ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคเหนือเดือนมีนาคม 2550 ชะลอลงจากเดือนก่อน ด้านอุปทาน แม้ว่าราคาพืชผลหลักขยายตัวในเกณฑ์ดีแต่รายได้เกษตรกรขยายตัวในอัตราชะลอลงจากผลผลิตสำคัญลดลง การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงขยายตัวจากการผลิตของอุตสาหกรรมส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ ขณะที่ภาคบริการลดลงตามฤดูกาลเมื่อเทียบกับเดือนก่อนอีกทั้งได้รับผลกระทบของปัญหาหมอกควันทางภาคเหนือตอนบน ทางด้านอุปสงค์ การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนยังคงชะลอลงตามการระมัดระวังการใช้จ่ายของผู้บริโภค ส่วนการลงทุนภาคเอกชนลดลงโดยเฉพาะหมวดก่อสร้าง การส่งออกและนำเข้าลดลง ดัชนีราคาผู้บริโภคชะลอตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน ส่วนเงินฝากและเงินให้สินเชื่อขยายตัว
ไตรมาสแรกปี 2550 เศรษฐกิจการเงินภาคเหนือขยายตัวในอัตราชะลอลงจากไตรมาสก่อน ด้านอุปทาน รายได้เกษตรกรเร่งตัวขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนจากผลผลิตพืชหลักที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาชะลอลง การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพื่อส่งออกชะลอตัวตามการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนภาคบริการขยายตัวในอัตราลดลงโดยได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันในเดือนมีนาคม ทางด้านอุปสงค์ การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนชะลอลงตามการใช้จ่ายของผู้บริโภค เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอตัวโดยเฉพาะการก่อสร้าง ส่วนการลงทุนเพื่อการผลิตยังขยายตัว การส่งออกลดลงจากความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางประเภทลดลงและการย้ายทำพิธีการส่งออกไปที่ส่วนกลาง ส่วนการนำเข้าลดลงตามความต้องการนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ลดลง ดัชนีราคาผู้บริโภคชะลอตัว ส่วนเงินฝากและเงินให้สินเชื่อขยายตัว
รายละเอียดของแต่ละภาคเศรษฐกิจ มีดังนี้
1. ภาคเกษตร เดือนมีนาคม 2550 รายได้เกษตรกรจากการจำหน่ายพืชผลหลักในภาคเหนือขยายตัวร้อยละ 8.6 ชะลอลงจากเดือนก่อนและระยะเดียวกันปีก่อน ราคาพืชผลหลักสูงขึ้นร้อยละ 10.3 โดยราคาอ้อยโรงงานสูงขึ้นร้อยละ 2.3 ตามค่าความหวานเฉลี่ยที่สูงขึ้น กระเทียมและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.6 และร้อยละ 52.3 ตามลำดับ จากผลผลิตที่ลดลงมาก ส่วนหอมแดง มันสำปะหลัง และหอมหัวใหญ่ ราคาลดลงร้อยละ 67.8 ร้อยละ 12.6 และร้อยละ 44.4 ตามลำดับ ทางด้านผลผลิตพืชหลักลดลงร้อยละ 1.7 เป็นผลจากผลผลิตข้าวนาปรังลดลงร้อยละ 7.0 จากการเพาะปลูกที่ลดลงเมื่อช่วงปลายปีก่อนเพราะประสบปัญหาน้ำท่วม โดยเกษตรกรได้เลื่อนการเพาะปลูกมาเป็นช่วงต้นปีนี้ ส่วนผลผลิตกระเทียม และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ลดลงร้อยละ 8.7 และร้อยละ 2.6 ตามการลดลงของพื้นที่เพาะปลูก ส่วนผลผลิตอ้อยเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.0 เนื่องจากราคาในปีก่อนสูงจูงใจให้เกษตรกรเพิ่มการผลิต
ไตรมาสแรกปี 2550 รายได้ของเกษตรกรในภาคเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 สูงกว่าไตรมาสก่อนแต่ชะลอลงจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยราคาผลผลิตพืชหลักสูงขึ้นร้อยละ 8.0 ชะลอลงจากไตรมาสก่อน ราคาผลผลิตสำคัญที่สูงขึ้น ได้แก่ อ้อยโรงงาน ราคาสูงขึ้นร้อยละ 2.3 จากค่าความหวานเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ข้าวเปลือกเหนียวนาปีราคาสูงขึ้นร้อยละ 68.5 ตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะประเทศจีน กระเทียมและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาสูงขึ้นร้อยละ 47.3 และร้อยละ 46.1 ตามลำดับ ส่วนราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี มันสำปะหลัง หอมแดง และหอมหัวใหญ่ ลดลงร้อยละ 1.5 ร้อยละ 17.2 ร้อยละ 36.4 และร้อยละ 12.3 ตามลำดับ ทางด้านผลผลิตพืชหลักเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 เทียบกับที่ลดลงไตรมาสก่อน โดยอ้อยโรงงาน หอมแดง เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.0 และร้อยละ 1.0 ตามลำดับ ตามราคาของปีก่อนที่อยู่ในเกณฑ์สูงจูงใจให้เกษตรกรเพิ่มการผลิต และมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.1 เนื่องจากเกษตรกรส่วนหนึ่งปลูกทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่วนข้าวนาปรัง กระเทียม และข้าวนาปีลดลงร้อยละ 7.0 ร้อยละ 8.7 และร้อยละ 3.9 ตามลำดับ
