 50.2 และ 12.8 เมื่อเทียบกับปี
ก่อน โดยสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ ทูน่ากระป๋องมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ร้อยละ 36.7 สับปะรดกระป๋อง ร้อยละ 19.2
และผลิตภัณฑ์ข้าวร้อยละ 2.2 เป็นผลจากความเชื่อถือต่อภาพลักษณ์อาหารของไทย และคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล
3. แนวโน้ม
คาดว่าการผลิตและการส่งออกจะขยายต่อเนื่องจากปริมาณคำสั่งซื้อสินค้าที่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในช่วงไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงส่ง
ท้ายปีที่มีเทศกาลสำคัญๆ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องโรคระบาดไก่ และการแข็งค่าเงินบาท นอกจากนี้สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทำ
การเกษตรอาจส่งผลต่อปริมาณวัตถุดิบที่จะเข้าสู่ภาคการผลิตเพื่อการส่งออกและบริโภคในระยะต่อไป
2.อุตสาหกรรมน้ำตาล (กันยายน)
1. น้ำตาลทราย
1.1 การผลิต
ตั้งแต่มีการปิดหีบอ้อยเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2549 โรงงานน้ำตาลทั้ง 46 โรงงานในประเทศได้หยุดการผลิตน้ำตาลทราย
ดิบ แต่มีบางโรงงานได้นำน้ำตาลทรายดิบไปละลายเพื่อแปรสภาพเป็นน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ โดยมีการผลิตน้ำตาลทรายรวมตั้งแต่
เดือนมกราคม-กันยายน 2549 (9 เดือน) จำนวนทั้งสิ้น 4,388,073.00 ตัน ในจำนวนนี้เป็นน้ำตาลทรายดิบ จำนวน 1,613,101.69 ตัน หรือ
37% ของผลผลิตน้ำตาลทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์
1.2 การบริโภค
ในเดือนกันยายน 2549 มีการบริโภคน้ำตาลทรายในประเทศ จำนวน 186,346.16 ตัน เพิ่มขึ้น 4% จากเดือนก่อนหน้า
ซึ่งมีการบริโภค จำนวน 178,026.52 ตัน สำหรับการบริโภคโดยรวม ตั้งแต่เดือนมกราคม -- กันยายน 2549 (9 เดือน) มีจำนวนทั้งสิ้น
1,720,067.09 ตัน เพิ่มขึ้น 3% จากในช่วงเดียวกันของปี 2548
1.3 การส่งออก
ในเดือนกันยายน 2549 ประเทศไทยมีการส่งออกน้ำตาลจำนวน 310,483.57 ตัน เพิ่มขึ้น 37% จากเดือนสิงหาคม
2549 ซึ่งส่งออกได้จำนวน 197,179.60 ตัน และการส่งออกน้ำตาลตั้งแต่เดือนมกราคม -- กันยายน 2549 (9 เดือน) มีจำนวนทั้งสิ้น
1,560,722.75 ตัน เป็นการส่งออกน้ำตาลทรายดิบ 884,204.55 ตัน หรือ 57% ของปริมาณการส่งออกทั้งหมด โดยปริมาณการส่งออกในเดือน
กันยายนของปีนี้ลดลง 39% จากในช่วงเดียวกันของปี 2548
1.4 การนำเข้า
ในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม 2549 (8 เดือน) มีการนำเข้าน้ำตาลทราย จำนวนทั้งสิ้น 10,415.63 ตัน ส่วนในเดือน
กันยายนไม่มีการนำเข้าน้ำตาลทรายจากต่างประเทศ และปริมาณการนำเข้าน้ำตาลตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2549 ยังคงไม่เกินโควตานำเข้าภาย
ในกรอบ WTO ซึ่งประเทศไทยผูกพันไว้ที่ จำนวน 13,760 ตัน ที่อัตราภาษีนำเข้า 65% ส่วนอัตราภาษีนอกโควตาอยู่ที่ 94%
2. กากน้ำตาล
ในเดือนกันยายน 2549 มีการผลิตกากน้ำตาล จำนวน 354.3 ตัน ลดลง 71% จากในช่วงเดียวกันของปี 2548 ส่วนผลผลิตกากน้ำตาล
ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2549 (9 เดือน) มีจำนวนทั้งสิ้น 1,990,064.65 ตัน
การส่งออกกากน้ำตาลในเดือนกันยายน 2549 มีจำนวนทั้งสิ้น 26,600.00 ตัน หรือประมาณ 1% ของปริมาณการผลิตทั้งหมด ส่วนการส่ง
ออกตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2549 มีจำนวน 408,303.13 ตัน
3. อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
"...ปัญหาการแข็งค่าของค่าเงินบาทอาจส่งผลให้การแข่งขันได้ลำบากมากขึ้นหรือผู้ประกอบการอาจจะต้องแสวงหาตลาดใหม่เพื่อลดผล
กระทบจากความเสี่ยง..."
