อุตสาหกรรมขนส่งสินค้าทั่วโลกกำลังเผชิญกับความยุ่งยากครั้งใหญ่ เมื่อสภาคองเกรสและคณะกรรมาธิการความมั่นคงภายในของสหรัฐเห็นชอบร่วมกันในร่างกฎหมายขนส่งสินค้าฉบับใหม่ที่กำหนดให้มีการตรวจสอบตู้บรรจุสินค้าขาเข้าสหรัฐอย่างละเอียดนับตั้งแต่ท่าเรือต้นทางในต่างประเทศ
ผู้นำเข้าในสหรัฐโจมตีมาตรการดังกล่าวว่าจะทำให้การนำเข้าสินค้าของสหรัฐเกิดความสับสนวุ่นวายเนื่องจากจะต้องมีการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดที่จะส่งเข้าสหรัฐตั้งแต่ประเทศต้นทาง โดยกฎหมายฉบับนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาคองเกรส ทั้งนี้ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วินาศกรรมในสหรัฐ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ทำให้เกิดแนวคิดในการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์อย่างเข้มงวดเนื่องจากมองว่าอาจจะมีการลักลอบนำเข้าวัตถุอันตรายเข้ามาทางตู้คอนเทนเนอร์เพื่อโจมตีสหรัฐ
กฎหมายฉบับนี้ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาคองเกรส เนื่องจากเชื่อว่ากฎหมาย Safe Port Act ซึ่งประกาศใช้เมื่อปีที่ผ่านมามีความอ่อนแอเกินไปจนทำให้เกิดความเสี่ยงที่ผู้ก่อการร้ายจะเข้ามาโจมตีสหรัฐ โดยลักลอบนำเข้าวัตถุอันตรายมาทางตู้คอนเทนเนอร์ในกฎหมายฉบับใหม่ระบุว่า การตรวจสอบตู้สินค้าที่ขนส่งทางอากาศ (Air Cargo) จะมีเวลาปรับตัวสำหรับหลักเกณฑ์ใหม่ 3 ปี ส่วนตู้สินค้าที่ขนส่งทางทะเลจะต้องปรับตัวภายใน 5 ปี
อย่างไรก็ตาม มีหลายฝ่ายมองว่ากฎหมายฉบับนี้มีความเป็นไปได้ยาก คือ
1. เป็นการยากที่สหรัฐจะผลักดันให้ประเทศคู่ค้าสหรัฐบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดเช่นนี้
2. การบังคับใช้ตามมาตรการดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพเป็นไปได้ยาก เนื่องจากความสามารถทางเทคโนโลยีที่สหรัฐมีอยู่ในขณะนี้ยังไม่เพียงพอต่อการตรวจสอบโดยละเอียด และเห็นว่ามาตรการปัจจุบันภายใต้ Safe Port Act เพียงพอแล้ว
ที่มา: http://www.depthai.go.th