กรุงเทพ--21 ก.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2548 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้เป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลแห่งราช อาณาจักรไทย โดยมี ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเห็นผู้ลงนามฝ่ายไทยและนาย Norman Y. Mineta รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ลงนามฝ่ายสหรัฐฯ การลงนามความตกลงครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากการเจรจาการเปิดเสรีการบินของเที่ยวบินผู้โดยสารระหว่างคณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ (กร.) ของไทยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตันระหว่างวันที่ 7-9 กันยายน 2548 โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะอนุญาตให้สายการบินของทั้งสองฝ่ายมีสิทธิทำการบินได้อย่างเสรีโดยไม่จำกัดสายการบิน จำนวนเที่ยวบินและเส้นทางการบิน
ในส่วนเที่ยวบินภายใต้เสรีภาพที่ 5 นั้น ทั้งสองฝ่ายตกลงจะอนุญาตให้สายการบินของทั้งสองฝ่ายมีสิทธิทำการบินได้อย่างเสรีโดยไม่จำกัดสายการบิน จำนวนเที่ยวบินและเส้นทางการบินเช่นกัน แต่มีบทเฉพาะระยะเวลา 5 ปี เพื่อให้อุตสาหกรรมการบินของไทยมีเวลาเพียงพอในการปรับตัว เพื่อรองรับการแข่งขันในตลาดเสรีในระยะเวลา 5 ปีนี้ โดยจะมีการเพิ่มสิทธิโดยให้สายการบินทำการบินรับขนจราจรเสรีภาพที่ 5 ได้เป็นระยะๆ จนถึง 49 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งในจำนวนนี้ให้แวะจุดระหว่างทางได้ไม่เกิน 35 จุดต่อสัปดาห์ต่อจุด หลังจากนั้นให้สายการบินของทั้งสองฝ่ายทำการบินเสรีได้อย่างไม่มีข้อจำกัดได้ตั้งแต่ปี 2553 อย่างไรก็ดี หลังจากการเปิดเสรีไปแล้ว 3 ปี ฝ่ายไทยจะจัดให้มีการประเมินผลว่าได้ประโยชน์หรือไม่เพียงใด ซึ่งสหรัฐฯ ก็แสดงความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการประเมินด้วย
อนึ่ง เมื่อวันที่ 9-10 กันยายน 2546 ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น และนาย Colin Powell ได้ลงนามใน Protocol to the Air Service Agreement พิธีสารดังกล่าวเป็นการขยายกรอบความตกลงทางการบินที่ให้ความครอบคลุมสิทธิการขนส่งทางอากาศ โดยกำหนดให้ภาคีทั้งสองประเทศสามารถทำการบินขนส่งเฉพาะสินค้าได้อย่างไม่มีข้อจำกัดในเรื่องความจุความถี่ของการบริการ รวมถึงสิทธิประกอบการขนส่งทางบก/ภาคพื้นดินในส่วนที่ต่อเนื่องกับการขนส่งทางอากาศ
การจัดทำความตกลงเปิดเสรีการบินทั้งในด้านการขนส่งสินค้า และผู้โดยสารในครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เดินทาง ธุรกิจการขนส่งสินค้า และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคด้วย นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เนื่องจากการเปิดเสรีจะทำให้มีบริการขนส่งทางอากาศเพื่อนำนักท่องเที่ยวเข้าถึงจุดเหล่านั้นมากยิ่งขึ้นด้วย
- เสรีภาพที่ 5 คือ สิทธิการบินของประเทศที่หนึ่งที่ใช้ในการขนส่งในเชิงการค้าจากประเทศที่สองไปยังประเทศที่สาม หรือจากประเทศที่สามมายังประเทศที่สอง ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1) Intermediate Fifth Freedom Type คือ การขนส่งจากประเทศที่สามมายังประเทศที่สอง
2) Beyond Rights Fifth Freedom Type คือ การขนส่งจากประเทศที่สองไปยังประเทศที่สาม
