การเจรจาชดเชยผลกระทบการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีข้าวของสหภาพยุโรปภายใต้มาตรา 28 ของแกตต์

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 27, 2005 15:10 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

          นางอภิรดี  ตันตราภรณ์  อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการที่คณะมนตรียุโรปมีมติเมื่อปี 2546 ให้ปฏิรูปนโยบายเกษตรร่วมของสหภาพยุโรป (CAP Reform) ซึ่งรวมถึงนโยบายสินค้าข้าว  โดยกำหนดให้ลดราคาแทรกแซงลงครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้อัตราภาษีข้าวขาวและข้าวกล้องลดลงประมาณร้อยละ 55 ตั้งแต่เดือนกันยายน 2547 นั้น  ทำให้ EU ไม่สามารถคุ้มครองอุตสาหกรรมภายในของตนได้  EU จึงขอปรับเปลี่ยนระบบการนำเข้าข้าวใหม่จากระบบ Margin of Preference (MOP) เป็นระบบภาษีอัตราภาษีคงที่ (Fixed Rate)  โดยเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2547  EU ได้กำหนดอัตราภาษีสำหรับข้าวกล้อง (พิกัด 100620)  ที่ 65 ยูโร/ตัน  และข้าวขาว (พิกัด 100630)  ที่ 175 ยูโร/ตัน  
นางอภิรดี กล่าวว่าไทยและ EU มีการเจรจาอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้หลายครั้ง โดยสามารถสรุปผลการเจรจาได้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2548 ซึ่งตกลงกันว่า ข้าวขาว EU จะกำหนดอัตราภาษีที่เรียกเก็บ (applied rate) เป็น 2 อัตราคือ อัตราต่ำที่ 145 ยูโร/ตัน และอัตราสูงที่ 175 ยูโร/ตัน โดยจะเริ่มเก็บที่อัตรา 145 ยูโร/ตัน หากปริมาณนำเข้าข้าวขาวของปีการตลาดก่อนหน้า (1กันยายน-31 สิงหาคม) ต่ำกว่าหรือเท่ากับ 387,743 ตัน และเรียกเก็บที่อัตรา 175 ยูโร/ตัน หากปริมาณนำเข้าข้าวขาวของปีการตลาดก่อนหน้าสูงกว่า 387,743 ตัน ทั้งนี้ กำหนดให้มีการพิจารณาการปรับภาษีปีละ 2 ครั้ง และ EU ตกลงจะเพิ่มโควตารวมสำหรับข้าวขาวอีก 13,500 ตัน ที่อัตราภาษี 0 ด้วย โดยจะจัดสรรโควตาจำนวนนี้ให้ไทยเป็นจำนวน 4,313 ตัน นอกจากนี้ EU ตกลงจะกำหนดอัตราภาษีที่เรียกเก็บ (applied rate) สำหรับข้าวหักที่ 65 ยูโร/ตัน และจะเพิ่มโควตาข้าวหักจาก 80,000 ตัน เป็น 100,000 ตัน และลดภาษีในโควตาลงจาก 100 ยูโร/ตัน เป็น 45 ยูโร/ตัน (applied rate — 30.77%)
ทั้งนี้ คณะกรรมธิการยุโรปได้นำผลการเจรจานี้เข้าสู่กระบวนการภายในของ EU เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย ซึ่งต้องใช้เวลาจึงทำให้ในทางปฏิบัติความตกลงฯ ดังกล่าวยังไม่สามารถมีผลบังคับใช้ได้ทัน 1 กันยายน 2548 ตามที่ตกลงกัน อย่างไรก็ตาม EU ตกลงที่จะให้ความตกลงฯ มีผลบังคับใช้ย้อนหลัง
นางอภิรดี กล่าวว่าล่าสุด EU และไทยได้ลงนามในความตกลงดังกล่าวในรูปของสาส์นแลกเปลี่ยน เมื่อวันที่ 20 และ 21 ธันวาคม 2548 ตามลำดับ ซึ่งทำให้ความตกลงฯ มีผลสมบูรณ์และ EU แจ้งว่าจะสามารถออกประกาศได้ภายใน 1 มกราคม 2549
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