2. ภาคอุตสาหกรรม เดือนมีนาคม 2550 การผลิตภาคอุตสาหกรรมในภาคเหนือขยายตัวโดยข้อมูลเบื้องต้นการผลิตเพื่อส่งออกในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 7.5 เป็น 189.6 ล้านดอลลาร์ สรอ. เร่งตัวจากเดือนก่อน โดยเพิ่มขึ้นมากจากการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประเภทเครื่องช่วยฟังจากความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น ส่วนการผลิต Glass Magnetic Disk ลดลงร้อยละ 14.3 การผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 56.5 เป็น 498.6 พันเมตริกตัน เร่งตัวจากเดือนก่อน จากปริมาณอ้อยเข้าหีบในเดือนนี้ 4.2 ล้านตัน สูงกว่าระยะเดียวกันปีก่อน การผลิตเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 ชะลอลงจากเดือนก่อน เนื่องจากผู้ประกอบการได้เร่งผลิตไว้แล้วในช่วงก่อนหน้า ส่วนการผลิตหมวดวัสดุก่อสร้างลดลงร้อยละ 1.9 เทียบกับที่ลดลงร้อยละ 10.4 เดือนก่อน
ไตรมาสแรกปี 2550 การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราชะลอลงจากไตรมาสก่อน โดยข้อมูลเบื้องต้นการผลิตเพื่อส่งออกในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.2 เป็น 479.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. ชะลอตัวจากไตรมาสก่อน ตามการลดลงของสินค้า Glass Magnetic Disk อย่างไรก็ดี การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประเภทเครื่องช่วยฟังเพิ่มขึ้นจากความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการผลิตเลนส์สำหรับกล้องถ่ายรูปและการเจียระไนเพชรเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 และร้อยละ 0.4 ตามลำดับ ด้านผลผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.2 เป็น 1,645.7 พันเมตริกตัน โดยมีปริมาณอ้อยเข้าหีบเพิ่มขึ้น การผลิตเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.2 เร่งตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วนการผลิตหมวดวัสดุก่อสร้างลดลงร้อยละ 9.0 เทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 ไตรมาสก่อน ตามการลงทุนในการก่อสร้างที่ซบเซา
3. ภาคบริการ เดือนมีนาคม 2550 ลดลงตามฤดูกาลเมื่อเทียบกับเดือนก่อนจากกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ลดลงผนวกกับจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญในภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควัน ทำให้มีการยกเลิกเที่ยวบินโดยเฉพาะจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมทั้งมีการยกเลิกการจองห้องพักจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 9.6 อัตราการเข้าพักโรงแรมลดลงร้อยละ 1.5 เหลือร้อยละ 50.9 ขณะที่ราคาห้องพักเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.7 เป็น 954.0 บาท/คืน ทางด้านปริมาณการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดโรงแรมและภัตตาคารเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.5 ชะลอลงจากเดือนก่อน
ไตรมาสแรกปี 2550 ภาคบริการขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนแต่ชะลอลงจากไตรมาสก่อนโดยในเดือนมกราคม 2550 ขยายตัวในเกณฑ์ดีจากการจัดงานพืชสวนโลก “ราชพฤกษ์ 2549” แต่ชะลอลงในเดือนกุมภาพันธ์และลดลงในเดือนมีนาคมจากช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวและปัญหาหมอกควัน เครื่องชี้สำคัญของภาคบริการ ได้แก่ อัตราการเข้าพักโรงแรมเฉลี่ยของไตรมาสแรกอยู่ที่ร้อยละ 66.6 ต่ำกว่าไตรมาสก่อน แต่ขยายตัวร้อยละ 1.9 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ราคาห้องพักเฉลี่ยของโรงแรมปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 มาอยู่ที่ราคาเฉลี่ย 1,042.1 บาท/คืน ส่วนจำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 ต่ำกว่าไตรมาสก่อน ทางด้านการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดโรงแรมและภัตตาคารปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.3
4. การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน เดือนมีนาคม 2550 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ตามการระมัดระวังการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยปริมาณการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.0 ชะลอลงจากเดือนก่อน ตามการลดลงของภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดค้าส่งค้าปลีกที่ลดลงร้อยละ 8.5 และสอดคล้องกับเครื่องชี้การใช้จ่ายที่สำคัญได้แก่ ปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องร้อยละ 17.6 เทียบกับที่ลดลงร้อยละ 13.0 เดือนก่อน แยกเป็นปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลลดลงร้อยละ 22.4 และปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์เชิงพาณิชย์ลดลงร้อยละ 14.2 ส่วนปริมาณการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ลดลงร้อยละ 32.8 ต่อเนื่องจากที่ลดลงร้อยละ 26.6 เดือนก่อน
ไตรมาสแรกปี 2550 การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวในอัตราชะลอลงจากไตรมาสก่อน ตามเครื่องชี้การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนสำคัญที่แสดงทิศทางชะลอตัว ได้แก่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 8.5 ชะลอลงจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 ไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มประเภทการขายส่ง —ปลีกลดลง ปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ลดลงร้อยละ 6.8 และร้อยละ 20.2 ตามลำดับ
