กรมการประกันภัยได้กำหนดลักษณะการใช้รถยนต์และอัตราเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ใหม่ โดยกำหนดให้ลักษณะการใช้รถจากเดิม “รับจ้าง/ให้เช่า” เป็น “รับจ้าง/ให้เช่า/สาธารณะ” พร้อมทั้งปรับอัตราเบี้ยประกันภัยรถจักรยานยนต์ที่ลักษณะการใช้รถเพื่อ “รับจ้าง/ให้เช่า/สาธารณะ” ขนาด 75-125 ซีซี จาก 300 บาทต่อคันต่อปี เป็น 350 บาทต่อคันต่อปี ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 4/2548 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2548 เป็นต้นไป
นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช อธิบดีกรมการประกันภัยกล่าวว่า เดิมกระทรวงคมนาคมยังไม่มีการกำหนดประเภทรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ใช้รับจ้างบรรทุกคนโดยสาร แต่ขณะนี้กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบกได้มีการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติรถยนต์(ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2547 กำหนดให้มีการจดทะเบียน “รถจักรยานยนต์สาธารณะ” สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ใช้รับจ้างบรรทุกคนโดยสาร โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2548 เป็นต้นไป ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้รับจ้างบรรทุกคนโดยสารที่ได้จดทะเบียนส่วนบุคคลมาก่อนหน้าที่พระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงการจดทะเบียนให้ถูกต้องภายในวันที่ 8 กันยายน 2548 ดังนั้น กรมการประกันภัยจึงได้กำหนดลักษณะการใช้รถและอัตราเบี้ยประกันภัยในการทำประกันภัยรถจักรยานยนต์สาธารณะไว้ด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติรถยนต์ดังกล่าว
นางสาวพจนีย์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2548 เป็นต้นไป เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ประสงค์จะใช้รถเพื่อรับจ้างบรรทุกคนโดยสาร ซึ่งนอกจากจะต้องจดทะเบียนเป็น “รถจักรยานยนต์สาธารณะ” ตามกฎหมายของกระทรวงคมนาคมแล้ว จะต้องจัดทำประกันภัย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ตามลักษณะการใช้รถและอัตราเบี้ย ประกันภัยที่กำหนดขึ้นใหม่ด้วย เพื่อประโยชน์ของตนเองและผู้ประสบภัยจากรถกรณีเกิดอุบัติเหตุ
หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการประกันภัยรถ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กรมการประกันภัย โทร.02-547-4524 หรือสายด่วนประกันภัย 1186 กลุ่มคุ้มครองผู้เอา ประกันภัยเขตทุกเขตและสำนักงานประกันภัยจังหวัดทุกจังหวัด
ที่มา: http://www.doi.go.th