สุกร
สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ภาวะตลาดสุกรในสัปดาห์นี้ราคาสุกรมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสุกรที่ออกสู่ตลาดมีปริมาณลดลง ขณะที่ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรยังคงมีอย่าง ต่อเนื่อง แนวโน้มคาดว่าราคาจะสูงขึ้น
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
สุกรมีชีวิตพันธุ์ผสมน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 38.98 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 37.98 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 2.63 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 38.05 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 40.11 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 41.13 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 38.07 บาท ส่วนราคาลูกสุกรตามประกาศของบริษัท ซี.พี ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 1,200 (บวกลบ 44 บาท) สูงขึ้นจากตัวละ 1,100 (บวกลบ 42 บาท) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 9.09
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งสุกรมีชีวิตในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.50 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 43.50 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 2.30 และราคาขายส่งสุกรชำแหละเฉลี่ยกิโลกรัมละ 53.50 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 52.50 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 1.90
ไก่เนื้อ
สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ในสัปดาห์นี้ราคาไก่เนื้อมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาวะตลาดยังคงคึกคัก เนื่องจากไก่เนื้อออกสู่ตลาดมีไม่มากนัก แต่ความต้องการบริโภคเนื้อไก่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มคาดว่าราคาจะสูงขึ้น
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานหลังการเปิดการประชุมคณะกรรมการในการควบคุมโรคระบาดสัตว์ข้ามพรมแดนในเอเชียและโอเซียนเนีย จัดโดยองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) และองค์การเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติ หรือเอฟเอโอ ร่วมกับกรมปศุสัตว์ ว่าการประชุมครั้งนี้เพื่อกำหนดกรอบและแนวทางในการควบคุมโรคระบาดสัตว์ข้ามพรมแดน เพื่อพัฒนาความมั่นคงด้านอาหาร ส่งเสริมการค้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ โดยการร่วมประชุมครั้งนี้ถือเป็นการสร้างข่ายในการควบคุมและป้องกัน การเกิดโรคระบาด เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและร่วมกันกำหนดกรอบการปฏิบัติเพื่อป้องกันและกำจัดการเกิดโรคระบาดที่จะทำให้เกิดความสูญเสียต่อประเทศชาติและระบบเศรษฐกิจ อย่างการระบาดของไข้หวัดนกครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2547 ซึ่งเป็นครั้งแรกและเป็นครั้งที่รุนแรงมาก ที่ประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 5,000 ล้านบาท และความสูญเสียต่อระบบเศรษฐกิจการทั้งหมด การท่องเที่ยวลดลง จนถึงกระทบต่อการ ส่งออก นอกจากนี้ OIE ได้แสดงความสนใจที่ใช้ไทยในการตั้งศูนย์เฝ้าระวังโรคไข้หวัดในภูมิภาค เพื่อควบคุมโรคไข้หวัดนกและติดตามปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 36.33 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 36.06บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 0.75 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 40.00 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 34.58 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 34.98 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 37.28 บาท ส่วนราคาลูกไก่เนื้อตามประกาศของบริษัท ซี.พี ตัวละ 14.50 บาท สูงขึ้นจากตัวละ 13.50 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 7.41
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไก่มีชีวิตในตลาดกรุงเทพฯ จากกรมการค้าภายในเฉลี่ยกิโลกรัมละ 36.50 บาท และราคาขายส่งไก่สดกิโลกรัมละ 46.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ไข่ไก่
สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ตลาดไข่ไก่ในสัปดาห์นี้ราคาที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะภาคกลางที่เป็นแหล่งเลี้ยงใหญ่ราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นมาก เพราะผลจากการดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำ โดยการปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรง ผลักดันให้มีการส่งออก ทำให้ปริมาณผลผลิตไข่ไก่ลดลง ความต้องการบริโภคยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แนวโน้มคาดว่าราคาจะสูงขึ้น
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ เฉลี่ยร้อยฟองละ 214 บาท สูงขึ้นจากร้อยฟองละ 209 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 2.39 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือร้อยฟองละ 219 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยฟองละ 217 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 209 บาท และภาคใต้ ร้อยฟองละ 227 บาท ส่วนราคาลูกไก่ไข่ตามประกาศของบริษัท ซี.พี.ตัวละ 20.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน (เฉลี่ย เบอร์ 0-4) ร้อยฟองละ 239 บาท สูงขึ้นจากร้อยฟองละ 231 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 3.46
ไข่เป็ด
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่เป็ดที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ ร้อยฟองละ 246 บาท ลดลงจากร้อยฟองละ 248 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.81 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือร้อยฟองละ 211 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 254 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 260 บาท และภาคใต้ร้อยฟองละ 224 บาท
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 300 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
โค
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาโค (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 48.32 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 48.59 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.56 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือกิโลกรัมละ 44.38 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกิโลกรัมละ 51.61 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 44.07 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 50.75 บาท
กระบือ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคากระบือ (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 37.30 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 37.22 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 0.21 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือกิโลกรัมละ 38.00 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกิโลกรัมละ 35.86 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 48.33 บาท ส่วนภาคใต้ไม่มีรายงานราคา
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 16-22 ก.ค. 2550--
