นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยสถานะหนี้สาธารณะ ล่าสุด ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2549 ซึ่งลดลงจากเดือนก่อน 22,936 ล้านบาท และผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ของภาครัฐประจำเดือนมกราคม 2550 และในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2550 ดังนี้
1. การปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐ
1.1 ในเดือนมกราคม 2550
กระทรวงการคลังได้ออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) ที่ครบกำหนดไถ่ถอน เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2549 จำนวน 35,000 ล้านบาท โดยได้กู้เงินระยะสั้นสมทบกับเงินที่ได้จากการประมูลพันธบัตรมาไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด แล้วทยอยออกพันธบัตรเพื่อมาชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น ซึ่งได้รับเงินจากการประมูลพันธบัตรในเดือนนี้ 11,000 ล้านบาท และได้นำส่วนเกินจากการประมูลพันธบัตร (Premium) มาชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้น ทำให้สามารถลดยอดหนี้ได้ 500 ล้านบาท ในส่วนของรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้ Roll over หนี้เดิมรวม 2,000 ล้านบาท
1.2 ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2550
ด้านต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศโดยชำระคืนก่อนครบกำหนด 18,416 ล้านบาท และ Refinance เงินกู้ ECP ซึ่งใช้เป็น Bridge Financing ในการ Refinance เงินกู้ JBIC ด้วยเงินบาท 6,700 ล้านบาท ผลจากการดำเนินการดังกล่าวทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้รวม 18,416 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยได้รวม 810 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศวงเงินรวม 9,451 ล้านบาท
ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศโดยการแปลงตั๋วเงินคลังที่ออกเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 32,000 ล้านบาท เป็นพันธบัตรและปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรและตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ FIDF1 วงเงิน 45,000 ล้านบาท และ Roll over หนี้เดิมของรัฐวิสาหกิจรวม 8,900 ล้านบาท
2. การกู้เงินของภาครัฐ
2.1 ในเดือนมกราคม 2550
กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศโดยการออกพันธบัตรเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ วงเงิน 23,000 ล้านบาท และได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์เพื่อชดใช้ให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง (FIDF3) 500 ล้านบาท
2.2 ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2550
ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 40,333 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 39,280 ล้านบาท และ รัฐวิสาหกิจ 1,053 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจได้กู้เงินต่างประเทศ 31,803 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้นอกแผนการก่อหนี้ต่างประเทศ
สถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2549
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 มีจำนวน 3,162,064 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.48 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 1,954,084 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 914,532 ล้านบาท หนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 231,981 ล้านบาท และหนี้องค์กรของรัฐอื่น 61,467 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหนี้สาธารณะลดลง 22,936 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง ลดลง 6,684 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 11,097 ล้านบาท หนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ และหนี้องค์กรของรัฐอื่นลดลง 24,401 ล้านบาท และ 2,948 ล้านบาท ตามลำดับ
หนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 474,565 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.01 และหนี้ในประเทศ 2,687,498 ล้านบาท หรือร้อยละ 84.99 และเป็นหนี้ระยะยาว 2,661,910 ล้านบาท หรือร้อยละ 84.18 และหนี้ระยะสั้น 500,154 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.82 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 14/2550 21 กุมภาพันธ์ 50--
1. การปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐ
1.1 ในเดือนมกราคม 2550
กระทรวงการคลังได้ออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) ที่ครบกำหนดไถ่ถอน เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2549 จำนวน 35,000 ล้านบาท โดยได้กู้เงินระยะสั้นสมทบกับเงินที่ได้จากการประมูลพันธบัตรมาไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด แล้วทยอยออกพันธบัตรเพื่อมาชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น ซึ่งได้รับเงินจากการประมูลพันธบัตรในเดือนนี้ 11,000 ล้านบาท และได้นำส่วนเกินจากการประมูลพันธบัตร (Premium) มาชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้น ทำให้สามารถลดยอดหนี้ได้ 500 ล้านบาท ในส่วนของรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้ Roll over หนี้เดิมรวม 2,000 ล้านบาท
1.2 ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2550
ด้านต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศโดยชำระคืนก่อนครบกำหนด 18,416 ล้านบาท และ Refinance เงินกู้ ECP ซึ่งใช้เป็น Bridge Financing ในการ Refinance เงินกู้ JBIC ด้วยเงินบาท 6,700 ล้านบาท ผลจากการดำเนินการดังกล่าวทำให้สามารถลดยอดหนี้คงค้างได้รวม 18,416 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยได้รวม 810 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศวงเงินรวม 9,451 ล้านบาท
ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศโดยการแปลงตั๋วเงินคลังที่ออกเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 32,000 ล้านบาท เป็นพันธบัตรและปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรและตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ FIDF1 วงเงิน 45,000 ล้านบาท และ Roll over หนี้เดิมของรัฐวิสาหกิจรวม 8,900 ล้านบาท
2. การกู้เงินของภาครัฐ
2.1 ในเดือนมกราคม 2550
กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศโดยการออกพันธบัตรเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ วงเงิน 23,000 ล้านบาท และได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์เพื่อชดใช้ให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง (FIDF3) 500 ล้านบาท
2.2 ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2550
ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 40,333 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 39,280 ล้านบาท และ รัฐวิสาหกิจ 1,053 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจได้กู้เงินต่างประเทศ 31,803 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้นอกแผนการก่อหนี้ต่างประเทศ
สถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2549
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 มีจำนวน 3,162,064 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.48 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 1,954,084 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 914,532 ล้านบาท หนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 231,981 ล้านบาท และหนี้องค์กรของรัฐอื่น 61,467 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหนี้สาธารณะลดลง 22,936 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง ลดลง 6,684 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 11,097 ล้านบาท หนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ และหนี้องค์กรของรัฐอื่นลดลง 24,401 ล้านบาท และ 2,948 ล้านบาท ตามลำดับ
หนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 474,565 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.01 และหนี้ในประเทศ 2,687,498 ล้านบาท หรือร้อยละ 84.99 และเป็นหนี้ระยะยาว 2,661,910 ล้านบาท หรือร้อยละ 84.18 และหนี้ระยะสั้น 500,154 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.82 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 14/2550 21 กุมภาพันธ์ 50--