โพลล์รอยเตอร์ระบุว่า เศรษฐกิจเอเชียมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น โดยที่การส่งออกสามารถรักษาระดับความแข็งแกร่งไว้ได้ดี แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง แต่ปริมาณการใช้จ่ายของผู้บริโภคมีแนวโน้มสูงขึ้น
ทั้งนี้ได้มีการปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของ 12 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) ส่งผลให้บางประเทศในเอเชียมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเท่ากับหรือสูงกว่าของปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้คาดการณ์กันว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในเอเชียอาจลดลงในปีนี้ โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่สหรัฐลดความต้องการซื้อสินค้าลง โดยอุปสงค์ของสหรัฐเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเอเชีย
แต่ในความเป็นจริง การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐส่งผลกระทบไม่มากเท่าที่คาด ขณะที่ความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน การที่ภาครัฐใช้จ่ายงบประมาณมากขึ้น และราคาที่สูงขึ้นของอสังหาริมทรัพย์และหุ้น ล้วนเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคในเอเชียจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น
การส่งออกเติบโตดีเกินคาดเพราะมีการส่งสินค้าจากเอเชียไปยังภูมิภาคสำคัญอื่นๆ ทั้งสหภาพยุโรป (อียู), จีน และตลาดเกิดใหม่นอกเอเชีย รวมไปถึงอุปสงค์ภายในเอเชียฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา"
การสำรวจคาดว่า จีนซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกจะมีเศรษฐกิจขยายตัว 10.6 % ในปีนี้ ส่วนอินเดียซึ่งเป็นประเทศอันดับ 3 ของเอเชีย โดยรองจากญี่ปุ่นและจีน คาดว่าเศรษฐกิจชะลอตัวลงเล็กน้อยเนื่องจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยคาดการณ์อัตราการเติบโตจะอยู่ที่ 8.5 %
ส่วนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น อินโดนีเซียซึ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตเร็วขึ้นในปีนี้ ส่วนฟิลิปปินส์จะเติบโตเร็วขึ้นเช่นกัน โดยที่ชาวฟิลิปปินส์ในต่างประเทศส่งเงินกลับประเทศสูงเป็นประวัติการณ์
เศรษฐกิจออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จะเติบโตเร็วขึ้นในปีนี้ เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภค และราคาสินค้าส่งออกของ 2 ประเทศนี้อยู่ในระดับสูง
ไทยยังคงมีอัตราการเติบโตต่ำกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาค เพราะความไม่แน่นอนทางการเมืองตั้งแต่มีการรัฐประหารในเดือนก.ย.ปีที่แล้ว ความไม่แน่นอนดังกล่าวส่งผลลบต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคและการลงทุนทางธุรกิจ เป็นที่คาดกันว่าปัจจัยนี้จะทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยลดลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 6 ปี แต่นักเศรษฐศาสตร์ก็ยังปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยขึ้นเล็กน้อย ด้วยเหตุผลว่าการส่งออกยังคงมีความแข็งแกร่ง
เศรษฐกิจเกาหลีใต้, ไต้หวัน, สิงคโปร์ และมาเลเซียอาจชะลอตัวลงเล็กน้อยหลังจากเติบโตอย่างมากในปีที่แล้ว
แม้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างมาก แต่อัตราเงินเฟ้อของประเทศส่วนใหญ่ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำเป็นที่คาดกันว่าภาวะเศรษฐกิจที่ร้อนแรงจนเกินไปในจีนและอินเดียอาจส่งผลให้ 2 ประเทศนี้คุมเข้มนโยบายทางการเงินมากยิ่งขึ้น
ที่มา: http://www.depthai.go.th