-พห-
สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ภาวะตลาดสุกรในสัปดาห์นี้ราคาสุกรมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสุกรที่ออกสู่ตลาดมีปริมาณลดลง ขณะที่ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรยังคงมีอย่าง ต่อเนื่อง แนวโน้มคาดว่าราคาจะสูงขึ้น
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
สุกรมีชีวิตพันธุ์ผสมน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 38.98 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 37.98 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 2.63 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 38.05 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 40.11 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 41.13 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 38.07 บาท ส่วนราคาลูกสุกรตามประกาศของบริษัท ซี.พี ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 1,200 (บวกลบ 44 บาท) สูงขึ้นจากตัวละ 1,100 (บวกลบ 42 บาท) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 9.09
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งสุกรมีชีวิตในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.50 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 43.50 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 2.30 และราคาขายส่งสุกรชำแหละเฉลี่ยกิโลกรัมละ 53.50 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 52.50 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 1.90
ไก่เนื้อ
สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ในสัปดาห์นี้ราคาไก่เนื้อมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาวะตลาดยังคงคึกคัก เนื่องจากไก่เนื้อออกสู่ตลาดมีไม่มากนัก แต่ความต้องการบริโภคเนื้อไก่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มคาดว่าราคาจะสูงขึ้น
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานหลังการเปิดการประชุมคณะกรรมการในการควบคุมโรคระบาดสัตว์ข้ามพรมแดนในเอเชียและโอเซียนเนีย จัดโดยองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) และองค์การเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติ หรือเอฟเอโอ ร่วมกับกรมปศุสัตว์ ว่าการประชุมครั้งนี้เพื่อกำหนดกรอบและแนวทางในการควบคุมโรคระบาดสัตว์ข้ามพรมแดน เพื่อพัฒนาความมั่นคงด้านอาหาร ส่งเสริมการค้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ โดยการร่วมประชุมครั้งนี้ถือเป็นการสร้างข่ายในการควบคุมและป้องกัน การเกิดโรคระบาด เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและร่วมกันกำหนดกรอบการปฏิบัติเพื่อป้องกันและกำจัดการเกิดโรคระบาดที่จะทำให้เกิดความสูญเสียต่อประเทศชาติและระบบเศรษฐกิจ อย่างการระบาดของไข้หวัดนกครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2547 ซึ่งเป็นครั้งแรกและเป็นครั้งที่รุนแรงมาก ที่ประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 5,000 ล้านบาท และความสูญเสียต่อระบบเศรษฐกิจการทั้งหมด การท่องเที่ยวลดลง จนถึงกระทบต่อการ ส่งออก นอกจากนี้ OIE ได้แสดงความสนใจที่ใช้ไทยในการตั้งศูนย์เฝ้าระวังโรคไข้หวัดในภูมิภาค เพื่อควบคุมโรคไข้หวัดนกและติดตามปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 36.33 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 36.06บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 0.75 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 40.00 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 34.58 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 34.98 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 37.28 บาท ส่วนราคาลูกไก่เนื้อตามประกาศของบริษัท ซี.พี ตัวละ 14.50 บาท สูงขึ้นจากตัวละ 13.50 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 7.41
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไก่มีชีวิตในตลาดกรุงเทพฯ จากกรมการค้าภายในเฉลี่ยกิโลกรัมละ 36.50 บาท และราคาขายส่งไก่สดกิโลกรัมละ 46.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ไข่ไก่
สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ตลาดไข่ไก่ในสัปดาห์นี้ราคาที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะภาคกลางที่เป็นแหล่งเลี้ยงใหญ่ราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นมาก เพราะผลจากการดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำ โดยการปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรง ผลักดันให้มีการส่งออก ทำให้ปริมาณผลผลิตไข่ไก่ลดลง ความต้องการบริโภคยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แนวโน้มคาดว่าราคาจะสูงขึ้น
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ เฉลี่ยร้อยฟองละ 214 บาท สูงขึ้นจากร้อยฟองละ 209 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 2.39 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือร้อยฟองละ 219 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยฟองละ 217 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 209 บาท และภาคใต้ ร้อยฟองละ 227 บาท ส่วนราคาลูกไก่ไข่ตามประกาศของบริษัท ซี.พี.ตัวละ 20.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน (เฉลี่ย เบอร์ 0-4) ร้อยฟองละ 239 บาท สูงขึ้นจากร้อยฟองละ 231 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 3.46
ไข่เป็ด
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่เป็ดที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ ร้อยฟองละ 246 บาท ลดลงจากร้อยฟองละ 248 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.81 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือร้อยฟองละ 211 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 254 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 260 บาท และภาคใต้ร้อยฟองละ 224 บาท
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 300 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
โค
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาโค (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 48.32 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 48.59 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.56 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือกิโลกรัมละ 44.38 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกิโลกรัมละ 51.61 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 44.07 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 50.75 บาท
กระบือ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคากระบือ (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 37.30 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 37.22 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 0.21 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือกิโลกรัมละ 38.00 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกิโลกรัมละ 35.86 บาท ภาคกลางกิโลกรัมละ 48.33 บาท ส่วนภาคใต้ไม่มีรายงานราคา
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 16-22 ก.ค. 2550--
-พห-