นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม และเกษตรกรมักจะประสบปัญหาการผันผวนของดินฟ้าอากาศและภัยธรรมชาติ การประกันภัยจึงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยรองรับความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติและช่วยลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับภาคเกษตรกรรม กรมการประกันภัยจึงได้ออกกรมธรรม์การประกันภัยและอัตราเบี้ยประกันภัยพืชผลจากภัยแล้งโดยใช้ดัชนีน้ำฝน (Weather Index) เป็นครั้งแรกของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การประกันภัยพืชผลโดยใช้ดัชนีภูมิอากาศนี้ได้รับความร่วมมือจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สมาคมประกันวินาศภัย และธนาคารโลกในการศึกษาโครงการนำร่องการประกันภัยพืชผลโดยใช้ดัชนีภูมิอากาศ และจะเป็นการสร้างทางเลือกใหม่ในการประกันภัยอันเป็นประโยชน์ต่อทั้งบริษัทประกันภัยและเกษตรกรไทย หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จมากที่ประเทศอินเดียมาแล้ว
นางจันทราฯ เปิดเผยต่อไปว่า การประกันภัยพืชผลจากภัยแล้งโดยใช้ดัชนีน้ำฝน (Weather Index) ให้ความคุ้มครองภัยแล้งสำหรับพืชผลที่เอาประกันภัย โดยบริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าชดเชยตามวิธีการคำนวณค่าชดเชยตามปริมาณน้ำฝนสะสมที่ตกจริง โดยยึดตามดัชนีน้ำฝนที่วัดได้จริงจากสถานีตรวจวัดปริมาณน้ำฝนหลัก/สถานีตรวจวัดปริมาณน้ำฝนสำรอง ไม่มีการประเมินความเสียหายจริงของพืชผลที่เอาประกันภัย ซึ่งในระยะแรกนี้ พืชผลที่เอาประกันภัยคือ ข้าวโพด ในเขตพื้นที่เพาะปลูกในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และจะเก็บข้อมูลน้ำฝนและระยะเวลาเอาประกันภัยเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2550 ทั้งนี้ หลังจากที่สำนักงาน ธกส. ได้มีการประชุมชี้แจงกับสมาชิกและเกษตรกรในเขตอำเภอปากช่อง พบว่าได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดี มีเกษตรกรให้ความสนใจทำประกันภัย จำนวน 35 ราย รวมพื้นที่เพาะปลูกจำนวน 962 ไร่ ในฤดูเพาะปลูกในปีแรก 2550 นี้
นางจันทราฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประกันภัยพืชผลจากภัยแล้งโดยใช้ดัชนีน้ำฝน เป็นทางเลือกใหม่ในการบริหารจัดการความเสี่ยงในภาคเกษตรกรรม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงมีความเห็นร่วมกันในการขยายโครงการนำร่องดังกล่าวไปสูเกษตรกรในพื้นที่อื่นๆ ร่วมถึงพืชผลเศรษฐกิจชนิดอื่นๆต่อไป ดังนั้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและเกษตรกรให้รู้จักมากขึ้น กรมการประกันภัยและสมาคมประกันวินาศภัยร่วมกับ ธกส. จัดงานเปิดตัวโครงการนำร่องประกันภัยพืชผลโดยใช้ดัชนีภูมิอากาศ และมอบใบรับรองการทำประกันภัยดังกล่าวให้แก่เกษตรกรในวันที่ 26 กรกฎาคม 2550 ณ ห้องประชุมกรมการประกันภัย กระทรวงพาณิชย์
ที่มา: http://www.doi.go.th