แท็ก
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
พรรคประชาธิปัตย์
เศรษฐกิจพอเพียง
สาธิต ปิตุเตชะ
ประชาสัมพันธ์
โรงแรมคอนราด
วันนี้ 18 ก.พ.50 นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแต่งตั้งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานโครงการเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงกับต่างประเทศ ว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดและได้ไม่คุ้มเสียในเชิงบริหารและในเชิงทางการเมือง ที่สำคัญก็จะก่อให้เกิดปัญหา พร้อมฟันธงว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้าว่ารัฐบาลจะไม่ได้ความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ เพราะในคนคนเดียวกันจะสามารถมีความเชื่อใน 2 ทฤษฎีซึ่งมีความแตกต่างและตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง
นอกจากนี้นายสาธิต ยังเห็นว่าต่างประเทศจะมีความรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องการเมืองเท่านั้นและก็จะไม่เข้าใจมากกว่าที่จะได้รับความเชื่อมั่น ที่สำคัญที่สุดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นวิธีคิด เป็นปรัชญาที่ดีและก็ถูกต้องในตัวของปรัชญาเองแล้ว ไม่จำเป็นต้องได้รับความเชื่อถือจากผู้ที่จะไปอธิบาย เพราะฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลหวังในเรื่องนี้คงจะไม่เป็นจริง และหากรัฐบาลหวังจะเห็นภาพความสมานฉันท์จากการตั้งบุคคลดังกล่าว นายสาธิตเห็นว่า ภาพความสมานฉันท์นั้นคงไม่เกิดขึ้น หรือจะเป็นความสมานฉันท์นั้นก็เป็นความสมานฉันท์กับกลุ่มอำนาจเก่า ที่สำคัญที่สุดความสมานฉันท์นั้นย่อมจะไม่เกิดขึ้นกับความถูกและความผิด ปรัชญาความพอเพียงนั้นถือว่าเป็นความถูก แต่ว่าเศรษฐกิจประชานิยมพวกเราคิดว่าเป็นความผิด เพราะฉะนั้นความสมานฉันท์นั้นจะเอาความถูกและความผิดนั้นมาสมานฉันท์ไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ยืนยันว่าในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องความสมานฉันท์ใด ๆ ทั้งสิ้น
“รัฐบาลต้องยึดมั่นต่อความถูกต้องและต้องแยกถูกแยกผิด แต่ความสมานฉันท์นั้นควรจะสมานฉันท์กับประชาชนในประเทศให้เกิดความสามัคคี” นายสาธิต กล่าว
นอกจากนี้รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังเห็นว่าเป็นเรื่องเสี่ยงเกินไปที่รัฐบาลและคมช.จะไว้ใจนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ในอนาคตจะไม่มีการต่อท่อ จะไม่มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เพราะว่าคนที่สามารถเปลี่ยนจุดยืนได้เพียงแค่ข้ามชั่วคืน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็สามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลาเช่นกันเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ที่สำคัญก็คือเสี่ยงเกินไปสำหรับภาพลักษณ์ของรัฐบาลชุดนี้ ที่ในทางการเมืองก็อาจมองได้ว่าเป็นการที่จะสืบทอดอำนาจหรือไม่
“ปัญหาการเมืองที่จะเกิดขึ้นในคมช.ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผมขอฟันธงว่าปัญหานี้จะสร้างความเสียใจให้กับรัฐบาลและจะเกิดปัญหาทั้งสิ้นกับรัฐบาลชุดนี้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด ๆ ว่ารัฐบาลเอาท้าวเทวทัตไปสอนธรรมะกับพุทธศาสนิกชน” นายสาธิต กล่าวทิ้งท้าย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 ก.พ. 2550--จบ--
นอกจากนี้นายสาธิต ยังเห็นว่าต่างประเทศจะมีความรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องการเมืองเท่านั้นและก็จะไม่เข้าใจมากกว่าที่จะได้รับความเชื่อมั่น ที่สำคัญที่สุดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นวิธีคิด เป็นปรัชญาที่ดีและก็ถูกต้องในตัวของปรัชญาเองแล้ว ไม่จำเป็นต้องได้รับความเชื่อถือจากผู้ที่จะไปอธิบาย เพราะฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลหวังในเรื่องนี้คงจะไม่เป็นจริง และหากรัฐบาลหวังจะเห็นภาพความสมานฉันท์จากการตั้งบุคคลดังกล่าว นายสาธิตเห็นว่า ภาพความสมานฉันท์นั้นคงไม่เกิดขึ้น หรือจะเป็นความสมานฉันท์นั้นก็เป็นความสมานฉันท์กับกลุ่มอำนาจเก่า ที่สำคัญที่สุดความสมานฉันท์นั้นย่อมจะไม่เกิดขึ้นกับความถูกและความผิด ปรัชญาความพอเพียงนั้นถือว่าเป็นความถูก แต่ว่าเศรษฐกิจประชานิยมพวกเราคิดว่าเป็นความผิด เพราะฉะนั้นความสมานฉันท์นั้นจะเอาความถูกและความผิดนั้นมาสมานฉันท์ไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ยืนยันว่าในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องความสมานฉันท์ใด ๆ ทั้งสิ้น
“รัฐบาลต้องยึดมั่นต่อความถูกต้องและต้องแยกถูกแยกผิด แต่ความสมานฉันท์นั้นควรจะสมานฉันท์กับประชาชนในประเทศให้เกิดความสามัคคี” นายสาธิต กล่าว
นอกจากนี้รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังเห็นว่าเป็นเรื่องเสี่ยงเกินไปที่รัฐบาลและคมช.จะไว้ใจนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ในอนาคตจะไม่มีการต่อท่อ จะไม่มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เพราะว่าคนที่สามารถเปลี่ยนจุดยืนได้เพียงแค่ข้ามชั่วคืน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็สามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลาเช่นกันเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ที่สำคัญก็คือเสี่ยงเกินไปสำหรับภาพลักษณ์ของรัฐบาลชุดนี้ ที่ในทางการเมืองก็อาจมองได้ว่าเป็นการที่จะสืบทอดอำนาจหรือไม่
“ปัญหาการเมืองที่จะเกิดขึ้นในคมช.ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผมขอฟันธงว่าปัญหานี้จะสร้างความเสียใจให้กับรัฐบาลและจะเกิดปัญหาทั้งสิ้นกับรัฐบาลชุดนี้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด ๆ ว่ารัฐบาลเอาท้าวเทวทัตไปสอนธรรมะกับพุทธศาสนิกชน” นายสาธิต กล่าวทิ้งท้าย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 ก.พ. 2550--จบ--