5. การลงทุนภาคเอกชน เดือนมีนาคม 2550 ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน สะท้อนจากกิจกรรมสำคัญได้แก่ ปริมาณการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างลดลงร้อยละ 1.2 พื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลลดลงร้อยละ 40.6 หลังจากขยายตัวต่อเนื่องใน 2 เดือนที่ผ่านมา โดยลดลงในเกือบทุกประเภทยกเว้นเพื่อที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 ตามการขยายตัวในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ และสุโขทัย เป็นสำคัญ และค่าธรรมเนียมขายและขายฝากที่ดินลดลงร้อยละ 5.5 สำหรับการลงทุนของกิจการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนลดลงร้อยละ 20.8
ไตรมาสแรกปี 2550 การลงทุนภาคเอกชนของภาคเหนืออยู่ในเกณฑ์ชะลอตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 5.2 ส่วนค่าธรรมเนียมขายและขายฝากที่ดินลดลงร้อยละ 5.1 อย่างไรก็ดี ความสนใจลงทุนก่อสร้างมีเพิ่มขึ้นในประเภทที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ในบริเวณภาคเหนือตอนบนในช่วง 2 เดือนแรก ส่งผลให้พื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.0 ทางด้านการลงทุนเพื่อการผลิตขยายตัว โดยกิจการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะในหมวดเกษตรกรรมและผลิตผลการเกษตรอุตสาหกรรมเบา และอิเล็กทรอนิกส์
6. การค้าต่างประเทศ เดือนมีนาคม 2550 การส่งออก ผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.3 เหลือ 242.8 ล้านดอลลาร์ สรอ. เนื่องจากความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางประเภทลดลงและการย้ายการทำพิธีการส่งออกไปที่ส่วนกลางของสินค้าประเภทลวดเคเบิลและชุดสายไฟที่ด่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยมูลค่าการส่งออกผ่านด่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ลดลงร้อยละ 40.7 เหลือ 13.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. ทางด้านด่านศุลกากรลำพูนแม้จะมีสินค้าส่งออกส่วนหนึ่งทำพิธีการส่งออกผ่านระบบ Paperless Customs ซึ่งทำให้ฐานข้อมูลไปรวมที่ส่วนกลาง แต่มูลค่าส่งออกผ่านด่านลำพูนยังเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เป็น 179.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยสินค้าส่งออกเพิ่มขึ้นได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประเภทเครื่องช่วยฟังและเลนส์สำหรับกล้องถ่ายรูป แต่สำหรับการส่งออก glass magnetic disk ลดลงมาก การส่งออกด่านชายแดนลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.6 เหลือ 50.5 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยลดลงทั้งการส่งออกไปพม่า ลาว และจีน(ตอนใต้) ร้อยละ 1.2 ร้อยละ 22.2 และร้อยละ 6.8 ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของสินค้าส่งออกประเภทผลิตภัณฑ์พืชผล
การนำเข้า ผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 14.5 เหลือ 137.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการนำเข้าวัตถุดิบชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ลดลงประกอบกับฐานข้อมูลของระยะเดียวกันปีก่อนสูงเนื่องจากมีการนำเข้าสินค้าทุนประเภทชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ทำให้การนำเข้าผ่านด่านศุลกากรลำพูนลดลงร้อยละ 14.6 เหลือ 122.9 ล้านดอลลาร์ สรอ. การนำเข้าผ่านด่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ลดลงร้อยละ 37.8 เหลือ 5.5 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการย้ายการทำพิธีการนำเข้าของอุตสาหกรรมผลิตลวดเคเบิลและชุดสายไฟ ส่วนการนำเข้าผ่านด่านชายแดนเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 เป็น 9.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. เทียบกับที่ลดลงเมื่อเดือนก่อน โดยเพิ่มขึ้นทั้งการนำเข้าจากพม่า ลาว และจีนตอนใต้ร้อยละ 13.2 ร้อยละ 9.5 และร้อยละ 18.6 ตามลำดับ
ดุลการค้า ในเดือนมีนาคม 2550 เกินดุล 105.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนและเดือนก่อนที่เกินดุล 89.9 ล้านดอลลาร์ สรอ. และ 85.4 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามลำดับ
ไตรมาสแรกปี 2550 การส่งออกผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.8 เหลือ 645.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. เทียบกับที่เพิ่มขึ้นไตรมาสก่อน การส่งออกชะลอตัวในเดือนมกราคมและลดลงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม เนื่องจากการย้ายการทำพิธีการส่งออกไปที่ส่วนกลางของสินค้าประเภทลวดเคเบิลและชุดสายไฟ และการลดลงของการส่งออก glass magnetic disk รวมทั้งมีสินค้าส่งออกส่วนหนึ่งทำพิธีการส่งออกผ่านระบบ Paperless Customs ทำให้ฐานข้อมูลไปรวมที่ส่วนกลาง ประกอบกับการส่งออกยางพาราไปจีน(ตอนใต้) และผลิตภัณฑ์สิ่งทอไปพม่าลดลง ทั้งนี้มูลค่าส่งออกผ่านด่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ลดลงร้อยละ 27.3 เหลือ 36.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนมูลค่าส่งออกผ่านด่านศุลกากรลำพูนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.3 เป็น 461.5 ล้านดอลลาร์ สรอ. ทางด้านการส่งออกผ่านด่านชายแดนลดลงร้อยละ 4.0 เหลือ147.8 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยการส่งออกไปพม่าและจีน(ตอนใต้) ลดลงร้อยละ 4.2 และร้อยละ 6.9 ตามลำดับ ส่วนการส่งออกไปลาวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3
