กรุงเทพ--2 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
1. นายรัตนศิริ วิกรามานายากา นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาได้เยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม -1 เมษายน 2550 ตามคำเชิญของ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีไทย การเยือนครั้งนี้เป็นการเยือนระดับสูงจากศรีลังกาครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2546
2. วันที่ 30 มีนาคม 2550 นายกรัฐมนตรีศรีลังกาได้หารือกับนายกรัฐมนตรีไทยในประเด็นต่างๆ อย่างกว้างขวางในบรรยากาศที่เป็นมิตรและสร้างสรรค์ หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีไทยได้เลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีศรีลังกาและคณะ
3. นายกรัฐมนตรีทั้งสองหารือถึงประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคี ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน วัฒนธรรมและความมั่นคง ทั้งสองแสดงความยินดีต่อความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของสายสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมและศาสนาที่เข้มแข็งกว่า 800 ปีที่ผ่านมา ทั้งสองรำลึกด้วยความยินดีถึงการเฉลิมฉลองครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 50 ปีในเดือนพฤศจิกายน 2548 และย้ำเจตจำนงที่จะสานต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีและความร่วมมือในทุกสาขาบนพื้นฐานของความสนใจร่วมกันและความสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่มีมายาวนาน
4. ด้านวัฒนธรรมและพุทธศาสนา นายกรัฐมนตรีไทยแสดงความขอบคุณอีกครั้งในความช่วยเหลือของศรีลังกาที่ได้บูรณะหอไตรและหอระฆังในวัดธรรมาราม จ. พระนครศรีอยุธยาในปี 2545 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความเคารพต่อพระอุบาลีที่ช่วยฟื้นฟูสถาบันพุทธศาสนาในศรีลังกากว่า 250 ปีที่ผ่านมา สองฝ่ายยินดีที่จะมีพิธีเปิดหอไตรอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 มีนาคม 2550 โดยนายรัตนศิริ วิกรามานายากา นายกรัฐมนตรีศรีลังกาและนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี
5. สองฝ่ายตกลงที่จะเริ่มโครงการการแลกเปลี่ยนพระภิกษุและนักวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยในสองประเทศ
6. นายกรัฐมนตรีศรีลังกาสรุปสถานการณ์ให้นายกรัฐมนตรีทราบเกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาลศรีลังกาในการสกัดกั้นกิจกรรมการก่อการร้ายของกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม โดยประธานาธิบดี มาฮินดา ราชปักษาได้พยายามหารือกับคณะกรรมการผู้แทนพรรคการเมืองเพื่อแสวงหาฉันทามติระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ ในการแก้ไขความขัดแย้งโดยการเจรจา
7. นายกรัฐมนตรีไทยยินดีกับความพยายามของรัฐบาลศรีลังกาที่ดำเนินอยู่ในการแสวงหาการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีทางการเมือง และไทยสนับสนุนอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของศรีลังกา ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะพยายามสกัดกั้นกิจกรรมการก่อการร้ายในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น
8. ด้านการค้า สองฝ่ายตกลงที่จะเร่งรัดการลงนามความตกลงสิทธิพิเศษทางการค้า สองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นถึงวิธีการในการเพิ่มมูลค่าการค้าในสาขาที่มีศักยภาพสำหรับความสนใจและผลประโยชน์ร่วมกัน เช่น การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทางการค้าระดับสูง การจัดการสัมมนาทางธุรกิจ และการแสดงนิทรรศการ ดังนั้น สองฝ่ายจึงสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคเอกชนดำเนินการในเรื่องนี้โดยเร็ว
9. ในเรื่องการค้า ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนให้ภาคเอกชนสำรวจโอกาสด้านการลงทุนในสาขาที่มีศักยภาพเช่น ด้านการประมง และโครงสร้างพื้นฐาน และรับทราบด้วยความยินดีถึงผลการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตรครั้งที่ 1 ที่เมืองเปราเดนิยา เมื่อ เดือนตุลาคม 2549 การหารือระหว่างคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เมื่อเดือนธันวาคม 2549 และการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการประมง เมื่อเดือนมีนาคม 2550 ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสริมสร้างการอนุวัติบันทึกความเข้าใจที่มีอยู่
10. นายกรัฐมนตรีศรีลังกาแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น รวมทั้งการจัดการต้อนรับต่างๆ ที่ทำให้การเยือนครั้งนี้ประสบผลสำเร็จด้วยดี และอยู่ในความทรงจำ
11. นายกรัฐมนตรีศรีลังกาได้เชื้อเชิญนายกรัฐมนตรีไทยเยือนศรีลังกาในโอกาสที่สะดวกทั้งสองฝ่ายซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยตอบรับด้วยความขอบคุณ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
