การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสุทธิในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 จากข้อมูลเบื้องต้นของธนาคารแห่งประเทศไทย การลงทุนสุทธิในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม มีมูลค่ารวม 19,157.41 ล้านบาท ลดลงร้อยละ —16.77 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยในเดือนกรกฎาคมมีมูลค่าการลงทุนสุทธิ 14,496.65 ล้านบาท และเดือนสิงหาคม 4,660.76 ล้านบาท
ในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 สาขาอสังหาริมทรัพย์เป็นสาขาที่มีการลงทุนมากที่สุด คือ 8,917.26 ล้านบาท สำหรับสาขาอุตสาหกรรมมีการลงทุนสุทธิ 7,963.24 ล้านบาท โดยหมวดอื่นๆมีการลงทุนสุทธิมากที่สุด เป็นเงินลงทุน 3,479.95 ล้านบาท รองลงมาคือหมวดโลหะและอโลหะ 2,396.42 ล้านบาท และหมวดเครื่องจักร 1,653.99 ล้านบาท
ประเทศที่เข้ามาลงทุนสุทธิในประเทศไทยมากที่สุดในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2549 คือ ประเทศสหราชอาณาจักรมีเงินลงทุนสุทธิ 21,988.16 ล้านบาท รองลงมาคือ ประเทศญี่ปุ่น มีเงินลงทุนสุทธิ 4,733.81 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พบว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 การลงทุนที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI มีจำนวนทั้งสิ้น 295 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.21 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่มีเงินลงทุน 70,600 ล้านบาท ลดลงร้อยละ —24.97 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นโครงการที่ลงทุนจากต่างประเทศ 100 % จำนวน 102 โครงการ คิดเป็นเงินลงทุน 20,800 ล้านบาท เป็นโครงการร่วมทุนระหว่างไทยและต่างประเทศ 81 โครงการ เป็นเงินลงทุน 26,700 ล้านบาท และเป็นโครงการคนไทย 100 % 112 โครงการ เป็นเงินลงทุน 23,200 ล้านบาท
เมื่อพิจารณาในหมวดของการเข้ามาลงทุนในไตรมาสที่ 3 พบว่า ประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุด คือ หมวดบริการและสาธารณูปโภค มีเงินลงทุน 18,700 ล้านบาท รองลงมาคือ หมวดเคมี กระดาษ และพลาสติก มีเงินลงทุน 18,200 ล้านบาท และหมวดหมวดอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องไฟฟ้า มีเงินลงทุน 12,500 ล้านบาท
สำหรับแหล่งลงทุนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2549 พบว่านักลงทุนจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีการลงทุนมากที่สุดโดยได้รับการส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 34 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 69,933 ล้านบาท รองลงมาคือ ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 252 โครงการ 65,239 ล้านบาท ประเทศสิงคโปร์ จำนวน 48 โครงการ เป็นเงินลงทุน 13,619 ล้านบาท ประเทศฮ่องกง 15 โครงการ เป็นเงินลงทุน 9,767 ล้านบาท
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
ในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 สาขาอสังหาริมทรัพย์เป็นสาขาที่มีการลงทุนมากที่สุด คือ 8,917.26 ล้านบาท สำหรับสาขาอุตสาหกรรมมีการลงทุนสุทธิ 7,963.24 ล้านบาท โดยหมวดอื่นๆมีการลงทุนสุทธิมากที่สุด เป็นเงินลงทุน 3,479.95 ล้านบาท รองลงมาคือหมวดโลหะและอโลหะ 2,396.42 ล้านบาท และหมวดเครื่องจักร 1,653.99 ล้านบาท
ประเทศที่เข้ามาลงทุนสุทธิในประเทศไทยมากที่สุดในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2549 คือ ประเทศสหราชอาณาจักรมีเงินลงทุนสุทธิ 21,988.16 ล้านบาท รองลงมาคือ ประเทศญี่ปุ่น มีเงินลงทุนสุทธิ 4,733.81 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พบว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 การลงทุนที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI มีจำนวนทั้งสิ้น 295 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.21 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่มีเงินลงทุน 70,600 ล้านบาท ลดลงร้อยละ —24.97 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นโครงการที่ลงทุนจากต่างประเทศ 100 % จำนวน 102 โครงการ คิดเป็นเงินลงทุน 20,800 ล้านบาท เป็นโครงการร่วมทุนระหว่างไทยและต่างประเทศ 81 โครงการ เป็นเงินลงทุน 26,700 ล้านบาท และเป็นโครงการคนไทย 100 % 112 โครงการ เป็นเงินลงทุน 23,200 ล้านบาท
เมื่อพิจารณาในหมวดของการเข้ามาลงทุนในไตรมาสที่ 3 พบว่า ประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุด คือ หมวดบริการและสาธารณูปโภค มีเงินลงทุน 18,700 ล้านบาท รองลงมาคือ หมวดเคมี กระดาษ และพลาสติก มีเงินลงทุน 18,200 ล้านบาท และหมวดหมวดอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องไฟฟ้า มีเงินลงทุน 12,500 ล้านบาท
สำหรับแหล่งลงทุนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2549 พบว่านักลงทุนจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีการลงทุนมากที่สุดโดยได้รับการส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 34 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 69,933 ล้านบาท รองลงมาคือ ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 252 โครงการ 65,239 ล้านบาท ประเทศสิงคโปร์ จำนวน 48 โครงการ เป็นเงินลงทุน 13,619 ล้านบาท ประเทศฮ่องกง 15 โครงการ เป็นเงินลงทุน 9,767 ล้านบาท
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-