การนำเข้า ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 7.0 เหลือ 386.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. เทียบกับที่เพิ่มขึ้นไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่ลดลงจากการนำเข้าวัตถุดิบผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบกับมีการนำเข้าชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เป็นมูลค่าสูงเมื่อระยะเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าผ่านด่านศุลกากรลำพูนลดลงร้อยละ 8.5 เหลือ 343.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน การนำเข้าผ่านด่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ลดลงร้อยละ 2.3 เหลือ 17.8 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการย้ายการทำพิธีการนำเข้าของอุตสาหกรรมผลิตลวดเคเบิลและชุดสายไฟ ส่วนการนำเข้าผ่านด่านชายแดนเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.2 เป็น 25.6 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยเพิ่มขึ้นทั้งการนำเข้าจากพม่า ลาว และจีนตอนใต้ ร้อยละ 23.1 ร้อยละ 6.5 และร้อยละ 4.5 ตามลำดับ
ดุลการค้า ผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือช่วงไตรมาสแรกปี 2550 เกินดุล 259.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนและไตรมาสก่อนที่เกินดุล 248.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. และ 224.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามลำดับ
7. ระดับราคา เดือนมีนาคม 2550 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.6 ชะลอลงเทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 เดือนก่อน ตามราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 ชะลอลงเดือนก่อน เนื่องจากการปรับตัวลดลงของราคาเนื้อสัตว์ และราคาผักและผลไม้ สำหรับราคาหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 จากการเพิ่มขึ้นในหมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.8
ไตรมาสแรกปี 2550 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.2 ชะลอลงจากไตรมาสก่อน ตามการชะลอลงของราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม และหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม โดยหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลงตามราคาเนื้อสัตว์ที่ชะลอลง แต่ราคาผักผลไม้ และข้าวยังสูงขึ้น ส่วนหมวดอื่น ๆ ชะลอลงเนื่องจากการปรับลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงต้นไตรมาส สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.8 ชะลอลงจากร้อยละ 1.1 ไตรมาสก่อน
8. การจ้างงาน จากข้อมูลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ภาคเหนือมีกำลังแรงงานรวมจำนวน 6.52 ล้านคน เป็นผู้มีงานทำ 6.39 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 98.0 สูงกว่าร้อยละ 97.9 ระยะเดียวกันปีก่อน โดยแรงงานนอกภาคเกษตรมีจำนวน 3.49 ล้านคน ลดลงร้อยละ 4.7 ลดลงมากในสาขาการก่อสร้างและการผลิต เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แรงงานบางส่วนจึงเคลื่อนย้ายกลับสู่ภาคเกษตร ส่งผลให้ภาคเกษตรมีแรงงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 เป็น 2.91 ล้านคน สำหรับผู้ว่างงานมีจำนวน 0.10 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 1.5 ทรงตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน สำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 เดือนมีนาคม 2550 มีจำนวน 0.59 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนและระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.4 และร้อยละ 2.9 ตามลำดับ
9. การเงิน ยอดคงค้างเงินฝากที่สาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคเหนือ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2550 มียอดคงค้างทั้งสิ้น 342,523 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 7.3 เงินฝากเพิ่มขึ้นทุกจังหวัดโดยเพิ่มขึ้นมากที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก และลำปาง ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากชั่วคราวของส่วนราชการ ส่วนเงินให้สินเชื่อ มียอดคงค้าง 272,915 ล้านบาท ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 8.4 ชะลอลงจากเดือนก่อน สินเชื่อเพิ่มขึ้นมากที่จังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก และตาก อย่างไรก็ตาม มีการชำระคืนสินเชื่อ ส่งผลให้สินเชื่อลดลงมากที่จังหวัดกำแพงเพชรและเชียงราย ทางด้านสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ร้อยละ 79.7 สูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับร้อยละ 78.9 ระยะเดียวกันปีก่อน