1. การผลิตและการจำหน่าย
ภาวะการผลิตเมื่อพิจารณาจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนตุลาคม 2549 การผลิตเส้นใยสิ่งทอฯ ลดลงร้อยละ 4.3 เมื่อเทียบกับ
เดือนก่อนและร้อยละ 11.9 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากมีการผลิตสะสมสินค้าในสต๊อกค่อนข้างมากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่การ
ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งที่ผลิตจากผ้าถักและผลิตจากผ้าทอ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9 และ 8.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ
6.0 และ 15.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
2. การส่งออกและตลาดส่งออก
มูลค่าการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในเดือนตุลาคม 2549 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 6.5 แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบ
กับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนได้แก่เสื้อผ้าสำเร็จรูป (+0.5%) ผ้าผืนที่ทำจากฝ้าย(+20.6%)
เคหะสิ่งทอ(+18.4%) เส้นใยประดิษฐ์ (+15.9%) ผ้าปักและผ้าลูกไม้ (+28.7%) และผ้าแบบสำหรับตัดเสื้อฯ (+41.2%) ตลาดส่งออกหลักคือ
สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป อาเซียนและญี่ปุ่น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30.0, 17.7, 13.3 และ 5.7 ตามลำดับ
3. การนำเข้า
การนำเข้าผลิตภัณฑ์สิ่งทอโดยรวมในเดือนตุลาคม 2549 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนและเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.2 และ 6.9 โดย
เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนนำเข้าเส้นใยฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.2 ตลาดนำเข้าหลัก คือสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และอินเดีย ด้ายทอ
ผ้าฯ นำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.3 ตลาดนำเข้าหลักคือจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน ผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ นำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.0 ตลาดนำเข้าหลักคือ
จีน ญี่ปุ่น และ ฮ่องกง
เสื้อผ้าสำเร็จรูปนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.4 ตลาดนำเข้าหลักคือจีน ฮ่องกง และอิตาลี ขณะที่นำเข้าเครื่องจักรสิ่งทอ เพิ่มขึ้นร้อย
ละ 4.9 ส่วนใหญ่นำเข้าจากญี่ปุ่น เยอรมนีและไต้หวัน สำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าลดลงได้แก่ผ้าผืน และวัตถุทออื่นๆ เนื่องจากมีการผลิตและส่งออกมาก
ขึ้น โดยเฉพาะผ้าผืนที่ผลิตจากฝ้าย
4. แนวโน้ม
การผลิตผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป ในเดือนพฤศจิกายน 2549 คาดว่าจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่องจนสิ้นปี แต่ ตลาดสิ่ง
ทอฯ ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากประเทศที่มีต้นทุนแรงงานต่ำที่เพิ่มบทบาทขึ้นในตลาดโลก และปัญหาการแข็งค่าของค่า เงินบาท อาจส่งผล
ให้แข่งขันได้ลำบากมากขึ้นหรือผู้ประกอบการอาจจะต้องแสวงหาตลาดใหม่เพื่อลดผลกระทบจากความเสี่ยงจากตลาดหลักโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็น
ตลาดส่งออกหลักของอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย
(ยังมีต่อ).../4.อุตสาหกรรม..