ปัญหาคุณภาพสินค้าต่ำกว่ามาตรฐานของจีนที่กลายเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมาติดต่อกันในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไม่เพียงทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้า "เมด อิน ไชน่า" ตกต่ำในสายตาของผู้บริโภค โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาที่เป็นจุดตรวจพบปัญหาและมีการเรียกเก็บสินค้าต้องสงสัยออกจากตลาด เช่น อาหารสุนัขและแมว (เดือนมีนาคม) ยาสีฟัน (เดือนพฤษภาคม) รถไฟเด็กเล่นและยางรถยนต์ (เดือนมิถุนายน) และล่าสุดอาหารทะเล (สัปดาห์ที่ผ่านมา) ซึ่งเอฟดีเอสหรัฐ หรือสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ประกาศกักไว้ที่จุดตรวจถึง 5 ชนิด รวมทั้งกุ้ง ปลาดุก และปลาไหล เนื่องจากตรวจพบสารเคมีและยาปฏิชีวนะตกค้าง
สหรัฐเป็นตลาดส่งออกขนาดใหญ่อันดับ 1 ของจีน และการที่สินค้าส่งออกของจีนหลายรายการถูกตั้งมาตรฐานตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น ทำให้รัฐบาลจีนพยายามเร่งมือแก้ไขปัญหาหลายด้านด้วยกัน คือ
1. การออกข่าวประชาสัมพันธ์ชี้แจงข้อมูลเพื่อแก้ไขภาพลักษณ์เป็นการกู้ชื่อให้กับสินค้าจีน
2. จีนแสดงความกวดขันเอาจริงในเรื่องนี้ด้วยการตัดสินลงโทษประหารชีวิตอดีตหัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของจีนเองซึ่งมีการจับกุมตัวและคุมขังด้วยข้อกล่าวหารับสินบนและให้การอนุมัติยาปลอมสู่ท้องตลาดทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายถึงชีวิต
3. เอาโทษกับผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานเพื่อลดแรงกดดันจากประเทศคู่ค้าที่เป็นคู่กรณี
4. นอกจากนี้จีนยังแจกแจงรายงานในหัวข้อ "สินค้าอาหารส่งออกของจีนมีความปลอดภัย" ระบุข้อมูลในปี 2549 ว่าสินค้าอาหารจากจีนที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (เอฟดีเอ) ตรวจพบปัญหาและกักไว้ไม่ให้นำออกจากจุดตรวจนั้นมีปริมาณไม่ถึง 1 % ของสินค้าอาหารทั้งหมดที่จีนส่งออกไปยังตลาดสหรัฐ ซึ่งหมายถึงมีสินค้าคุณภาพสูงได้มาตรฐานถึง 99 % ฉะนั้นจึงเรียกร้องให้สหรัฐและประเทศคู่ค้าอื่นๆ ของจีนปฏิบัติต่อสินค้าส่งออกของจีนอย่างเป็นธรรมและหากมีข้อกล่าวหาใดก็ขอให้ตั้งอยู่บนหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
ที่มา: http://www.depthai.go.th