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
ไตรมาสแรกปี 2550 เศรษฐกิจการเงินภาคเหนือขยายตัวในอัตราชะลอลงจากไตรมาสก่อน ด้านอุปทาน รายได้เกษตรกรเร่งตัวขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนจากผลผลิตพืชหลักที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาชะลอลง การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพื่อส่งออกชะลอตัวตามการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนภาคบริการขยายตัวในอัตราลดลงโดยได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันในเดือนมีนาคม ทางด้านอุปสงค์ การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนชะลอลงตามการใช้จ่ายของผู้บริโภค เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอตัวโดยเฉพาะการก่อสร้าง ส่วนการลงทุนเพื่อการผลิตยังขยายตัว การส่งออกลดลงจากความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางประเภทลดลงและการย้ายทำพิธีการส่งออกไปที่ส่วนกลาง ส่วนการนำเข้าลดลงตามความต้องการนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ลดลง ดัชนีราคาผู้บริโภคชะลอตัว ส่วนเงินฝากและเงินให้สินเชื่อขยายตัว
รายละเอียดของแต่ละภาคเศรษฐกิจ มีดังนี้
1. ภาคเกษตร เดือนมีนาคม 2550 รายได้เกษตรกรจากการจำหน่ายพืชผลหลักในภาคเหนือขยายตัวร้อยละ 8.6 ชะลอลงจากเดือนก่อนและระยะเดียวกันปีก่อน ราคาพืชผลหลักสูงขึ้นร้อยละ 10.3 โดยราคาอ้อยโรงงานสูงขึ้นร้อยละ 2.3 ตามค่าความหวานเฉลี่ยที่สูงขึ้น กระเทียมและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.6 และร้อยละ 52.3 ตามลำดับ จากผลผลิตที่ลดลงมาก ส่วนหอมแดง มันสำปะหลัง และหอมหัวใหญ่ ราคาลดลงร้อยละ 67.8 ร้อยละ 12.6 และร้อยละ 44.4 ตามลำดับ ทางด้านผลผลิตพืชหลักลดลงร้อยละ 1.7 เป็นผลจากผลผลิตข้าวนาปรังลดลงร้อยละ 7.0 จากการเพาะปลูกที่ลดลงเมื่อช่วงปลายปีก่อนเพราะประสบปัญหาน้ำท่วม โดยเกษตรกรได้เลื่อนการเพาะปลูกมาเป็นช่วงต้นปีนี้ ส่วนผลผลิตกระเทียม และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ลดลงร้อยละ 8.7 และร้อยละ 2.6 ตามการลดลงของพื้นที่เพาะปลูก ส่วนผลผลิตอ้อยเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.0 เนื่องจากราคาในปีก่อนสูงจูงใจให้เกษตรกรเพิ่มการผลิต
ไตรมาสแรกปี 2550 รายได้ของเกษตรกรในภาคเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 สูงกว่าไตรมาสก่อนแต่ชะลอลงจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยราคาผลผลิตพืชหลักสูงขึ้นร้อยละ 8.0 ชะลอลงจากไตรมาสก่อน ราคาผลผลิตสำคัญที่สูงขึ้น ได้แก่ อ้อยโรงงาน ราคาสูงขึ้นร้อยละ 2.3 จากค่าความหวานเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ข้าวเปลือกเหนียวนาปีราคาสูงขึ้นร้อยละ 68.5 ตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะประเทศจีน กระเทียมและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาสูงขึ้นร้อยละ 47.3 และร้อยละ 46.1 ตามลำดับ ส่วนราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี มันสำปะหลัง หอมแดง และหอมหัวใหญ่ ลดลงร้อยละ 1.5 ร้อยละ 17.2 ร้อยละ 36.4 และร้อยละ 12.3 ตามลำดับ ทางด้านผลผลิตพืชหลักเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 เทียบกับที่ลดลงไตรมาสก่อน โดยอ้อยโรงงาน หอมแดง เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.0 และร้อยละ 1.0 ตามลำดับ ตามราคาของปีก่อนที่อยู่ในเกณฑ์สูงจูงใจให้เกษตรกรเพิ่มการผลิต และมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.1 เนื่องจากเกษตรกรส่วนหนึ่งปลูกทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่วนข้าวนาปรัง กระเทียม และข้าวนาปีลดลงร้อยละ 7.0 ร้อยละ 8.7 และร้อยละ 3.9 ตามลำดับ
2. ภาคอุตสาหกรรม เดือนมีนาคม 2550 การผลิตภาคอุตสาหกรรมในภาคเหนือขยายตัวโดยข้อมูลเบื้องต้นการผลิตเพื่อส่งออกในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 7.5 เป็น 189.6 ล้านดอลลาร์ สรอ. เร่งตัวจากเดือนก่อน โดยเพิ่มขึ้นมากจากการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประเภทเครื่องช่วยฟังจากความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น ส่วนการผลิต Glass Magnetic Disk ลดลงร้อยละ 14.3 การผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 56.5 เป็น 498.6 พันเมตริกตัน เร่งตัวจากเดือนก่อน จากปริมาณอ้อยเข้าหีบในเดือนนี้ 4.2 ล้านตัน สูงกว่าระยะเดียวกันปีก่อน การผลิตเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 ชะลอลงจากเดือนก่อน เนื่องจากผู้ประกอบการได้เร่งผลิตไว้แล้วในช่วงก่อนหน้า ส่วนการผลิตหมวดวัสดุก่อสร้างลดลงร้อยละ 1.9 เทียบกับที่ลดลงร้อยละ 10.4 เดือนก่อน