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2548 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้เป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลแห่งราช อาณาจักรไทย โดยมี ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเห็นผู้ลงนามฝ่ายไทยและนาย Norman Y. Mineta รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ลงนามฝ่ายสหรัฐฯ การลงนามความตกลงครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากการเจรจาการเปิดเสรีการบินของเที่ยวบินผู้โดยสารระหว่างคณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ (กร.) ของไทยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตันระหว่างวันที่ 7-9 กันยายน 2548 โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะอนุญาตให้สายการบินของทั้งสองฝ่ายมีสิทธิทำการบินได้อย่างเสรีโดยไม่จำกัดสายการบิน จำนวนเที่ยวบินและเส้นทางการบิน
ในส่วนเที่ยวบินภายใต้เสรีภาพที่ 5 นั้น ทั้งสองฝ่ายตกลงจะอนุญาตให้สายการบินของทั้งสองฝ่ายมีสิทธิทำการบินได้อย่างเสรีโดยไม่จำกัดสายการบิน จำนวนเที่ยวบินและเส้นทางการบินเช่นกัน แต่มีบทเฉพาะระยะเวลา 5 ปี เพื่อให้อุตสาหกรรมการบินของไทยมีเวลาเพียงพอในการปรับตัว เพื่อรองรับการแข่งขันในตลาดเสรีในระยะเวลา 5 ปีนี้ โดยจะมีการเพิ่มสิทธิโดยให้สายการบินทำการบินรับขนจราจรเสรีภาพที่ 5 ได้เป็นระยะๆ จนถึง 49 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งในจำนวนนี้ให้แวะจุดระหว่างทางได้ไม่เกิน 35 จุดต่อสัปดาห์ต่อจุด หลังจากนั้นให้สายการบินของทั้งสองฝ่ายทำการบินเสรีได้อย่างไม่มีข้อจำกัดได้ตั้งแต่ปี 2553 อย่างไรก็ดี หลังจากการเปิดเสรีไปแล้ว 3 ปี ฝ่ายไทยจะจัดให้มีการประเมินผลว่าได้ประโยชน์หรือไม่เพียงใด ซึ่งสหรัฐฯ ก็แสดงความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการประเมินด้วย
อนึ่ง เมื่อวันที่ 9-10 กันยายน 2546 ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น และนาย Colin Powell ได้ลงนามใน Protocol to the Air Service Agreement พิธีสารดังกล่าวเป็นการขยายกรอบความตกลงทางการบินที่ให้ความครอบคลุมสิทธิการขนส่งทางอากาศ โดยกำหนดให้ภาคีทั้งสองประเทศสามารถทำการบินขนส่งเฉพาะสินค้าได้อย่างไม่มีข้อจำกัดในเรื่องความจุความถี่ของการบริการ รวมถึงสิทธิประกอบการขนส่งทางบก/ภาคพื้นดินในส่วนที่ต่อเนื่องกับการขนส่งทางอากาศ
การจัดทำความตกลงเปิดเสรีการบินทั้งในด้านการขนส่งสินค้า และผู้โดยสารในครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เดินทาง ธุรกิจการขนส่งสินค้า และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคด้วย นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เนื่องจากการเปิดเสรีจะทำให้มีบริการขนส่งทางอากาศเพื่อนำนักท่องเที่ยวเข้าถึงจุดเหล่านั้นมากยิ่งขึ้นด้วย
- เสรีภาพที่ 5 คือ สิทธิการบินของประเทศที่หนึ่งที่ใช้ในการขนส่งในเชิงการค้าจากประเทศที่สองไปยังประเทศที่สาม หรือจากประเทศที่สามมายังประเทศที่สอง ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1) Intermediate Fifth Freedom Type คือ การขนส่งจากประเทศที่สามมายังประเทศที่สอง
2) Beyond Rights Fifth Freedom Type คือ การขนส่งจากประเทศที่สองไปยังประเทศที่สาม
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-