กรุงเทพ--7 ม.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2548 ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังการพบหารือทวิภาคีกับนาย Lee Hae-Chan นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเกาหลี นาย Wen Jiabao นายกรัฐมนตรีจีน และนาย Alberto G. Romulo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในโอกาสเดินทางมาร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนว่าด้วยผลกระทบจากธรณีพิบัติภัยในฐานะผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีในวันที่ 6 มกราคม 2548 โดยมีประเทศสมาชิกอาเซียน 10ประเทศ และกลุ่มประเทศในกรอบ ASEAN +3 ซึ่งได้แก่ จีน สาธารณรัฐเกาหลี และญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศที่ประสบภัย คืออินเดีย ศรีลังกา และมัลดีฟส์ ตลอดจนประเทศและองค์การระหว่างประเทศต่างๆ อาทิ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหประชาชาติ สหภาพยุโรป ธนาคารโลก องค์การอนามัยโลก และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
ผู้นำรัฐบาลและรัฐมนตรีของทั้ง 4 ประเทศ มีความคิดเห็นสอดคล้องกันในการจัดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าในภูมิภาค (Early Warning System) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในแถบมหาสมุทรอินเดียซึ่งปัจจุบันยังไม่มีระบบเตือนภัยล่วงหน้าในเรื่องแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์ (Tsunami) โดยไทยได้เสนอให้มีการใช้กลไกที่มีอยู่โดยขยายศูนย์เตรียมพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย (Asian Disaster Preparedness Center : ADPC) ซึ่งเป็นมูลนิธิองค์กรเอกชนภายใต้สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย โดยได้รับการสนับสนุนจาก
โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ปัจจุบัน ADPC มีสมาชิก 30 ประเทศ และกำลังอยู่ระหว่างการขยายขอบเขตหน้าที่และเพิ่มศักยภาพเพื่อให้เป็นองค์กรระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ฝ่ายไทยเห็นว่า การใช้ประโยชน์จาก ADPC เพื่อให้เป็นองค์กรรับผิดชอบดูแลระบบเตือนภัยล่วงหน้าฯ จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของประเทศในภูมิภาค เพื่อให้สามารถเผชิญกับภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงเช่นนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ไทยพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางของการจัดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าของภูมิภาคต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำได้พูดคุยกับรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร ซึ่งประเทศเหล่านี้ก็ได้แสดงท่าทีสนับสนุนการจัดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าในภูมิภาคด้วยเช่นกันในการพบกับนายกรัฐมนตรีจีน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ขอบคุณรัฐบาลจีนในการมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์ในไทยจำนวน 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งการที่จีนส่งทีมกู้ภัยและนิติเวชมายังประเทศไทย ซึ่งจีนยังได้เสนอให้ความช่วยเหลือในการวิเคราะห์ดีเอ็นเอของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวในไทยด้วย
โอกาสนี้ ไทยได้เสนอความร่วมมือด้านเทคนิคและผู้เชี่ยวชาญในการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล ซึ่งจีนสนับสนุนและพร้อมให้ความช่วยเหลือไทยในด้านนี้อย่างเต็มที่
ในการพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเกาหลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ฝ่ายเกาหลีใต้ได้แสดงท่าสนับสนุนในหลักการต่อการที่จะขยายขอบเขตและหน้าที่ของ ADPC และจะพิจารณาให้การสบับสนุนทางการเงินต่อการจัดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าในภูมิภาคด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้กล่าวถึงการให้ความสำคัญต่อการศึกษาและการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับภัยพิบัติ ซึ่งจะเป็นปัจจัยพื้นฐานในการที่ประเทศจะสามารถเผชิญกับปัญหาโดยลดอัตราการสูญเสียลงได้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2548 ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังการพบหารือทวิภาคีกับนาย Lee Hae-Chan นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเกาหลี นาย Wen Jiabao นายกรัฐมนตรีจีน และนาย Alberto G. Romulo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในโอกาสเดินทางมาร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนว่าด้วยผลกระทบจากธรณีพิบัติภัยในฐานะผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีในวันที่ 6 มกราคม 2548 โดยมีประเทศสมาชิกอาเซียน 10ประเทศ และกลุ่มประเทศในกรอบ ASEAN +3 ซึ่งได้แก่ จีน สาธารณรัฐเกาหลี และญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศที่ประสบภัย คืออินเดีย ศรีลังกา และมัลดีฟส์ ตลอดจนประเทศและองค์การระหว่างประเทศต่างๆ อาทิ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหประชาชาติ สหภาพยุโรป ธนาคารโลก องค์การอนามัยโลก และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
ผู้นำรัฐบาลและรัฐมนตรีของทั้ง 4 ประเทศ มีความคิดเห็นสอดคล้องกันในการจัดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าในภูมิภาค (Early Warning System) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในแถบมหาสมุทรอินเดียซึ่งปัจจุบันยังไม่มีระบบเตือนภัยล่วงหน้าในเรื่องแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์ (Tsunami) โดยไทยได้เสนอให้มีการใช้กลไกที่มีอยู่โดยขยายศูนย์เตรียมพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย (Asian Disaster Preparedness Center : ADPC) ซึ่งเป็นมูลนิธิองค์กรเอกชนภายใต้สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย โดยได้รับการสนับสนุนจาก
โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ปัจจุบัน ADPC มีสมาชิก 30 ประเทศ และกำลังอยู่ระหว่างการขยายขอบเขตหน้าที่และเพิ่มศักยภาพเพื่อให้เป็นองค์กรระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ฝ่ายไทยเห็นว่า การใช้ประโยชน์จาก ADPC เพื่อให้เป็นองค์กรรับผิดชอบดูแลระบบเตือนภัยล่วงหน้าฯ จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของประเทศในภูมิภาค เพื่อให้สามารถเผชิญกับภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงเช่นนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ไทยพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางของการจัดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าของภูมิภาคต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำได้พูดคุยกับรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร ซึ่งประเทศเหล่านี้ก็ได้แสดงท่าทีสนับสนุนการจัดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าในภูมิภาคด้วยเช่นกันในการพบกับนายกรัฐมนตรีจีน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ขอบคุณรัฐบาลจีนในการมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์ในไทยจำนวน 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งการที่จีนส่งทีมกู้ภัยและนิติเวชมายังประเทศไทย ซึ่งจีนยังได้เสนอให้ความช่วยเหลือในการวิเคราะห์ดีเอ็นเอของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวในไทยด้วย
โอกาสนี้ ไทยได้เสนอความร่วมมือด้านเทคนิคและผู้เชี่ยวชาญในการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล ซึ่งจีนสนับสนุนและพร้อมให้ความช่วยเหลือไทยในด้านนี้อย่างเต็มที่
ในการพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเกาหลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ฝ่ายเกาหลีใต้ได้แสดงท่าสนับสนุนในหลักการต่อการที่จะขยายขอบเขตและหน้าที่ของ ADPC และจะพิจารณาให้การสบับสนุนทางการเงินต่อการจัดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าในภูมิภาคด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้กล่าวถึงการให้ความสำคัญต่อการศึกษาและการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับภัยพิบัติ ซึ่งจะเป็นปัจจัยพื้นฐานในการที่ประเทศจะสามารถเผชิญกับปัญหาโดยลดอัตราการสูญเสียลงได้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-