ไตรมาสแรกปี 2550 การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราชะลอลงจากไตรมาสก่อน โดยข้อมูลเบื้องต้นการผลิตเพื่อส่งออกในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.2 เป็น 479.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. ชะลอตัวจากไตรมาสก่อน ตามการลดลงของสินค้า Glass Magnetic Disk อย่างไรก็ดี การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประเภทเครื่องช่วยฟังเพิ่มขึ้นจากความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการผลิตเลนส์สำหรับกล้องถ่ายรูปและการเจียระไนเพชรเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 และร้อยละ 0.4 ตามลำดับ ด้านผลผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.2 เป็น 1,645.7 พันเมตริกตัน โดยมีปริมาณอ้อยเข้าหีบเพิ่มขึ้น การผลิตเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.2 เร่งตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วนการผลิตหมวดวัสดุก่อสร้างลดลงร้อยละ 9.0 เทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 ไตรมาสก่อน ตามการลงทุนในการก่อสร้างที่ซบเซา
3. ภาคบริการ เดือนมีนาคม 2550 ลดลงตามฤดูกาลเมื่อเทียบกับเดือนก่อนจากกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ลดลงผนวกกับจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญในภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควัน ทำให้มีการยกเลิกเที่ยวบินโดยเฉพาะจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมทั้งมีการยกเลิกการจองห้องพักจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 9.6 อัตราการเข้าพักโรงแรมลดลงร้อยละ 1.5 เหลือร้อยละ 50.9 ขณะที่ราคาห้องพักเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.7 เป็น 954.0 บาท/คืน ทางด้านปริมาณการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดโรงแรมและภัตตาคารเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.5 ชะลอลงจากเดือนก่อน
ไตรมาสแรกปี 2550 ภาคบริการขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนแต่ชะลอลงจากไตรมาสก่อนโดยในเดือนมกราคม 2550 ขยายตัวในเกณฑ์ดีจากการจัดงานพืชสวนโลก “ราชพฤกษ์ 2549” แต่ชะลอลงในเดือนกุมภาพันธ์และลดลงในเดือนมีนาคมจากช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวและปัญหาหมอกควัน เครื่องชี้สำคัญของภาคบริการ ได้แก่ อัตราการเข้าพักโรงแรมเฉลี่ยของไตรมาสแรกอยู่ที่ร้อยละ 66.6 ต่ำกว่าไตรมาสก่อน แต่ขยายตัวร้อยละ 1.9 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ราคาห้องพักเฉลี่ยของโรงแรมปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 มาอยู่ที่ราคาเฉลี่ย 1,042.1 บาท/คืน ส่วนจำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 ต่ำกว่าไตรมาสก่อน ทางด้านการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดโรงแรมและภัตตาคารปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.3
4. การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน เดือนมีนาคม 2550 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ตามการระมัดระวังการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยปริมาณการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.0 ชะลอลงจากเดือนก่อน ตามการลดลงของภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดค้าส่งค้าปลีกที่ลดลงร้อยละ 8.5 และสอดคล้องกับเครื่องชี้การใช้จ่ายที่สำคัญได้แก่ ปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องร้อยละ 17.6 เทียบกับที่ลดลงร้อยละ 13.0 เดือนก่อน แยกเป็นปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลลดลงร้อยละ 22.4 และปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์เชิงพาณิชย์ลดลงร้อยละ 14.2 ส่วนปริมาณการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ลดลงร้อยละ 32.8 ต่อเนื่องจากที่ลดลงร้อยละ 26.6 เดือนก่อน
ไตรมาสแรกปี 2550 การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวในอัตราชะลอลงจากไตรมาสก่อน ตามเครื่องชี้การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนสำคัญที่แสดงทิศทางชะลอตัว ได้แก่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 8.5 ชะลอลงจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 ไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มประเภทการขายส่ง —ปลีกลดลง ปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ลดลงร้อยละ 6.8 และร้อยละ 20.2 ตามลำดับ