1. นายรัตนศิริ วิกรามานายากา นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาได้เยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม -1 เมษายน 2550 ตามคำเชิญของ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีไทย การเยือนครั้งนี้เป็นการเยือนระดับสูงจากศรีลังกาครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2546
2. วันที่ 30 มีนาคม 2550 นายกรัฐมนตรีศรีลังกาได้หารือกับนายกรัฐมนตรีไทยในประเด็นต่างๆ อย่างกว้างขวางในบรรยากาศที่เป็นมิตรและสร้างสรรค์ หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีไทยได้เลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีศรีลังกาและคณะ
3. นายกรัฐมนตรีทั้งสองหารือถึงประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคี ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน วัฒนธรรมและความมั่นคง ทั้งสองแสดงความยินดีต่อความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของสายสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมและศาสนาที่เข้มแข็งกว่า 800 ปีที่ผ่านมา ทั้งสองรำลึกด้วยความยินดีถึงการเฉลิมฉลองครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 50 ปีในเดือนพฤศจิกายน 2548 และย้ำเจตจำนงที่จะสานต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีและความร่วมมือในทุกสาขาบนพื้นฐานของความสนใจร่วมกันและความสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่มีมายาวนาน
4. ด้านวัฒนธรรมและพุทธศาสนา นายกรัฐมนตรีไทยแสดงความขอบคุณอีกครั้งในความช่วยเหลือของศรีลังกาที่ได้บูรณะหอไตรและหอระฆังในวัดธรรมาราม จ. พระนครศรีอยุธยาในปี 2545 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความเคารพต่อพระอุบาลีที่ช่วยฟื้นฟูสถาบันพุทธศาสนาในศรีลังกากว่า 250 ปีที่ผ่านมา สองฝ่ายยินดีที่จะมีพิธีเปิดหอไตรอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 มีนาคม 2550 โดยนายรัตนศิริ วิกรามานายากา นายกรัฐมนตรีศรีลังกาและนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี
5. สองฝ่ายตกลงที่จะเริ่มโครงการการแลกเปลี่ยนพระภิกษุและนักวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยในสองประเทศ
6. นายกรัฐมนตรีศรีลังกาสรุปสถานการณ์ให้นายกรัฐมนตรีทราบเกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาลศรีลังกาในการสกัดกั้นกิจกรรมการก่อการร้ายของกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม โดยประธานาธิบดี มาฮินดา ราชปักษาได้พยายามหารือกับคณะกรรมการผู้แทนพรรคการเมืองเพื่อแสวงหาฉันทามติระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ ในการแก้ไขความขัดแย้งโดยการเจรจา
7. นายกรัฐมนตรีไทยยินดีกับความพยายามของรัฐบาลศรีลังกาที่ดำเนินอยู่ในการแสวงหาการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีทางการเมือง และไทยสนับสนุนอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของศรีลังกา ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะพยายามสกัดกั้นกิจกรรมการก่อการร้ายในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น
8. ด้านการค้า สองฝ่ายตกลงที่จะเร่งรัดการลงนามความตกลงสิทธิพิเศษทางการค้า สองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นถึงวิธีการในการเพิ่มมูลค่าการค้าในสาขาที่มีศักยภาพสำหรับความสนใจและผลประโยชน์ร่วมกัน เช่น การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทางการค้าระดับสูง การจัดการสัมมนาทางธุรกิจ และการแสดงนิทรรศการ ดังนั้น สองฝ่ายจึงสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคเอกชนดำเนินการในเรื่องนี้โดยเร็ว
9. ในเรื่องการค้า ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนให้ภาคเอกชนสำรวจโอกาสด้านการลงทุนในสาขาที่มีศักยภาพเช่น ด้านการประมง และโครงสร้างพื้นฐาน และรับทราบด้วยความยินดีถึงผลการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตรครั้งที่ 1 ที่เมืองเปราเดนิยา เมื่อ เดือนตุลาคม 2549 การหารือระหว่างคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เมื่อเดือนธันวาคม 2549 และการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการประมง เมื่อเดือนมีนาคม 2550 ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสริมสร้างการอนุวัติบันทึกความเข้าใจที่มีอยู่
10. นายกรัฐมนตรีศรีลังกาแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น รวมทั้งการจัดการต้อนรับต่างๆ ที่ทำให้การเยือนครั้งนี้ประสบผลสำเร็จด้วยดี และอยู่ในความทรงจำ
11. นายกรัฐมนตรีศรีลังกาได้เชื้อเชิญนายกรัฐมนตรีไทยเยือนศรีลังกาในโอกาสที่สะดวกทั้งสองฝ่ายซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยตอบรับด้วยความขอบคุณ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-