5. การลงทุนภาคเอกชน เดือนมีนาคม 2550 ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน สะท้อนจากกิจกรรมสำคัญได้แก่ ปริมาณการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างลดลงร้อยละ 1.2 พื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลลดลงร้อยละ 40.6 หลังจากขยายตัวต่อเนื่องใน 2 เดือนที่ผ่านมา โดยลดลงในเกือบทุกประเภทยกเว้นเพื่อที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 ตามการขยายตัวในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ และสุโขทัย เป็นสำคัญ และค่าธรรมเนียมขายและขายฝากที่ดินลดลงร้อยละ 5.5 สำหรับการลงทุนของกิจการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนลดลงร้อยละ 20.8
ไตรมาสแรกปี 2550 การลงทุนภาคเอกชนของภาคเหนืออยู่ในเกณฑ์ชะลอตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 5.2 ส่วนค่าธรรมเนียมขายและขายฝากที่ดินลดลงร้อยละ 5.1 อย่างไรก็ดี ความสนใจลงทุนก่อสร้างมีเพิ่มขึ้นในประเภทที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ในบริเวณภาคเหนือตอนบนในช่วง 2 เดือนแรก ส่งผลให้พื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.0 ทางด้านการลงทุนเพื่อการผลิตขยายตัว โดยกิจการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะในหมวดเกษตรกรรมและผลิตผลการเกษตรอุตสาหกรรมเบา และอิเล็กทรอนิกส์
6. การค้าต่างประเทศ เดือนมีนาคม 2550 การส่งออก ผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.3 เหลือ 242.8 ล้านดอลลาร์ สรอ. เนื่องจากความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางประเภทลดลงและการย้ายการทำพิธีการส่งออกไปที่ส่วนกลางของสินค้าประเภทลวดเคเบิลและชุดสายไฟที่ด่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยมูลค่าการส่งออกผ่านด่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ลดลงร้อยละ 40.7 เหลือ 13.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. ทางด้านด่านศุลกากรลำพูนแม้จะมีสินค้าส่งออกส่วนหนึ่งทำพิธีการส่งออกผ่านระบบ Paperless Customs ซึ่งทำให้ฐานข้อมูลไปรวมที่ส่วนกลาง แต่มูลค่าส่งออกผ่านด่านลำพูนยังเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เป็น 179.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยสินค้าส่งออกเพิ่มขึ้นได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประเภทเครื่องช่วยฟังและเลนส์สำหรับกล้องถ่ายรูป แต่สำหรับการส่งออก glass magnetic disk ลดลงมาก การส่งออกด่านชายแดนลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.6 เหลือ 50.5 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยลดลงทั้งการส่งออกไปพม่า ลาว และจีน(ตอนใต้) ร้อยละ 1.2 ร้อยละ 22.2 และร้อยละ 6.8 ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของสินค้าส่งออกประเภทผลิตภัณฑ์พืชผล
การนำเข้า ผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 14.5 เหลือ 137.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการนำเข้าวัตถุดิบชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ลดลงประกอบกับฐานข้อมูลของระยะเดียวกันปีก่อนสูงเนื่องจากมีการนำเข้าสินค้าทุนประเภทชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ทำให้การนำเข้าผ่านด่านศุลกากรลำพูนลดลงร้อยละ 14.6 เหลือ 122.9 ล้านดอลลาร์ สรอ. การนำเข้าผ่านด่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ลดลงร้อยละ 37.8 เหลือ 5.5 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการย้ายการทำพิธีการนำเข้าของอุตสาหกรรมผลิตลวดเคเบิลและชุดสายไฟ ส่วนการนำเข้าผ่านด่านชายแดนเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 เป็น 9.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. เทียบกับที่ลดลงเมื่อเดือนก่อน โดยเพิ่มขึ้นทั้งการนำเข้าจากพม่า ลาว และจีนตอนใต้ร้อยละ 13.2 ร้อยละ 9.5 และร้อยละ 18.6 ตามลำดับ
ดุลการค้า ในเดือนมีนาคม 2550 เกินดุล 105.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนและเดือนก่อนที่เกินดุล 89.9 ล้านดอลลาร์ สรอ. และ 85.4 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามลำดับ
ไตรมาสแรกปี 2550 การส่งออกผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.8 เหลือ 645.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. เทียบกับที่เพิ่มขึ้นไตรมาสก่อน การส่งออกชะลอตัวในเดือนมกราคมและลดลงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม เนื่องจากการย้ายการทำพิธีการส่งออกไปที่ส่วนกลางของสินค้าประเภทลวดเคเบิลและชุดสายไฟ และการลดลงของการส่งออก glass magnetic disk รวมทั้งมีสินค้าส่งออกส่วนหนึ่งทำพิธีการส่งออกผ่านระบบ Paperless Customs ทำให้ฐานข้อมูลไปรวมที่ส่วนกลาง ประกอบกับการส่งออกยางพาราไปจีน(ตอนใต้) และผลิตภัณฑ์สิ่งทอไปพม่าลดลง ทั้งนี้มูลค่าส่งออกผ่านด่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ลดลงร้อยละ 27.3 เหลือ 36.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนมูลค่าส่งออกผ่านด่านศุลกากรลำพูนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.3 เป็น 461.5 ล้านดอลลาร์ สรอ. ทางด้านการส่งออกผ่านด่านชายแดนลดลงร้อยละ 4.0 เหลือ147.8 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยการส่งออกไปพม่าและจีน(ตอนใต้) ลดลงร้อยละ 4.2 และร้อยละ 6.9 ตามลำดับ ส่วนการส่งออกไปลาวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3
การนำเข้า ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 7.0 เหลือ 386.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. เทียบกับที่เพิ่มขึ้นไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่ลดลงจากการนำเข้าวัตถุดิบผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบกับมีการนำเข้าชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เป็นมูลค่าสูงเมื่อระยะเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าผ่านด่านศุลกากรลำพูนลดลงร้อยละ 8.5 เหลือ 343.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน การนำเข้าผ่านด่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ลดลงร้อยละ 2.3 เหลือ 17.8 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการย้ายการทำพิธีการนำเข้าของอุตสาหกรรมผลิตลวดเคเบิลและชุดสายไฟ ส่วนการนำเข้าผ่านด่านชายแดนเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.2 เป็น 25.6 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยเพิ่มขึ้นทั้งการนำเข้าจากพม่า ลาว และจีนตอนใต้ ร้อยละ 23.1 ร้อยละ 6.5 และร้อยละ 4.5 ตามลำดับ
ดุลการค้า ผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือช่วงไตรมาสแรกปี 2550 เกินดุล 259.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนและไตรมาสก่อนที่เกินดุล 248.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. และ 224.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามลำดับ
7. ระดับราคา เดือนมีนาคม 2550 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.6 ชะลอลงเทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 เดือนก่อน ตามราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 ชะลอลงเดือนก่อน เนื่องจากการปรับตัวลดลงของราคาเนื้อสัตว์ และราคาผักและผลไม้ สำหรับราคาหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 จากการเพิ่มขึ้นในหมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.8
ไตรมาสแรกปี 2550 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.2 ชะลอลงจากไตรมาสก่อน ตามการชะลอลงของราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม และหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม โดยหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลงตามราคาเนื้อสัตว์ที่ชะลอลง แต่ราคาผักผลไม้ และข้าวยังสูงขึ้น ส่วนหมวดอื่น ๆ ชะลอลงเนื่องจากการปรับลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงต้นไตรมาส สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.8 ชะลอลงจากร้อยละ 1.1 ไตรมาสก่อน
8. การจ้างงาน จากข้อมูลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ภาคเหนือมีกำลังแรงงานรวมจำนวน 6.52 ล้านคน เป็นผู้มีงานทำ 6.39 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 98.0 สูงกว่าร้อยละ 97.9 ระยะเดียวกันปีก่อน โดยแรงงานนอกภาคเกษตรมีจำนวน 3.49 ล้านคน ลดลงร้อยละ 4.7 ลดลงมากในสาขาการก่อสร้างและการผลิต เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แรงงานบางส่วนจึงเคลื่อนย้ายกลับสู่ภาคเกษตร ส่งผลให้ภาคเกษตรมีแรงงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 เป็น 2.91 ล้านคน สำหรับผู้ว่างงานมีจำนวน 0.10 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 1.5 ทรงตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน สำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 เดือนมีนาคม 2550 มีจำนวน 0.59 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนและระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.4 และร้อยละ 2.9 ตามลำดับ
9. การเงิน ยอดคงค้างเงินฝากที่สาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคเหนือ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2550 มียอดคงค้างทั้งสิ้น 342,523 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 7.3 เงินฝากเพิ่มขึ้นทุกจังหวัดโดยเพิ่มขึ้นมากที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก และลำปาง ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากชั่วคราวของส่วนราชการ ส่วนเงินให้สินเชื่อ มียอดคงค้าง 272,915 ล้านบาท ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 8.4 ชะลอลงจากเดือนก่อน สินเชื่อเพิ่มขึ้นมากที่จังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก และตาก อย่างไรก็ตาม มีการชำระคืนสินเชื่อ ส่งผลให้สินเชื่อลดลงมากที่จังหวัดกำแพงเพชรและเชียงราย ทางด้านสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ร้อยละ 79.7 สูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับร้อยละ 78.9 ระยะเดียวกันปีก่อน
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--